- 19 ก.ย. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มเติม www.tnews.co.th
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2560 นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานในงานวันสถาปนา กรมป่าไม้ ครบรอบ 121 ปี พร้อมจัดงานภายใต้แนวคิด “Forest 4.0 IN Thailand 4.0” ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้ปัญหาด้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้รับการแก้ไขอย่างเห็นผลและเป็นรูปธรรม
นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้กล่าวถึงวันสถาปนากรมป่าไม้ ครบรอบ 121 ปี ภายใต้แนวคิด “Forest 4.0 IN Thailand 4.0” ว่า กรมป่าไม้มีภารกิจต้องป้องกันรักษาพื้นที่ป่ามากกว่า 60 - 70 ล้านไร่ ภายใต้ข้อจำกัดในเรื่องของอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ที่มีไม่เพียงพอต่อการดูแลผืนป่าในความรับผิดชอบ ประกอบกับการวางยุทธศาสตร์การดำเนินงานที่ตั้งเป้าจะเพิ่มพื้นที่ป่าเศรษฐกิจให้ได้ ร้อยละ 15 หรือประมาณ 49 ล้านไร่ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ไม้ภายในประเทศ ซึ่งจากการประเมินของปี 2559 พบความต้องการใช้ไม้มีมากถึง 58 ล้านตัน
ดังนั้น กรมป่าไม้จึงได้นำเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมาใช้ปฏิบัติงานร่วมกับทุกภาคส่วน ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงและสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้แบบบูรณาการในทุกมิติ แนวคิด Forest 4.0 IN Thailand 4.0 จึงเกิดขึ้นเพื่อต้องการขับเคลื่อนการทำงานของกรมป่าไม้ไปสู่เป้าหมายเดียวกับที่รัฐบาลกำหนดไว้ นั่นคือ การให้บริการที่ดีและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้สัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว ดังเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ได้ประกาศไว้ในวาระการปฏิรูปประเทศที่ว่า จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิรูปประเทศในทุกมิติให้ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
ส่วนในห้องที่ 2 จัดแสดงการบริหารจัดการพื้นที่ป่าไม้อย่างเป็นระบบ โดยจะสาธิตการใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ในการวิเคราะห์ กำหนดขอบเขตการทำงาน ระหว่างกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุพืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมที่ดิน ปฏิรูปที่ดิน ฯลฯ และวางแผนในการบริหารจัดการพื้นที่ (Zoning) ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ เพื่อรองรับกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ตั้งเป้าให้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่า ร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ พร้อมสร้างระบบเฝ้าระวังด้วยการติดตั้งกล้อง CCTV ณ ศูนย์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำในพื้นที่ 13 จังหวัด เพื่อติดตามการฟื้นฟูป่า และป้องกันการบุกรุกทำลายป่าเพิ่มเติม ระบุติดตามแบบเรียลไทม์ ตรวจสอบสภาพพื้นที่ได้ทางมือถือตลอด 24 ชั่งโมง
สำหรับห้องที่ 3 จะสาธิตการส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนโดยการจัดตั้ง “ห้องปรึกษาหารือ” ให้กับป่าชุมชน เครือข่ายอาสาพิทักษ์ป่า วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไม้ ให้สามารถติดต่อสอบถามโดยตรงกับหน่วยงานที่รับผิดชอบของกรมป่าไม้ เพื่อตอบข้อซักถามและให้คำปรึกษาได้อย่างสะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ในห้องที่ 4 จะสาธิตการปรับปรุงกระบวนการทำงานของกรมป่าไม้ ในระบบ RFD Single windows คือ การสร้างระบบตรวจสอบและอนุญาตที่ดี เพื่อเสริมการบริหารจัดการด้วยระบบไอทีที่มีประสิทธิภาพเพื่อใช้ในการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ขออนุญาตผ่านด่านออนไลน์ขอออกใบเบิกทาง พร้อมทั้งแสดงเส้นทางการเคลื่อนย้ายไม้และของป่า ขอหนังสือกำกับ ขอใบรับรองไม้และใบอนุญาตส่งออก การขอขึ้นทะเบียน สวนป่า รวมทั้งขอตรวจพิสูจน์ไม้ให้มีความสะดวก รวดเร็ว ลดการใช้กระดาษ สามารถตรวจสอบสถานะของการดำเนินงานได้ทุกขั้นตอน
“ก้าวต่อไปของกรมป่าไม้ มีเป้าหมายที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปฏิรูประบบการทำงานในทุกมิติ ทั้งในด้านการป้องกัน อนุรักษ์ ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์อย่างมีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใน ปี 2579 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว