ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

             วันที่ 8 กันยายน 2560 จากกรณีที่ภาพจากโลกโซเชียลFacebookชื่อ พรเทพ จันทร์แย้ม ชาวโซเซียลได้ร่วมกันแชร์ภาพและคอมเม้นต์แห่ชื่นชมให้กับคู่รักคู่หนึ่งที่ชายหนุ่มวัย 22 ปีแบกแฟนสาวซึ่งพิการขาขาดไปจดทะเบียนสมรส ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองตรังเมื่อช่วงบ่ายวานนี้(7 กันยายน 2560) จนสร้างความประทับใจในรักแท้ของบุคคลทั้งสองคนเป็นอย่างมาก
              ผู้สื่อข่าวรายงานที่บ้านเลขที่ 50/5 หมู่ที่ 2 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง นายพรเทพ จันทร์แย้ม(น้องหนู) อายุ 22 ปีและนางเพชรมณี จันทร์แย้ม(น้องยุ้ย) อายุ 22 ปีเท่ากัน ซึ่งทั้งคู่เป็นบุคคลในภาพดังกล่าว และได้พบภาพน่าประทับใจคือน้องหนูกำลังทำแผลให้กับน้องยุ้ย เพื่อที่จะเดินทางไปทำ พ.ร.บ รถจักรยานยนต์ในเขตเทศบาลนครตรัง โดยน้องหนู เล่าว่า ตนและน้องยุ้ยทั้งสองคนทำงานที่โรงแรมเรือรัษฎา อ.เมืองตรัง และพบรักกันที่นั่น โดยน้องหนูทำงานที่โรงแรมเรือมาประมาณ 1 ปีเศษ ส่วนน้องยุ้ยเป็นนักศึกษาฝึกงาน ซึ่งเมื่อคบกันไปประมาณ 2-3 เดือน จึงรู้สึกชอบพอกันด้วยนิสัยที่ตรงไปตรงมาและขยันขันแข็ง เป็นกันเอง ตั้งใจว่าเมื่อน้องยุ้ยฝึกงานเสร็จ จึงจะใช้ชีวิตร่วมกัน แต่เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่น้องยุ้ยกำลังขับรถจักรยานยนต์ตามลำพังเพื่อไปทำงานที่โรงแรมเรือ ก็ถูกรถยนต์กระบะพุ่งออกจากซอยชนเข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้ขาหักจนต้องตัดขาข้างซ้ายเกือบถึงหัวเข่า ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียใจให้กับน้องหนูเป็นอย่างมาก แต่น้องหนูก็คอยดูแลน้องยุ้ยอยู่ตลอดเวลา เอาใจใส่เป็นอย่างดี จนเมื่อแฟนสาวออกจากโรงพยาบาลตรังแล้ว จึงตัดสินใจแบกน้องยุ้ยไปจดทะเบียนสมรสกัน ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองตรัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับแฟนสาวและจะได้เป็นตัวแทนเรียกร้องสิทธิต่าง ๆ ตามกฎหมายในฐานะสามีที่ถูกต้อง โดยน้องหนูบอกว่าไม่ได้ให้สัญญาอะไรกับน้องยุ้ยแต่รับปากว่าจะดูแลให้ดีที่สุดและไม่ทอดทิ้งกัน ถ้าเจ็บแทนได้ก็จะเจ็บแทน ซึ่งน้องยุ้ยเคยถามตนว่าไม่อายเหรอที่จะต้องไปไหนมาไหนกับคนพิการ ตนตอบว่าไม่อายและจะดูแลอย่างนี้ตลอดไป

นี่สินะ ที่เรียกว่ารักแท้!!!! หนุ่มแบกแฟนสาวพิการจดทะเบียนสมรส "ไม่ได้ให้สัญญาอะไรกับน้องยุ้ยแต่รับปากว่าจะดูแลให้ดีที่สุด"

นี่สินะ ที่เรียกว่ารักแท้!!!! หนุ่มแบกแฟนสาวพิการจดทะเบียนสมรส "ไม่ได้ให้สัญญาอะไรกับน้องยุ้ยแต่รับปากว่าจะดูแลให้ดีที่สุด"

