ไหนผู้บังคับการบอกว่าดี!! ถ้าดีจริงทำไมลูกน้องถึงออกมาร้องเรียน ผกก. ทุ่งยางแดงเพิ่มเกือบ 50 นาย

จากกรณีกลุ่มข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อพลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  โดยอ้างว่าได้รับความเดือดร้อน จากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของพ.ต.อ.พฤกษ์ เลี้ยงสุข ผกก.สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี  โดยเนื้อหาในหนังสือระบุดังนี้

ข้าฯกลุ่มข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจทุ่งยางแดง ซึ่งได้รับผลกระทบในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของ พ.ต.อ. พฤกษ์ เลี้ยงสุข ผกก.สภ.ทุ่งยางแดง ภจว.ปัตตานี และมีการใช้อำนาจโดยมิชอบ สร้างเงื่อนไขกับกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้
1. มีการลงไม้ลงมือ ทำร้ายร่างกายทุบตี,ตบหน้า,เตะต่อยผู้ใต้บังคับบัญชาตั้งแต่ชั้นสัญญาบัตรลงจนถึงชั้นประทวนขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ต่อหน้าธารกำนัลซึ่งเป็นประชาชนเป็นการทำให้กำลังพลอับอายเสียขวัญและเสื่อมเกียรติของตำรวจ
2.มีการพูดถางถากดูหมิ่นผู้ใต้บังคับบัญชาที่นับถือศาสนาอิสลามในการปกิบัติศาสนกิจของกำลังพลซึ่งสร้างความไม่พอใจและเป็นการไม่ให้เกีรยติกำลังพลที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นอย่างมาก ถือเป็นการสร้างเงื่อนไขอย่างร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้
3. มีการด่าผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยการใช้ถ้อยคำหยาบคาย เช่น ไอ้เหี้ย,ไอ้สัตว์,ไอ้ควาย,พ่อแม่มึงตายหรือ ซึ่งเป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้าและเป็นการด่าทอบุพการีผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่เป็นประจำทั้งภายในสถานีตำรวจและต่อหน้าประชาชนในพื้นที่ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ซึ่งทำให้กำลังพลเสียขวัญและกำลังใจทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีความเครียดอย่างยิ่ง
4. มีการใช้งานผู้ใต้บังคับบัญชาตรากตรำจนเกินไปโดยให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีวันให้หยุดพักแม้แต่เวลาซักผ้าหรือรับประทานอาหารก็ยังรบกวนเวลากำลังพลไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอซึ่งสร้างความเหนื่อยล้าตึงเครียดให้กับกำลังพลเป็นอย่างมากบางคนมีอาการคล้ายเป็นโรคซึมเศร้า
5. ในการปฏิบัติหน้าที่กำลังพลมีความเครียดอย่างยิ่งเนื่องจากกดดันจาก ผกก.สภ.ทุ่งยางแดง ซึ่งไม่เคยรับฟังปัญหาหรือเหตุผลใดๆของผู้ใต้บังคับบัญชาเลยแม้แต่ครั้งเดียวเมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาบอกเหตุผลก็ไม่ยอมรับฟังกล่าวหาว่าผู้ใต้บังคับบัญชาโต้เถียง หากใครกระทำเช่นนัเนก็จะโดนกลั่นแกล้งโดนทำโทษให้ยืนเข้าเวรยามดึกกลางแดดกลางสายฝน อีกทั้งการสั่งลงโทษให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหมอบคลานกลิ้งม้วนหน้าทั้งๆที่ใส่ชุดตำรวจและด่าว่าโดยใช้ถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งเป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้มาพบเห็น
6. ใช้อำนาจโดยไม่มีความเป็นธรรมเมื่อจะใช้งานผู้ใต้บังคับบัญชาได้เรียกมาใช้งานเมื่อไม่พอใจหรือเสร็จงานก็ไล่เยี่ยงกับผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ใช่มนุษย์ บ้างให้ไปเข้ายามโทษบ้างก็ทำโทษบ้างก็ทำร้ายร่างกายดูหมิ่นซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่สมควรที่จะเกิดขึ้นในวงการข้าราชการตำรวจ
7. ในการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ. พฤกษ์ เลี้ยงสุข ผกก.สภ.ทุ่งยางแดง ชอบมีปาปกเสียงและขขมขู่กับประชาชนผู้ใหญ่บ้านกำนัน กลุ่มผู้นำในพื้นที่ฯ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กลุ่ม ปชช.ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน จนมีการรวมตัวของกลุ่มบุคคคลดังกล่าวเพื่อที่จะมาประท้วงแต่นายอำเภอทุ่งยางแดงได้ขอร้องไว้กลุ่มบุคคลดังกล่าวจึงกลับไป

 

หลังจากนั้น ได้มีการแชร์ข้อความอ้างเป็นหนังสือชี้แจง และขอความเป็นธรรมจากฝ่ายของ พ.ต.อ.พฤกษ์ เลี้ยงสุข โดยเนื้อหาระบุเรื่องการร้องเรียนที่เกิดขึ้นนั้น มาจากปัญหาการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาที่สร้างปัญหาแทบทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยาเสพติด และเอารถของราชการไปใช้  ในฐานะที่เป็น ผกก.จึงมีความจำเป็นต้องมีการเข้มงวดด้วยการเอาระเบียบเป็นตัวตั้งในการบริหาร เพราะตนเองดูแลกำลังพลมากถึง 100 นาย และตำรวจก็เหมือนกับข้าราชการ ประชาชนทั่วไป เมื่อไปทำผิดหรือพฤติกรรมไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก็ต้องว่าไปตามระเบียบวินัย ที่ผ่านมามีการเข้มงวด  และตรวจสอบตำรวจที่ไปเกี่ยวข้อง และได้ให้ออกไปแล้วหลายนาย ยืนยันว่าจะต้องทำตามระเบียบ เมื่อพฤติกรรมไม่ดีก็ไม่น่าจะมาเป็นตำรวจ

ด้าน พล.ท. ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 หลังจากที่ได้ทราบเรื่องดังกล่าวได้ให้ผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.อ.พฤกษ์ พิจารณาเรื่องการย้ายออกนอกพื้นที่ก่อน เพื่อลดแรงกดดันแรงต่อต้านต่าง ๆ จากทั้งข้าราชการ และคนในพื้นที่
วันที่ 13 ก.ย. ด้าน พล.ต.ต. ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ในขณะนี้กำลังดำเนินการแก้ไขและตรวจสอบความจริงอยู่ ซึ่งก็พอรู้ปัญหา โดยจะเร่งตรวจสอบความเป็นจริง โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องของการปกครองของผู้บังคับบัญชาส่วนหนึ่ง และเป็นปัญหาในพื้นที่ที่มีมานาน ซึ่งต้องยอมรับว่าพื้นที่ตรงนี้ เป็นพื้นที่ที่มีสถานการณ์ มีความเครียดในการปฏิบัติหน้าที่ ในเรื่องที่เกิดขึ้นก็อาจจะเกิดจากความเครียดในการทำงาน จะต้องตรวจสอบทั้งสองฝ่ายว่าสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ โดยจะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด และจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยเท่าที่รับรู้มาก็เกิดปัญหาจากด้านการปกครอง อยู่ที่บุคลิกภาพของหัวหน้าหน่วยซึ่งก็ไม่เหมือนกันทุกคน โดยล่าสุดได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว และพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ซึ่งหลังจากได้พูดคุยกันทั้ง 2 ฝ่าย มีแนวโน้มที่ดี น่าจะเกิดความเข้าใจกัน ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่เข้าใจ ที่ได้พูดคุยกันในเรื่องทัศนคติที่ไม่ตรงกัน ซึ่งเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น

ล่าสุดทาง พ.ต.อ.พฤกษ์ ได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่แล้วหลังครบกำหนดลา แต่ยังไม่ได้เข้าโรงพัก ส่วนตำรวจทั้ง 25 นายที่ร้องเรียนต้องไปรายงานตัว ในวันที่ 23 ก.ย. นอกจากนี้ยังมีตำรวจทยอยเซ็นชื่อร้องเรียนเพิ่มขึ้นรวมแล้วเกือบ 50 นายแล้ว ซึ่งแต่เดิมมีแค่ 25 นาย