อย่ามาตายกันที่นี่!?! ย้อนเหตุทำไมลุงจำลองต้องพาพันธมิตรฯทิ้งทำเนียบไปสนามบิน พบคำขอร้องอนุพงษ์ส่งถึงสมชาย-สามีเจ๊แดงแต่ถูกปฏิเสธ???

จากกรณีศาลนัดอ่านคำสั่งศาลฎีกา พล.ต.จำลอง ศรีเมือง , นายสนธิ ลิ้มทองกุล และพวกรวม 13 คน ซึ่งเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา ในคดีที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ พล.ต.จำลอง , นายสนธิ , นายพิภพ ธงไชย , นายสุริยะใส กตะศิลา , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ,นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ , นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ , นายอมร อมรรัตนานนท์ , นายนรัญยู หรือศรัณยู วงษ์กระจ่าง , นายสำราญ รอดเพชร , นายศิริชัย ไม้งาม , นางมาลีรัตน์ แก้วก่า และนายเทิดภูมิ ใจดี แกนนำ พธม. รวม 13 คน

       “ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ในคดีหมายเลขดำที่ 6453/2551 เป็นเงิน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 3 ธ.ค.51 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จากกรณีกรณีระหว่างวันที่ 24 พ.ย. 3 ธ.ค.51 พวกจำเลย ร่วมกันนำผู้ชุมนุมหลายหมื่นคน ไปบุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง เพื่อประท้วงรัฐบาลและขับไล่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ขณะนั้น ทำให้การให้บริการต่างๆ ภายในท่าอากาศยานทั้งสองต้องหยุดลง”

       ย้อนไปช่วงชุมนุมก่อนหน้านี้ พล.ต.จำลอง ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ทำเนียบ ถือว่ามีความเสี่ยง เราจึงยอมให้เสี่ยงต่อไปไม่ได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมหากจะพักค้างคืนให้ย้ายไปที่ดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิอย่ามาตายกันที่นี่ ขอให้เก็บข้าวของออกไปจากที่ทำเนียบ โดยให้ไปขึ้นรถที่สนามม้านางเลิ้งตนจะพาไปเอง ว่ากันว่านี่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความพยายามของรัฐบาลในการสลายพันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังจากถูกยึดมานานหลายเดือน ทำให้รัฐบาลไม่มีที่ทำงาน และสมชาย ต้องระเหเร่ร่อนไปตามที่ต่างๆ

 

       โดยต่อมานายสุชาติ ศรีสังข์ เจ้าหน้าที่กองทัพธรรม ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรว่า ขอสลายการชุมนุมที่ทำเนียบอย่างเป็นทางการ และขออโหสิกรรมต่อการกระทำใดๆ และคำพูดที่ดูหมิ่นดูแคลนเจ้าที่เจ้าทาง และขอให้ผู้ชุมนุมไปถ่ายรูปเพื่อเป็นที่ระลึก และเป็นอนุสรณ์ก่อนออกจากทำเนียบรัฐบาล และขอไปสมทบกันที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่นายกิตติชัย ใสสะอาด หัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯ เปิดเผยว่า ได้เตรียมการที่จะย้ายกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดออกจากทำเนียบรัฐบาลก่อนวันที่ 2 ธ.ค.นี้เนื่องจากต้องการเปิดเส้นทางเสด็จเนื่องจากวโรกาส 5 ธันวามหาราช และได้ข้อมูลมาว่ากลุ่มเสื้อแดงร่วมกับตำรวจพยายามที่จะทำร้ายพันธมิตรฯอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องป้องกันความปลอดภัย จึงไม่ต้องการให้มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบฯอีกแต่ให้ไปสมทบที่ดอนเมืองและสุวรรณภูมิแทน

       อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯแม้จะผ่านมาแล้ว แต่กระนั้นต้องยอมรับว่า เหตุดังกล่าวย่อมเป็นบทเรียนต่อสังคมไทยไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้มีอำนาจ ในการไม่ยอมลดวาราศอก ซึ่งเห็นได้จากเหตุวันที่ 26 พฤศจิกายน 2551

14.00 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ (คตร.) และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.) แถลงภายหลังร่วมประชุมกับ 5 องค์กรภาคเอกชน เสนอทางออกให้นายกฯ "ยุบสภา" และให้พันธมิตรฯยุติการชุมนุม ถอนกำลังออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง

18.10 น. นายสมชาย นายกฯ เดินทางโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำสายการบินไทยจากกรุงลิมา ประเทศเปรู ถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 41 เชียงใหม่ ท่ามกลางการอารักขาอย่างแน่นหนาของชุดปฏิบัติการพิเศษพร้อมอาวุธครบมือ โดยมีกลุ่มเสื้อแดง 500 คนเดินทางมาให้กำลังใจ

18.30 น. พันธมิตรฯแถลงยืนยันจุดยืนเดิมให้รัฐบาลต้อง ลาออก ไม่ใช่ยุบสภาและเปิดทางให้มีรัฐบาลประชาภิวัตน์

22.15 น. นายสมชาย นายกฯ ออกรายการทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ที่ จ.เชียงใหม่ ยืนยันไม่ลาออก ไม่ยุบสภา และเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมคืนทำเนียบและสนามบินโดยเร็วที่สุด