             โดยหลังเกิดเหตุคู่กรณีชดใช้ค่าเสียหายมาเพียง 40,000 บาทขณะที่ค่ารักษาพยาบาลเกือบ 100,000 บาท แต่โชคดีที่ตนมีเงินเก็บอยู่บ้าง และขณะที่น้องหนูได้ดูแลแฟนสาวอยู่ที่โรงพยาบาล ตนเองก็ยังโพสต์ขายสินค้าน้ำหอม เพื่อหารายได้เสริมอีกช่องทางหนึ่งและคอยดูแลแฟนสาวไปพร้อมๆกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่เป็นคนที่ขยันทำมาหากิน และมีกำลังใจที่ดีในการต่อสู้และฝ่าฟันกับอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต และยังกล่าวถึงความประทับใจในตัวแฟนสาวขณะที่ทำงานด้วยกันอีกด้วย
           ส่วนหน้าที่การงานที่ได้ทำงานอยู่นั้น เบื้องต้น ทางโรงแรมเรือรัษฎา ได้ให้ทางน้องยุ้ยลาพัก จนกว่าจะหายดี และสามารถกลับมาทำงานใหม่ได้ โดยทางโรงแรมเรือรัษฎาจะเลือกแผนกที่เหมาะสมให้แก่น้องยุ้ยอีกด้วย

นี่สินะ ที่เรียกว่ารักแท้!!!! หนุ่มแบกแฟนสาวพิการจดทะเบียนสมรส "ไม่ได้ให้สัญญาอะไรกับน้องยุ้ยแต่รับปากว่าจะดูแลให้ดีที่สุด"

นี่สินะ ที่เรียกว่ารักแท้!!!! หนุ่มแบกแฟนสาวพิการจดทะเบียนสมรส "ไม่ได้ให้สัญญาอะไรกับน้องยุ้ยแต่รับปากว่าจะดูแลให้ดีที่สุด"

 

           ด้านนายพรเทพ จันทร์แย้ม กล่าวว่า ตนเองรู้สึกเสียใจ หากตนเจ็บแทนได้ก็จะยอมเจ็บแทนและยอมโดนรถชนแทน ยิ่งตอนที่รู้ว่าแฟนตัวเองต้องถูกตัดขา ตนก็ทำใจไม่ได้เหมือนกัน และทางโรงพยาบาลจะให้โอกาสอีก90เปอร์เซ็นต์ จนหมอทำสุดความสามารถในที่สุดก็ยอมตัดขา และที่ตนเองได้คิดจะไปจดทะเบียน เนื่องจากตนทำการเดินเรื่องคดีความแต่ตนเองไม่สามารถทำเรื่องให้ได้เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกัน จนมีคนแนะนำให้ไปจดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วยังสามารถมีสิทธิแทนแฟนดูแลช่วยเหลือแฟนได้ทุกอย่าง
            ด้านนางเพชรมณี จันทร์แย้ม กล่าวว่า แรกพบก็ไม่ได้นึกรัก แต่พบรู้จักกันไปนาน ๆ ทำให้รู้จักน้องหนูเป็นคนดี ตรงไปตรงมาและรับผิดชอบต่อหน้าที่ เป็นคนขยันตั้งใจทำงาน ยิ่งเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ยิ่งทำให้รู้สึกประทับใจเพราะน้องหนูได้ดูแลตนดีกว่าแต่ก่อนมาก ทำให้รู้สึกดีใจมีกำลังใจดีขึ้นและยิ่งประทับใจในตัวเขามากขึ้นกว่าเดิม

นี่สินะ ที่เรียกว่ารักแท้!!!! หนุ่มแบกแฟนสาวพิการจดทะเบียนสมรส "ไม่ได้ให้สัญญาอะไรกับน้องยุ้ยแต่รับปากว่าจะดูแลให้ดีที่สุด"

 

ภาพ/ข่าว สุนิภา หนองตรุด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ตรัง