- 20 ก.ย. 2560
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตือนกลางเวทีประชุมสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นว่า...
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตือนกลางเวทีประชุมสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นว่า สหรัฐฯจะทำลายเกาหลีเหนือจนสิ้นซาก จนกว่าเกาหลีเหนือยอมถอยหลังจากความท้าทายทางนิวเคลียร์ โดย โดนัลด์ ทรัมป์ ย้ำว่าคงไม่มีทางเลือกอื่นๆนอกเหนือจากทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก นอกจากนี้แล้วประธานาธิบดีสหรัฐฯยังเรียกร้องเหล่าประเทศสมาชิกของสหประชาชาติร่วมมือกันในการโดดเดี่ยวรัฐบาลคิม จองอึน จนกว่าเกาหลีเหนือจะยอมยุติพฤติกรรมที่กำลังดำเนินอยู่
ขณะที่ความเคลื่อนไหวในคาบสมุทรเกาหลี ในขณะนี้ หลังจากที่ทางด้านสหประชาชาติได้เดินหน้าคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดนั้นทางด้านเกาหลีเหนือได้ออกมาประณามอย่างเจ็บแสบต่อมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหประชาชาติที่มุ่งเล่นงานเศรษฐกิจของพวกเขา ระบุเลวทราม ไม่มีจริยธรรมและไร้มนุษยธรรม พร้อมเตือนมาตรการเหล่านั้นรังแต่ละยิ่งเร่งความก้าวหน้าโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขา
โดยทางด้านกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ มีขึ้นในขณะที่ทางด้านเวทีประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ โดยทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เห็นชอบมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเกาหลีเหนือ ห้ามส่งออกสิ่งทอ, ระงับออกใบอนุญาตแรงงานต่างด้าวเกาหลีเหนือและจำกัดเพดานส่งมอบน้ำมันแก่เกาหลีเหนือเป็นการจำกัดพฤติกรรมที่ก้าวร้าวขึ้นเรื่อยๆของเกาหลีเหนือ ซึ่งเพิ่งทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ซึ่งถือเป็นครั้งรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยทดลองมา และยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามท้องฟ้าญี่ปุ่น ที่พวกเขาอ้างว่ามีศักยภาพพุ่งไปได้ไกลถึงแผ่นดินของสหรัฐอเมริกา
ทางด้านเกาหลีเหนือนั้นได้อ้างว่าพวกเขาจำเป็นต้องมีอาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องตนเองจากกองกำลังสหรัฐฯ มีความตั้งใจสร้างระบบอาวุธที่มีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ที่สามารถโจมตีแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯได้
การที่สหประชาชาติได้เพิ่มมาตรการจำกัดทางเศรษฐกิจ ซึ่งทางสหรัฐฯ เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อเกาหลีเหนือมากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทางด้านเกาหลีเหนือยืนยันว่า ความเคลื่อนไหวที่มากขึ้นของสหรัฐฯ และกองกำลังเมืองขึ้นของสหรัฐฯ กับการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรและกดดันเกาหลีเหนือ รังแต่จะเร่งให้เกาหลีเหนือมุ่งหน้าสู่กองกำลังนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์เร็วขึ้น
ประสิทธิผลของมาตรการคว่ำบาตรขึ้นอยู่กับ จีน พันธมิตรและคู่หูทางการค้าหลักของเกาหลีเหนือ เป็นส่วนใหญ่ ว่าจะบังคับใช้มันอย่างเต็มที่หรือไม่
ขณะที่ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในเวทียูเอ็น ที่นิวยอร์ก ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน โดยทำเนียบขาวเผยว่าทั้งสองคนสัญญาว่าจะเพิ่มแรงกดดันอย่างสุดแรงใส่เกาหลีเหนือ
ขณะที่ทางด้านกองทัพสหรัฐฯ ได้ฝึกซ้อมการทิ้งระเบิดร่วมกับเกาหลีใต้ในบริเวณเหนือคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่ทางฝ่ายจีน-รัสเซียก็เริ่มซ้อมรบทางทะเลใกล้เกาหลีเหนือ
ผู้นำสหรัฐฯ เคยบอกว่าไม่ปฏิเสธใช้ปฏิบัติการทางทหารในวิกฤตดังกล่าว อย่างไรก็ตามสงครามจะส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายล้านคนในกรุงโซล ของเกาหลีใต้ และทหาร 28,500 นายของสหรัฐฯที่ประจำการในเกาหลีใต้
ขณะที่ทางด้าน นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์การยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง ฮวาซอง-12 บริเวณเขตซูนัน ชานกรุงเปียงยาง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยขีปนาวุธสามารถเดินทางได้เป็นระยะทางไกลถึง 3,700 กิโลเมตร ข้ามน่านฟ้าเหนือเกาะฮอกไกโดในภาคเหนือของญี่ปุ่น ก่อนไปตกลงในอีกด้านหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิก
ทั้งนี้ ผลการทดสอบประสิทธิภาพของขีปนาวุธ ฮวาซอง-12 สร้างความพึงพอใจอย่างยิ่งให้แก่ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งกล่าวด้วยว่าเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึง ดุลยภาพ ทางทหารของเกาหลีเหนือที่กำลังจะทัดเทียมกับของสหรัฐฯ และจะเป็นการทำให้ผู้นำสหรัฐฯ ล้มเลิกแนวคิดการใช้มาตรการทางทหารต่อเกาหลีเหนือ พร้อมกับย้ำว่าจะเดินหน้าพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ต่อไป แม้ต้องเผชิญกับการคว่ำบาตรจากประชาคมโลก