ออกอาการสู้ไม่ถอย!!!นายกบิ๊กตู่ ไม่แสดงท่าทีท้อแม้เจอปัญหารุม บอกไม่โทษใคร  ขอทำต่อไป แม้ไม่ใช่นายกที่น่ารัก แฟนคลับว่าไง???!!!

ออกอาการสู้ไม่ถอย!!!นายกบิ๊กตู่ ไม่แสดงท่าทีท้อแม้เจอปัญหารุม บอกไม่โทษใคร ขอทำต่อไป แม้ไม่ใช่นายกที่น่ารัก แฟนคลับว่าไง???!!!

ช่วงนี้หลายคนมองว่าเป็นช่วงขาลงรัฐบาล ก็เพราะเนื่องด้วยรัฐบาลต้องเจอกับปัญหารุมเร้าหลากหลายที่กำลังรุมกระหน่ำรัฐบาลอยู่ในทุกทิศทุกทาง และที่สำคัญทุกปัญหาที่ต้องเผชิญ ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่หนักหนาสาหัสแทบทั้งสิ้น เริ่มตั้งแต่ประเด็นการย้ายพ.ต.ท พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปเข้ากรุเป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีประจำพื้นที่5จ.ชายแดนภาคใต้ จนก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจอย่างกว้างขวางในคำสั่งดังกล่าวนี้

 

 

 

จนกระทั่งเป็นที่มาให้บรรดาแฟนคลับนายกลุงตู่ออกอาการหงุดหงิดไม่พอใจต่อนายกรัฐมนตรี และยังมีกรณีที่สืบเนื่องมาจากการหายตัวไปของน.ส ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่ารัฐบาล และ คสช.รู้เห็นเป็นใจ อยู่เบื้องหลังกับการหลบหนีครั้งนี้ แม้จะมีการออกมาปฎิเสธจากทั้งนายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล

เพราะข้อสงสัยต่างๆยังคงคาใจ ติดอยู่ในความรู้สึกของประชาชน และยังกรณีที่พล.อ อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยได้เซ็นคำสั่งอนุญาตให้บริษัทลูกของเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดังเข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะห้วยเม็ก ทั้งๆที่พื้นที่ป่าบริเวณนั้นไม่ได้เข้าหลักเกณฑ์ในการเป็นป่าเสื่อมโทรมที่จะให้ใครเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้ และเรื่องนี้ก็กลายเป็นประเด็นที่พล.อ อนุพงษ์ถูกโจมตีมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์

และนอกจากนี้ยังมีประเด็นปัญหาเดิมๆที่หมักหมมมาให้รัฐบาลต้องปวดหัวแก้อีกไม่เว้นแต่ละวันเรียกว่าเป็นสารพัดปัญหาที่กำลังรุมเร้ารัฐบาลอยู่เวลานี้ แต่แทนที่นายกรัฐมนตรี พล.อ ประยุทธ์ จันทรโอชา จะระเบิดอารมณ์ใส่คนรอบข้างเหมือนทุกครั้ง  หนนี้ผิดคาด  โดยเมื่อวันอังคารที่12กย.ที่ผ่านมาหลังการประชุมครม. ปรากฎท่าทีนายกรัฐมนตรี อารมณ์ดีเป็นพิเศษ โดยกล่าวว่า  เรื่องอะไรที่เป็นปัญหาต้องแก้ ใครว่าอย่างไร สื่อว่าอย่างไรผมก็เก็บมาหมด ผมว่าผมฟังมากกว่ารัฐบาลอื่นๆ มันถึงมีเรื่องทำเยอะไม่จบสักที บางเรื่องควรจะจบก็ไม่จบ เอาล่ะผมไม่โทษใครไม่ได้ ท้ายสุดต้องโทษตัวเองมากกว่าที่เข้ามาทำ ก็ต้องทำ

อย่างไรก็ต้องทำ บางทีผมก็หงุดหงิดก็ขอโทษก็แล้วกัน  ผมอาจจะไม่ใช่นายกรัฐมนตรีที่น่ารักที่สุด แต่ทุกคนน่าจะพอใจผม และเห็นใจผมบ้าง หรือจะเอาแบบไม่พูดอะไรเลย เดินไปยิ้มอย่างเดียว ไม่ว่าใครเลย เอาอย่างนั้นก็ได้ วันหน้าผมก็เดินยิ้มเผล่อารมณ์ดีตลอด เอาไหม มันก็ไม่มันส์

 

 

สรุปงานนี้ หากถอดรหัสจากคำพูดนายกรัฐมนตรี อาจกล่าวได้ว่า นายกรัฐมนตรีคนนี้ไม่ธรรมดา รู้ว่าเวลาไหนควรใจเย็น นิ่ง เพื่อเผชิญกับปัญหา หรือเวลาใด สามารถแสดงอารมณ์กราดเกรี้ยวได้

งานนี้บอกได้คำเดียวว่าสำหรับท่าทีนายกรัฐมนตรี พล.อ ประยุทธ์ล่าสุดนี้ เหมือนกำลังจะส่งสัญญานบอกกับทุกคนว่า ฉันสะกดคำว่าหนี หลบ ท้อ เครียดไม่เป็น ฉันจะสู้ไม่ถอย อดทน และจะขอทำทุกอย่างต่อไป  ให้ประสบความสำเร็จให้ได้ ตามที่ตั้งเป้าไว้นับตั้งแต่รัฐประหารเข้ามาเมื่อวันที่ 22 พค.2557 เรียกว่ารอติดตามดูอย่าได้กะพริบตานับจากนี้ ว่าความสำเร็จตามที่นายกรัฐมนตรี ตั้งเป้าหมายไว้ จะทำได้จริงหรือไม่ เพราะจากนี้ไป ปีนี้ ปีหน้า  ปัญหาที่รัฐบาล และ คสช.จะต้องเผชิญ คงไม่ธรรมดา แต่จะเป็นปัญหาระดับซุปเปอร์ ชนิดของจริงรออยู่