เเชร์เก็บไว้เลย!! นี่คือ 5 โรคร้าย ใน "ช่องคลอดผู้หญิง" รีบเช็คด่วนก่อนจะสายเกิน !!??

 

ช่องคลอด (อังกฤษ: Vagina) รากศัพท์มาจากภาษาละติน หมายถึง สิ่งหุ้ม หรือ ฝัก

โดยทั่วไปในภาษาปาก คำว่า "ช่องคลอด" มักใช้เรียกแทน "ช่องสังวาส" หรือ "อวัยวะเพศหญิง" หรือ "แคม" ในภาษาทางการ "ช่องคลอด" หมายถึง โครงสร้างภายใน ส่วน "ช่องสังวาส" และคำอื่น ๆ หมายถึง "อวัยวะเพศหญิงภายนอก" เท่านั้น ในภาษาสแลง มีคำหยาบและคำต้องห้ามหลายคำใช้เรียกแทน ช่องคลอด

ช่องคลอด เป็นช่องกลวง ต่อจาก ปากมดลูก (ซึ่งเป็นอวัยวะในอุ้งเชิงกราน) เปิดออกสู่ภายนอก ที่ปากเปิดช่องคลอด ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพศเมีย

มีหน้าที่เป็น ช่องทางให้อวัยวะเพศชายสอดใส่เข้าไป ขณะร่วมเพศ และเป็น ช่องทางคลอดทารกและรก

เปรียบได้กับ ช่องวางไข่ (en:cloaca) ใน นก, สัตว์เลื้อยคลาน และ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่วางไข่ (en:monotreme) ในแมลง และ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่น ก็มีช่องคลอดเช่นกัน โดยเป็นส่วนปลายจาก ท่อนำไข่ (oviduct)

 

ช่องคลอดของมนุษย์ มีความยาว ความกว้าง และรูปร่าง ที่หลากหลาย ถ้ายืนตรง จะดิ่งเอียงขึ้นด้านหลัง ทำมุม 45 องศา ในชาวตะวันตก มีความยาวและขนาดปกติเฉลี่ยสั้นหรือยาวกว่าค่าเฉลี่ยขององคชาติเล็กน้อย คือ ยาวประมาณ 4 นิ้ว หรือ 100 มม. และเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว (25 มม.) ซึ่งแตกต่างกันไปในผู้หญิงแต่ละคน แต่ละเชื้อชาติ (ค่าเฉลี่ยของผู้หญิงไทยน้อยกว่าเล็กน้อย) กระนั้นก็สามารถยืดหยุ่นเพื่อรองรับขนาดขององคชาติที่ใหญ่กว่าได้ ขณะที่ผู้หญิงให้กำเนิดบุตรหรือมีเพศสัมพันธ์ สามารถขยายได้ถึง 2-3 เท่า

ปากช่องคลอด อยู่ที่ส่วนท้าย (ส่วนล่าง) ของ ช่องสังวาส คือถัดลงไปจาก ปากท่อปัสสาวะ ผนังด้านในของช่องคลอด มักเป็นสีชมพู (เช่นเดียวกับเยื่อกล้ามเนื้อภายในอื่นของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม) มีลักษณะเป็นลอนคล้ายลูกคลื่น ยืดหยุ่นได้

ต่อมบาร์โธลิน (Bartholin's glands) 1 คู่ ที่อยู่ใกล้คอของช่องคลอด ขับน้ำเมือกออกมาหล่อลื่นซึมไปทั่วทั้ง ผนังช่องคลอด (ซึ่งไม่มีต่อมใดอยู่) เพื่อหล่อลื่นให้ชุ่มชื่น และฆ่าเชื้อ

เยื่อพรหมจรรย์ (hymen)
เยื่อพรหมจรรย์ (hymen) เป็นเยื่อบาง ๆ หลังปากท่อปัสสาวะ ที่ลงมาปิดช่องคลอดบางส่วน พบได้ในสิ่งมีชีวิตหลายชนิด รวมถึงมนุษย์เพศหญิง ซึ่งมีมาแต่กำเนิด จนกว่าจะฉีกขาด โดยการมีเพศสัมพันธ์ หรือล่วงล้ำโดยวัตถุแปลกปลอม หรือกิจกรรมที่ได้รับการกระทบกระเทือน เช่น การขี่ม้า ขี่จักรยาน เล่นยิมนาสติก ฯลฯ หรือการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ อย่างไรก็ตาม สังเกตว่าการมีเพศสัมพันธ์ไม่ใช่สาเหตุของการฉีกขาดเสมอไป กล่าวคือ ไม่จริงที่ว่า ผู้หญิงต้องมีเยื่อพรหมจรรย์บริบูรณ์ จึงต้องถือว่าเป็นพรหมจรรย์

ที่ปากช่องคลอดมี ปุ่มกระสัน คือติ่งเนื้อขนาดเล็ก รูปร่างคล้ายเม็ดถั่ว อยู่เหนือแคมเล็ก โดยมี กลีบปิดปุ่มกระสัน ที่อยู่บนแคมใหญ่ปิดอยู่อีกชั้นหนึ่ง ปุ่มกระสัน เปรียบได้กับ องคชาต ของเพศชาย กล่าวคือเป็นจุดที่ไวต่อการกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ

สาวๆ ต้องระวังโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับช่องคลอดตัวเอง ซึ่งมีด้วยกัน 5 โรค ใครที่กำลังมีอาการหรือไม่มั่นใจ ทางที่ดีควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค เพื่อหาทางรักษากัน

1. ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
ปกติแล้วภายในช่องคลอดของผู้หญิงเรานั้นมีแบคทีเรียอยู่ด้วยกันหลายชนิด ในสตรีวัยเจริญพันธ์จะมีแบคทีเรียอยู่กลุ่มหนึ่งที่ช่วยสร้างความเป็นกรดในช่องคลอด เพื่อรักษาความสมดุลของแบคทีเรียภายในช่องคลอดและป้องกันการติดเชื้อภายในช่องคลอด และถ้าหากมีอะไรก็ตามเข้าไปทำให้เกิดการเสียสมดุลของความเป็นกรดด่างนี้ไปก็จะทำให้แบคทีเรียเชื้อร้ายเจริญเติบโต

สาเหตุที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้มีด้วยกันหลายสาเหตุ เช่น การมีเพศสัมพันธ์หลายคน การกินยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน หรือการสวนล้างช่องคลอดโดยไม่มีความจำเป็น โรคนี้นอกจากจะทำให้ช่องคลอดอักเสบแล้วยังส่งผลให้ มี ตกขาว ที่มากกว่าปกติและส่งกลิ่นเหม็นอีกด้วย

2. เชื้อราในช่องคลอด
เช่นเดียวกับการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราสามารถเกิดขึ้นที่ช่องคลอดได้เหมือนกัน โรคนี้หากเป็นแล้วจะส่งผลให้ช่องคลอดมีอาการคันเป็นอย่างมาก บางรายเป็นมากโดยมีอาการคันตลอดเวลา สาเหตุของโรคนี้เกิดจากความสกปรก ที่มาจากการรักษาความสะอาดไม่ดีพอ เช่น การสวมใส่เสื้อผ้ารัดรูปจนเกิดความอับชื้น การสวมชุดชั้นในที่ไม่สะอาดหรือแห้งไม่สนิท โรคนี้หากเป็นแล้วสามารถรักษาให้หายได้ โดยการใช้ยาฆ่าเชื้อราประเภทที่ใช้กับช่องคลอด และต้องใส่ใจเรื่องความสะอาดของชุดชั้นใน ผู้ที่อาการคันมากควรรีบปรึกษาแพทย์และหาแนวทางรักษา

3. มะเร็งช่องคลอด โรคมะเร็งช่องคลอดนั้นเป็นโรคที่ไม่ได้พบได้บ่อย มีคนเป็นน้อยมาก ซึ่งต่างจากมะเร็งปากมดลูกที่เราได้ยินกันบ่อยๆ แต่ความน่ากลัวก็ไม่แพ้กัน มะเร็งช่องคลอดนั้นเกิดจากเซลล์มะเร็งเติบโตจากเนื้อเยื่อในช่องคลอด หรือลุกลามมากจากมะเร็งมดลูกหรือจากส่วนอื่นๆ ที่เชื่อมต่อถึงกัน อาการของโรคนี้จะเห็นได้ชัดคือ จะมีเลือดออกจากช่องคลอดมากโดยไม่ทราบสาเหตุ ทางที่ดีหากมีอาการหรือไม่มั่นใจ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยโดยเร็วที่สุด

4. โรคเริมที่อวัยวะเพศ โรคนี้สามารถเป็นได้ทั้งชายและหญิง โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส HSV ซึ่งพบได้มากบริเวณปากและอวัยวะเพศ แต่เป็น HSV คนละชนิดกัน ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการเป็นตุ่มน้ำใส ขึ้นที่บริเวณอวัยวะเพศ พอเป็นสักพักตุ่มจะแตก เกิดอาการปวดแสบร้อน และอาจลุกลามไปถึงต่อมน้ำเหลืองโตได้ สาเหตุของโรคนี้ คือ การเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ซึ่งทำให้มีโอกาสไปพบคู่นอนหรือคนที่เป็นโรคเริมได้ และอาจติดโรคมาจากคนๆนั้น และที่สำคัญผู้หญิงเรานั้นมีโอกาสติดโรคเริมได้ง่ายกว่าผู้ชายติดจากผู้หญิง และผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์มีโอกาสเสี่ยงที่เชื้อไวรัสจะส่งผลกระทบถึงลูกในครรภ์ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ทางที่ดีควรป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์และรักษาความสะอาดบริเวณนั้นให้ดี

5. มะเร็งรังไข่ มะเร็งรังไข่ หมายถึง เซลล์เนื้อร้ายที่เกิดขึ้นในรังไข่ของเพศหญิง เป็นมะเร็งที่พบได้มาก ของมะเร็งระบบอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง พบว่าโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ เป็นหนึ่งในโรคที่คุกคามชีวิตและสุขภาพร่างกายของผู้หญิงอย่างร้ายแรง อาการของโรคนี้ จะมีอาการปวดท้องในอุ้งเชิงกราน ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะลำบาก มีอาการขับถ่ายผิดปกติไปจากเดิม เช่น มีเลือด มีตกขาวที่ผิดปกติจากช่องคลอด มีอาการท้องอืดแน่น ติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ ทางที่ดีเมื่อมีอาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจโดยด่วน เนื่องจากรังไข่เป็นอวัยวะภายใน ซึ่งอาจตรวจเช็คความผิดปกติได้ยาก ดังนั้นทางที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคนี้คือควรหมั่นตรวจภายในอย่างน้อยปีละครั้ง สาวๆ คงรู้กันแล้วว่าช่องคลอดของผู้หญิงเรานั้นสามารถเกิดโรคได้ง่าย ดังนั้นควรหมั่นตรวจเช็คสุขภาพน้องสาวเป็นประจำ เมื่อมีเพศสัมพันธ์ควรป้องกันไว้เป็นดีที่สุด ที่สำคัญต้องรักษาความสะอาดให้ถูกหลักและถูกวิธี

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณที่มา วิกิพีเดีย,lady-secret.com