งานเข้าอนุพงษ์!! คัดค้าน มท.1 ไร้การทำประชาคม เซ็นยกป่าชุมชนให้ บ.ทายาทกระทิงแดงสร้างโรงงาน

เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ทางเพจ  ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้โพสต์ข้อมูลและภาพเอกสารข้อมูล เกี่ยวกับกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนามในคำสั่งอนุมัติให้ บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ใช้ที่ดินสาธารณะที่ขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุมชนเพื่อขยายเขตโรงงาน

ระบุข้อความว่า

โรงงาน  “อนุพงษ์” เซ็นยกป่าชุมชนให้ “กระทิงแดง” สร้างโรงงาน
เปิดเอกสารมหาดไทย มท.1 เซ็นอนุมัติให้กระทิงแดงใช้ที่ดินสาธารณะที่ขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุมชนเพื่อขยายเขตโรงงาน อ้างสภาพแห้งแล้งชาวบ้านไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว ขณะระเบียบ มท. กำหนดอนุญาตได้ไม่เกิน 10 แต่จัดเต็ม 31 ไร่ อ้างการขยายโรงงานเป็นเหตุผลที่สมควร
เมื่อ 1 มิถุนายน 2559 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ลงนามอนุมัติให้ บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (กระทิงแดง) ใช้ “ที่สาธารณะห้วยเม็ก” เนื้อที่ประมาณ 31 ไร่ 2 งาน เป็นที่กักเก็บน้ำสำหรับโรงงานน้ำดื่มและเครื่องดื่ม ตามหนังสือของมหาดไทย ที่ มท 0208.4/886 ของสำนักกฎหมาย สป.
เป็นการอนุมัติตามระเบียบมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 ของประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2543 ข้อ 22 (2) โดยให้เหตผลว่าที่แปลงสาธารณะประโยชน์แปลดังกล่าว “..ปัจจุบันมีสภาพแห้งแล้งไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ราษฎรไม่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้ว และไม่ได้เป็นพื้นที่รับน้ำในฤดูฝนแต่อย่างใด..” และระบุต่อไปว่าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ราษฎรในพื้นที่ สภา อบต. พิจารณาแล้วเห็นควรอนุมัติ กับได้มีการประกาศการขออนุญาตใช้ที่ดินแล้ว “ไม่มีผู้ใด” คัดค้าน
ทั้งนี้ ระเบียบมหาดไทยฉบับเดียวกัน ข้อ 23 (3) กำหนดว่าในแต่ละจังหวัดจะอนุญาตให้ได้ต้องไม่เกิน 10 ไร่ เว้นแต่จะมีเหตุอันสมควร ซึ่งเหตุอันสมควรที่อนุมัติที่ดิน 31 ไร่ ให้เอกชนในครั้งนี้คือป่าชุมชนอยู่กึ่งกลางในเขตพื้นที่โรงงานและบริษัทมีความจำเป็นในการขยายโรงงาน
ที่สาธารณะห้วยเม็กอยู่ในเขตบ้านหนองแต้ หมู่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น คณะกรรมการชุมชนได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณะประโชยชน์มาตั้งแต่ปี 2526 ตาม นสล. เลขที่ ขก 2321 และได้มีการอนุรักษ์เป็นป่าชุมชน กำหนดกติกาการใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งนี้ บริษัทได้เข้าไปซื้อที่ดินบริเวณโดยรอบป่าชุมชุนตั้งแต่ช่วงปี 2555 และขอใช้ที่ดินเพื่อขยายโรงงานช่วงปี 2558 ซึ่งเรื่องคาราคาซังเรื่อยมา โดยถูกคัดค้านจากสภาองค์กรชุมชนตำบลบ้านดงมาตลอด ก่อนที่ มท.1 จะอนุมัติให้ใช้ “ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกัน” แปลงดังกล่าวเพื่อกิจการของเอกชน
ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 13 มกราคม 2554 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 288 ถนนเอกชัย แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจบริการดูแลและรักษาหลักทรัพย์ ปรากฎชื่อ นายสราวุฒิ อยู่วิทยา เป็นกรรมการผู้มีอำนาจถือหุ้นใหญ่สุด  16.6670% มูลค่า  833,350 บาท ส่วนนาย จิรวัฒน์ อยู่วิทยา นางสาวนุชรี อยู่วิทยา  และนางสาวสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ร่วมเป็นกรรมการ ถือหุ้นอยู่คนละ 16.6666% มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่คนละ 833,330 บาท  (อ้างอิงจากรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 25 เมษายน 2560  )

โดยนายสราวุฒิ อยู่วิทยา เป็นบุตรชายคนเล็กของนายเฉลียว อยู่วิทยา นักธุรกิจเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลัง กระทิงแดง เกิดวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2513 มีตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจกระทิงแดง ซึ่งเป็นบุคคลที่มีบทบาทมากที่สุดในการบริหารงานของบริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดงในปัจจุบัน  

