เปิดมิติใหม่ ครั้งแรกในไทย สควอชจัดศึกใหญ่ “ไทยแลนด์ โอเพ่น” มือดีอช.ร่วมบู๊ 29 ก.ย.-1 ต.ค.นี้

   

ครั้งแรก ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดศึก“สิงห์ สควอชไทยแลนด์ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ 2017” วันที่ 29 ก.ย.-1 ต.ค.นี้ ที่ สนามสควอช รร.แอมบาสเดอร์ซิตี้ จอมเทียน พัทยา จ.ชลบุรี 

     นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา นายกสมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทย ร่วมกับ นายชลวิทย์ สุขอุดม ผู้อำนวยการองค์ความรู้และส่งเสริมสังคม บ.สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เป็นประธานแถลงข่าวการจัดการแข่งขันสควอชนานาชาติ รายการ “สิงห์ สควอชไทยแลนด์ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ 2017” ที่ชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา

      สำหรับการแข่งขัน “สิงห์ สควอชไทยแลนด์ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ 2017” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ก.ย.-1 ต.ค.นี้ ที่ สนามสควอช รร.แอมบาสเดอร์ซิตี้ จอมเทียน พัทยา จ.ชลบุรี

 

    

โดยมีนักกีฬาจาก 11 ประเทศ ประกอบด้วย ฮ่องกง, มาเก๊า, บราซิล, สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, เนปาล, ฟิลิปปินส์, อินเดีย, อิหร่าน และ ประเทศไทย กว่า 40 คนเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้

     นายชลิตรัตน์ กล่าวว่า นี่คือมิติใหม่ของวงการกีฬาสควอชในเมืองไทยที่จัดการแข่งขันกีฬาสควอชนานาชาติครั้งแรก โดยจะมีนักกีฬาสควอชอาชีพระดับต้นๆของโลกเข้าร่วมการแข่งขัน อาทิ ฮารินเดอร์ ปาล ซิงห์ ซานดู จากอินเดีย, ตง ซี วิง จากฮ่องกง, ราเชล เม อาร์โนลด์ จากมาเลเซีย ซึ่งแข่งขันทั้งชายเดี่ยว และ หญิงเดี่ยว ชิงเงินรางวัลรวมถึง 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 245,000 บาท

 

 

    

“การแข่งขันรายการนี้เป็นรายการแข่งขันสควอชที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จัดขึ้นครั้งแรก และเป็นการรวมตัวของนักกีฬาสควอชมือระดับต้นๆของโลกที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในเอเชียมาแข่งขัน ร่วมกับนักกีฬาไทยที่จะลงแข่งขันประมาณ 6 คนได้สร้างผลงานหาประสบการณ์จากการแข่งขัน และโอกาสนี้ประธานสหพันธ์สควอชของเอเชียก็จะมาร่วมชมการแข่งขันด้วยเพื่อร่วมกระตุ้นให้วงการกีฬาสควอชกลับมาเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากแฟนกีฬาชาวไทยมากยิ่งขึ้นในอนาคต”

        “ความสำคัญของรายการนี้นอกจากใหญ่ระดับเอเชียแล้วยังเป็นการเตรียมความพร้อมของสมาคมฯก่อนจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันสควอชเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย“เอเชี่ยน จูเนียร์ ทีม ทัวร์นาเม้นท์ 2019” ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในอีก 2 ปีข้างหน้า รวมถึงการพัฒนาฝีมือนักกีฬาและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยด้วย”