ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

สืบเนื่องจากกรณีกลุ่มข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อพลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4(ผอ.รมน.ภาค4) โดยอ้างว่าได้รับความเดือดร้อน จากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของ พันตำรวจเอก พฤกษ์ เลี้ยงสุข ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี

 

โดยกลุ่มข้าราชการได้รับผลกระทบในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของ พ.ต.อ.พฤกษ์  มีการใช้อำนาจโดยมิชอบ สร้างเงื่อนไขกับกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการด่าผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยการใช้ถ้อยคำหยาบคาย เช่น ไอ้เหี้ย,ไอ้สัตว์,ไอ้ควาย,พ่อแม่มึงตายหรือ ซึ่งเป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้าและเป็นการด่าทอบุพการีผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่เป็นประจำทั้งภายในสถานีตำรวจและต่อหน้าประชาชนในพื้นที่ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ซึ่งทำให้กำลังพลเสียขวัญและกำลังใจทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีความเครียดอย่างยิ่ง นั้น ล่าสุด กรณีนี้

นาย กนก รัตน์วงศ์สกุล นักจัดรายการชื่อดัง ได้โพสต์ผ่านเพซบุ๊กส่วนตัวถึงเรื่องนี้ โดยมีใจความเหน็บแนมสุดแสบว่า

 

"กูใหญ่สุดแล้วไอ้เหี้ย...โรงพักนี้...ควายล้วนๆ ไอ้สัตว์.."

เอ่อ..ถ้าใหญ่สุดในโรงพัก ก็คือผู้กำกับ! 
ไม่น้าา.. ผู้กำกับ เค้าไม่ใช้ภาษาแบบนี้นะครับ

 

"กนก" ว๊าก !!! เหน็บ เจ็บๆ แสบๆ คันๆ ปมเสียงคล้ายผู้กำกับ พ่นคำหยาบ ด่าลูกน้องยับ??

 

เนื้อหาดังกล่าวเสียดสีการกระทำของตำรวจคนดังกล่าวเป็นอย่างมาก ในขณะที่ชาวโซเชียลเองต่างก็เห็นด้วยกับโพสต์ข้อความดังตัวอย่างความคิดเห็นที่อยู่ด้านล่างนี้

"กนก" ว๊าก !!! เหน็บ เจ็บๆ แสบๆ คันๆ ปมเสียงคล้ายผู้กำกับ พ่นคำหยาบ ด่าลูกน้องยับ??

 

"กนก" ว๊าก !!! เหน็บ เจ็บๆ แสบๆ คันๆ ปมเสียงคล้ายผู้กำกับ พ่นคำหยาบ ด่าลูกน้องยับ??

 

 

ล่าสุดนายเสรี สุวรรณภานนนท์  กรรมการปฏิรูปตำรวจ  กรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ให้ความเห็นถึงกรณีดังกล่าว  ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องฟังหูไว้หู  อย่าเพิ่งเชื่อในคำพูดของผู้ร้องทั้งหมด  เพราะในทางปกครองตัวผู้กำกับการเองก็ต้องสามารถสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาได้  และอาจเป็นไปได้ว่าเมื่อมีการสั่งแล้วลูกน้องไม่ทำตามจึงอาจมีความเครียด จึงควรให้ความเป็นธรรมด้วยการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งตนเห็นว่าเหตุนี้มีคู่กรณีเพียงไม่กี่คน  ส่วนที่เป็นผู้ลงชื่อกว่า 20 คนนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่เพียงถูกชักชวนให้มาร่วมลงชื่อ

 

ซึ่งโดยปกติตำรวจชั้นประทวนจะมีความแน่นเฟ้นในความสัมพันธ์อยู่แล้ว ต่างจากนายตำรวจสัญญาบัตรที่ต้องถูกโยกย้ายไปเรื่อยๆตามความเหมาะสม  เช่นเดียวกันการพิจารณาโยกย้ายส่วนตัวมองว่าควรย้ายตำรวจที่เป็นคู่กรณีกับผู้กำกับมากกว่า มิฉะนั้นจะเสียหายต่อวิธีการปกครอง  คือต่อไปถ้าผู้ใต้บังคับบัญชาไม่พอใจใครก็ล่าชื่อเพื่อนตำรวจด้วยกันบีบคั้นให้ย้ายผู้บังคับบัญชาไม่จบไม่สิ้น   ส่วนประเด็นเรื่องคำผรุสวาทที่มีการอัดเทปมาแฉกันนั้นก็อยากให้มีการฟังดี ๆ ว่าเป็นเจตนาจะด่าคำหยาบหรือเป็นคำพูดทั่วๆไปในฐานะนายกับลูกน้อง   เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยไม่เป็นธรรม