ซึ่งทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

งานเข้าอนุพงษ์!! คัดค้าน มท.1 ไร้การทำประชาคม เซ็นยกป่าชุมชนให้ บ.ทายาทกระทิงแดงสร้างโรงงาน งานเข้าอนุพงษ์!! คัดค้าน มท.1 ไร้การทำประชาคม เซ็นยกป่าชุมชนให้ บ.ทายาทกระทิงแดงสร้างโรงงาน

 

งานเข้าอนุพงษ์!! คัดค้าน มท.1 ไร้การทำประชาคม เซ็นยกป่าชุมชนให้ บ.ทายาทกระทิงแดงสร้างโรงงาน งานเข้าอนุพงษ์!! คัดค้าน มท.1 ไร้การทำประชาคม เซ็นยกป่าชุมชนให้ บ.ทายาทกระทิงแดงสร้างโรงงาน ด้าน นายประทีป กีรติเรขา อธิบดีกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ออกมาชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่เอกสารที่กระทรวงมหาดไทยเซ็นยกป่าชุมชนในที่สาธารณะห้วยเม็ก 31 ไร่ใน อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ให้กับบริษัทกลุ่มกระทิงแดงว่า การอนุญาตดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายครบถ้วนถูกต้องตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ประกอบระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2543 และที่ผ่านมา
โดยทางด้าน บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ดีเวลลอปเมนท์ (กระทิงแดง) จำกัด ได้ยื่นขอนุญาตประกอบกิจการในที่ดินแปลงห้วยเม็กสาธารณประโยชน์ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ ขก 2321 หมู่ที่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ. ขอนแก่น เนื้อที่ประมาณ 31-2-63 ไร่นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นที่เก็บกักน้ำสำหรับประกอบกิจการอุตสาหกรรมผลิตน้ำดื่มและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นลักษณะแหล่งน้ำตามวัตถุประสงค์เดิมของที่สาธารณประโยชน์ ทางจังหวัดขอนแก่นได้รายงานข้อเท็จจริงว่าได้ปฏิบัติตามรูปแบบ ขั้นตอน และวิธีการ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2543 ครบถ้วนแล้ว ได้ข้อสรุปคือสภาพที่ดินแห้งแล้ง ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ปัจจุบันราษฎร ไม่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้ว ไม่มีทรัพยากรอันมีค่าในที่ดิน โดยทางอบต.บ้านดงและชาวบ้านในพื้นที่ ได้มีการประชุมลงมติเห็นชอบให้บริษัทเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะห้วยเม็กได้ โดยไม่มีการคัดค้าน

ซึ่งในวันนี้ 11 ก.ย. เวลา 10.30 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา จะไปยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รวมทั้งรมช.มหาดไทย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีต ผวจ.ขอนแก่น กรณีใช้อำนาจหน้าที่อนุมัติให้บริษัทเอกชนที่มีทายาทของบริษัทกระทิงแดงเป็นผู้บริหารให้เข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณประโยชน์ ชุมชนบ้านโคกห้วยแม็ก เป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนเข้ามาหากำไรเฉพาะในกลุ่มผู้ถือหุ้น ไม่ใช่เพื่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งขัดต่อระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ให้พลเมืองใช้ร่วมกัน พ.ศ. 2545ที่นำที่ดินป่าชุมชนมาให้เอกชนใช้ประโยชน์ นอกจากเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่และผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการแล้วยังขัดต่อนโยบายบริหารประเทศของรัฐบาลที่มีนโยบายดูแลพื้นที่ป่า

ชาวบ้านหนองแต้ ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ได้คัดค้านการอนุมัติของกระทรวงมหาดไทยให้บริษัทเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดังเข้ามาใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะห้วยเม็ก โดยประธานสภาองค์กรชุมชน ต.บ้านดง หนึ่งในชาวบ้านที่ได้ออกมาคัดค้านคำสั่งดังกล่าวได้เผยว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการมาตั้งโรงงานขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้ชาวบ้านมีงานทำ สร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชน แต่ไม่เห็นด้วยกับการจะมายึดพื้นที่สาธารณะซึ่งชาวบ้านยังมีการใช้ประโยชน์ เก็บหาของป่าขาย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ไม่ได้แห้งแล้งอย่างที่กล่าวอ้าง

ส่วนที่อ้างว่าไม่มีผู้ใดคัดค้านก็ไม่เป็นความจริง เพราะเท่าที่ผ่านมายังไม่ได้มีการมาถามความเห็นหรือทำประชาคมใดๆ ซึ่งหากมาทำก็ต้องคัดค้านกันแน่นอน เพราะป่านี้ชาวบ้านใช้ประโยชน์กันมานาน

 

งานเข้าอนุพงษ์!! คัดค้าน มท.1 ไร้การทำประชาคม เซ็นยกป่าชุมชนให้ บ.ทายาทกระทิงแดงสร้างโรงงาน

งานเข้าอนุพงษ์!! คัดค้าน มท.1 ไร้การทำประชาคม เซ็นยกป่าชุมชนให้ บ.ทายาทกระทิงแดงสร้างโรงงาน

ขอบคุณภาพ  ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน