"ยิ่งลักษณ์"โผล่แน่-แต่ต้องหลัง 27ก.ย.ไปแล้ว! ผู้รู้ฟันธงเธอโผล่แน่-หลังคำพิพากษาออกแล้ว ขณะทนายบอกจนขณะนี้ "หญิงปู" ไม่ส่งสัญญาณเรื่องคดี

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

ราวกับไร้ตัวตน!! "ยิ่งลักษณ์" หายยาว-ไร้ความเคลื่อนไหว ทนายบอกไม่ส่งสัญญาณเรื่องคดีทั้งสิ้น ขณะผู้รู้บอก เธอเคลื่อนไหวแน่ หลัง 27 ก.ย.นี้ ไม่ว่าผลของคดีจะออกมาทางไหน หากเป็นคุณก็อาจกลับมาเมืองไทย แต่หากเป็นโทษ เธอไปแล้วไปลับแน่ แต่จะเคลื่อนไหวผ่านโลกออนไลน์ โจมตีทุกฝ่ายของสังคมไทยที่อยู่ตรงข้ามกับเธอ...เหมือนที่พี่ชายกระทำมาตลอด 10 ปี


วันนี้ (11 ก.ย.) มีรายงานความคืบหน้า กรณีการหนีไม่ยอมไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมืองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว กระทั่งศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา และนัดอ่านคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 27 ก.ย.ที่จะถึงนี้


ล่าสุดต่อกรณีนี้ นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ในวันที่ 27 ก.ย. ไม่ว่าตัวจำเลยจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาหรือไม่ ศาลฎีกาก็จะต้องอ่านคำพิพากษาอยู่ดี ส่วนเรื่องหลักทรัพย์ที่ยื่นประกันตัวจำนวน 30 ล้านบาทตั้งแต่แรก ศาลสั่งปรับเต็มตามจำนวนไปตั้งเเต่วันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมาแล้ว ถึงเเม้วันที่ 27 ก.ย.จำเลยจะมาฟังคำพิพากษาหรือไม่นั้นตรงนี้ไม่เกี่ยวกัน เพียงเเต่ว่าถ้ามีเหตุจำเป็นเเล้วได้มาเเสดงตัวในภายหลังก็สามารถร้องต่อศาลขอลดค่าปรับคืนได้บ้าง เเต่ขึนอยู่กับดุลพินิจของศาล 

 

โดยนายนรวิชญ์ ระบุว่า จนถึงขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด และเรื่องคดีก็ไม่มีสั่งการอะไรลงมา แต่เป็นหน้าที่ของทนายความที่จะต้องดำเนินการอยู่เเล้ว 

 

"เพราะเมื่อเเต่งตั้งทนายความเข้าไปในคดี ไม่ว่าตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์จะอยู่หรือไม่อย่างไรเราก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ต้องทำ ทั้งนี้ การไปฟังคำพิพากษาลับหลังในวันที่ 27 ก.ย. นั้นไม่เกี่ยวกับการอุทธรณ์ เนื่องจากตามหลักกฎหมายเพียงกำหนดให้ต้องมีตัวจำเลยในวันยื่นอุทธรณ์ ถึงเเม้ในวันฟังคำพิพากษาตัวจะไม่ได้มาฟัง เเต่ถ้าจะยื่นอุทธรณ์ที่ตามกฎหมายกำหนดไว้ 30 วัน หากจะยื่นอุทธรณ์ต้องมีตัวจำเลย มาปรากฎต่อหน้าศาลจึงจะสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ส่วนหากศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง หากอัยการโจทก์ประสงค์อุทธรณ์กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ตัวโจทก์ต้องปรากฎต่อหน้าศาลก็ได้ ตามกฎหมายถ้ายกฟ้องเเล้วอัยการโจทก์ยังประสงค์ยื่นอุทธรณ์  ทนายความย่อมสามารถเเก้อุทธรณ์ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ระบุว่าตัวจำเลยต้องปรากกฎต่อหน้าศาลหากเเก้อุทธรณ์ และหากศาลยกฟ้องโจทก์ เเต่อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ถือว่าอยู่ในอำนาจศาลต่อไป" ทนายความ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ 

 

นอกจากนี้ นายนรวิชญ์ ยังเผยอีกว่า ถ้าอัยการโจทก์ ยื่นอุทธรณ์ถือว่าคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด เเต่ถ้าศาลยกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เเละไม่ได้มีคำสั่งให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ก็ถือว่าปล่อยขาด ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมาศาลก็ไม่สามารถควบคุมตัวได้ ไม่ต้องรายงานตัวหรือยื่นประกันใหม่ ส่วนใหญ่ถ้ายกฟ้องศาลจะพิพากษาอยู่ 2 เเนวคือยกฟ้องขาดเลย หรือบางทียกฟ้องเเต่ให้ขังระหว่างอุทธรณ์ก็มีเหมือนกัน เเต่ถ้าให้ขังระหว่างอุทธรณ์เเล้วโจทก์ไม่ยื่นอุทธรณ์ต่อในกำหนด 30 วันตามกฎหมายก็ปล่อยขาดเหมือนกัน ส่วนถึงศาลจะยกฟ้องหลักทรัพย์ประกันตัวก็จะไม่ได้คืนเพราะถือเป็นคนละเรื่องกัน เเต่จะให้โอกาสจำเลยร้องขอลดค่าปรับได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทำกันมา

 

อย่างไรก็ดี ในอีกด้านหนึ่ง สำหรับผู้สันทัดกรณี และเกาะติดการเมืองมาอย่างยาวนานต่างก็เริ่มวิเคราะห์ไปในทางเดียวกันแล้วว่า น.ส.ยิ่งลัฏษณ์ ผู้หนีคำพิพากษา เคลื่อนไหวแน่ แต่ต้องหลัง 27 ก.ย.ที่ศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว ไม่ว่าผลของคดีจะออกมาทางไหน หากเป็นคุณกับตัวเองเธอก็อาจกลับมาเมืองไทย และร้องขอต่อศาลขอลดค่าปรับ 30 ล้านบาทคืนบ้าง...ตามที่ทนายความของเธอ ระบุ แต่หากเป็นโทษ เธอไปแล้วไปลับแน่ แต่จะเคลื่อนไหวผ่านโลกออนไลน์ โจมตีทุกฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับเธอแบบยิบตาแน่...เหมือนที่พี่ชายของเธอกระทำมาตลอด 10 ปี