แบบนี้เลยเน็ตไอดอล!! 2 พนง.เก็บขยะกรีดกล่องกระดาษถูกทิ้ง ถึงตาตื่นเจอเงินเป็นแสนๆ รีบแจ้งความด่วน รู้ที่มาอึ้งหนัก..เจ้าของเกือบพลาดอย่างแรง

ติดตามรายละเอียด : http://www.tnews.co.th

เป็นอีกเรื่องราวดีๆ ที่สร้างความประทับใจให้กับสังคม เมื่อพนักงานเก็บขยะสองคน ได้เก็บเงินสดจำนวนหลักแสน มาตามหาตัวเจ้าของ หลังไปเจอเงินก้อนนี้ ถูกซุกไว้ในกองขยะ แต่มีความซื่อสัตย์ ไม่คิดเอาเงินนั้นมาเป็นของตัวเอง 

 

 

แบบนี้เลยเน็ตไอดอล!! 2 พนง.เก็บขยะกรีดกล่องกระดาษถูกทิ้ง ถึงตาตื่นเจอเงินเป็นแสนๆ รีบแจ้งความด่วน รู้ที่มาอึ้งหนัก..เจ้าของเกือบพลาดอย่างแรง

ซึ่งพนักงานเก็บขยะ มีชื่อว่านายไพโรจน์ แย้มกลีบ วัย40 ปี และนายยิ่งยศ ศรีเกตุ วัย 41 ปี ทั้งคู่เป็นพนักงานประจำรถเก็บขยะ ของอบต.บางกร่าง ซึ่งเมื่อพบเงินจำนวนดังกล่าว ก็รีบเดินทางเข้าพบร.ต.อ.สิงหา ชาลี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี เพื่อมาลงบันทึกประจำวัน เพื่อตามหาเจ้าของเงิน 2 แสนบาท  โดยเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ขณะออกเก็บขยะตามบ้านเรือนต่างๆ ได้พบเงินซุกซ่อนอยู่ในถังขยะหน้าบ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 4 ซอยบางกร่าง 62 ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี 

 

 

แบบนี้เลยเน็ตไอดอล!! 2 พนง.เก็บขยะกรีดกล่องกระดาษถูกทิ้ง ถึงตาตื่นเจอเงินเป็นแสนๆ รีบแจ้งความด่วน รู้ที่มาอึ้งหนัก..เจ้าของเกือบพลาดอย่างแรง

ด้านนายยิ่งยศ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (20 ก.ย.) ตนกับนายไพโรจน์ ออกตระเวนเก็บขยะในพื้นที่ จนมาถึงหน้าบ้านหลังดังกล่าว ตนจึงได้ลงไปเอาถังขยะมาเทใส่รถ แล้วก็มีการกรีดถุงขยะออกจากกัน ก็พบกล่องกระดาษ ภายในมีเงินสดปึกใหญ่ นับรวมกันได้ 2 แสนบาท จึงได้หันมาบอกนายไพโรจน์ แล้วปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี จะไปตามหาเจ้าของได้ที่ไหน จึงตัดสินใจมาแจ้งความ ให้ตำรวจช่วยตามหา กลัวเจ้าของเงินเดือดร้อน เพราะเงินเยอะขนาดนี้ หากหายไป เป็นใครก็ไม่สบายใจ 
 

 

แบบนี้เลยเน็ตไอดอล!! 2 พนง.เก็บขยะกรีดกล่องกระดาษถูกทิ้ง ถึงตาตื่นเจอเงินเป็นแสนๆ รีบแจ้งความด่วน รู้ที่มาอึ้งหนัก..เจ้าของเกือบพลาดอย่างแรง

 

 

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับแจ้งความ ร.ต.อ.สิงหา ได้กล่าวว่า เบื้องต้นได้ติดต่อไปยังเจ้าของเงินแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่สะดวกเดินทางมารับเงินดังกล่าว เนื่องจากอยู่ต่างจังหวัด โดยเจ้าของเงินบอกว่าได้เข้าไปเก็บของในห้องพี่ชายที่เสียชีวิตไปแล้วโดยไม่ทราบว่าในกล่องกระดาษที่ทิ้งไปมีเงินสดอยู่ จากการตรวจสอบสายรัดเงินพบว่าเป็นของธนาคารกรุงศรีอยุธยา และกำลังเดินทางกลับมาเพื่อรับเงินจำนวนดังกล่าวคืน ทั้งนี้ต้องขอบคุณพลเมืองดีทั้ง 2 คนอย่างมาก ที่ซื่อสัตย์ เก็บเงินมาส่งคืน