ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th

วัดบางแหวน

วัดบางแหวน ตั้งเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๙สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินสร้างวัด ๒๘ไร่ แต่เดิมชาวบ้านเรียกว่า วัดธำรงค์คงคาราม หรือวัดใน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากที่วัดปัจจุบันประมาณครึ่งกิโลเมตร ซึ่งสร้างมาเมื่อไหร่ไม่ปรากฏหลักฐานแต่ได้รับการบูรณะ และพัฒนาวัดมาโดยตลอด ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๑ ปัจจุบันมี พระครูสถิตธรรมธร เป็นเจ้าอาวาส (พ.ศ.๒๕๔๒ – ปัจจุบัน)

วัดบางแหวน มีรูปเหมือนหลวงพ่อรุ่ง ซึ่งเป็นที่สักการะและเคารพนับถือของชาวบ้านบางแหวน ในปัจจุบัน วัดบางแหวานเป็นที่ตั้งสำนักงานเลขานุกการเจ้าคณะอำเภอปะทิว โดยมี พระครูสถิตธรรมธร เป็นเลขานุการเข้าคณะอำเภอปะทิว

แม้มีดโกนจะคมแค่ไหน..โกนไม่เข้า "หลวงพ่อรุ่ง เคราเหล็ก" ผู้เสกตะกรุดจนหลอมละลายอย่างอัศจรรย์ยิ่ง ด้วยอำนาจแห่งเตโชกสิณ..

หลวงพ่อรุ่ง

หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน

ชาติภูมิ เดิมชื่อ นายรุ่ง ทิพย์อักษร เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๒ เป็นชาวบ้านบางแหวน ตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร โดยกำเนิด

บรรพชาอุปสมบท

ได้บรรพชาเป็นสามเณร และได้เรียนหนังสือและภาษาขอมเมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ได้อุปสมบท ณ วัดบางแหวน จนได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในเวลาต่อมา

เกียรติประวัติ

หลวงพ่อรุ่ง ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีความรู้ทางด้านไสยศาสตร์และยาสมุนไพรรักษาโรค และมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนพระสงฆ์ทั่ว ๆ ไป คือ มีเคราที่โกนไม่เข้า มีผู้ให้ฉายาท่านว่า “หลวงพ่อรุ่ง เคราเหล็ก” ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีคุณธรรมอันประเสริฐ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เปี่ยมด้วยความเมตตา มักน้อยถ่อมตน ฉันภัตตาหารวันละมื้อตลอดชีวิต ไม่ยอมรับสมณศักดิ์ใด ๆ จนเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของคนทั่วไป ผู้ใดมีรูปของท่านไว้บูชา เชื่อกันว่าจะเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าเช่นนามของท่าน หลวงพ่อรุ่งมรณภาพเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๑ ณ วัดบางแหวนนั่นเอง ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีอายุยืนยาวถึง ๙๙ ปี ลูกศิษย์และประชาชนที่ศรัทธาได้สร้างรูปเหมือนหลวงพ่อรุ่งไว้สักการะที่วัดบางแหวน

"หลวงพ่อรุ่ง เคราเหล็ก" หลังจากที่ท่านมรณภาพ ชาวบ้านได้สร้างรูปเหมือนไว้ ณ วัดบางแหวน หมู่ ๔ ตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีอภินิหาร เป็นพระเกจิอาจารย์แปลกกว่าพระเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆ คือ หลวงพ่อรุ่ง ท่านเป็นพระสงฆ์เพียงรูปเดียวที่สามารถไว้หนวดเคราได้ สาเหตุก็คือ หนวดเคราของท่านนั้นไม่สามารถโกนได้ คือโกนไม่เข้านั่นเอง แต่สำหรับผมของท่านนั้นสามารถโกนได้ หนวดเคราของท่านนั้นต่อให้มีดโกนที่คมขนาดไหนก็ตามก็โกนไม่เข้า จนชาวบ้านพากันเรียกท่านว่า "หลวงพ่อรุ่ง เคราเหล็ก" ตามคุณวิเศษของท่าน

คุณวิเศษข้อนี้ของท่านคงเกิดขึ้นมาหลังจากที่ท่านได้บวชและบำเพ็ญภาวนาเป็นเวลานานแล้ว ต่อมาเมื่อหนวดเคราของท่านยาวขึ้นมา ก็ไม่สามารถโกนได้ เป็นที่เล่าขานกันไปทั่ว เจ้าคณะจังหวัดชุมพรก็ได้ส่งพระสงฆ์มาทำการสอบสวน และจัดการโกนหนวดเคราของท่านออก แต่พระสงฆ์ที่เจ้าคณะจังหวัดส่งมานั้น โกนหนวดเคราของท่านเท่าไรก็โกนไม่เข้า ทั้งๆ ที่ใบมีดโกนคมกริบ โกนเส้นผมสบายๆ แต่พอมาโกนหนวดเคราของหลวงพ่อรุ่งกลับโกนไม่เข้า พยายามโกนเท่าไรก็โกนไม่เข้าเหมือนกับว่าหนวดเคราของท่านเป็นเหล็ก พระสงฆ์ที่มาทำการสอบสวนหลวงพ่อรุ่งจึงกลับไปรายงานเจ้าคณะจังหวัดว่า "โกนไม่เข้า"

เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เจ้าคณะจังหวัดจึงรายงานเรื่องมายังคณะสงฆ์ผู้ปกครองที่กรุงเทพฯ ฝ่ายคณะสงฆ์ เมื่อทราบรายงานก็ได้ส่งพระสงฆ์เจ้าหน้าที่ ลงไปสอบสวนและพิสูจน์ที่จังหวัดชุมพร คณะสงฆ์ที่ลงไปทำการสอบสวนและพิสูจน์การไว้หนวดเคราของหลวงพ่อรุ่งก็กลับมารายงานหัวหน้าคณะสงฆ์ที่กรุงเทพฯ ว่า "โกนไม่เข้า" เช่นกัน

แม้มีดโกนจะคมแค่ไหน..โกนไม่เข้า "หลวงพ่อรุ่ง เคราเหล็ก" ผู้เสกตะกรุดจนหลอมละลายอย่างอัศจรรย์ยิ่ง ด้วยอำนาจแห่งเตโชกสิณ..

นี่ก็เป็นเอกลักษณ์และคุณวิเศษของหลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใคร ปกติธรรมดาหลวงพ่อรุ่งท่านจะบำเพ็ญภาวนาไม่ค่อยชอบสุงสิงกับผู้คนมากนัก ในวัดบางแหวนสมัยที่ท่านยังอยู่ จะมีสัตว์ป่าลงมาอาศัยหากินอยู่เสมอ โดยเฉพาะไก่ป่า จะลงมาหากินเศษอาหารที่เหลือจากพระสงฆ์ฉันแล้วตามลานวัดเป็นจำนวนมากทุกวัน แต่หลังจากหลวงพ่อรุ่งมรณภาพแล้ว สัตว์ป่าเหล่านั้นก็ไม่กล้าลงมาอาศัยหากินในบริเวณวัดบางแหวนเหมือนแต่ก่อน

สมัยที่หลวงพ่อรุ่งยังมีชีวิตอยู่ชาวบ้านได้เห็นอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อรุ่งเสมอๆ อย่างที่กุฏิของท่านทำด้วยแฝกมุงด้วยหญ้าคา ปลูกสร้างอยู่กลางป่า วันหนึ่งไฟป่าลุกลามมาไหม้ต้นไม้และหญ้าคารอบๆ กุฏิของท่าน แต่ไฟป่าหาได้ไหม้กุฏิของท่านแม้แต่น้อย เวลาชาวบ้านมาขอตะกรุดจากท่าน ท่านก็จะทำตะกรุดและรวบรวมปลุกเสกพร้อมๆ กันหลายดอก ขณะที่ท่านกำลังบริกรรมปลุกเสกอยู่นั้น ตะกรุดบางดอกจะละลายไปเอง เมื่อปลุกเสกเสร็จแล้ว หลวงพ่อรุ่งท่านบอกว่าตะกรุดดอกที่ละลายนั้นแสดงว่าไม่ขลังนำไปใช้ไม่ได้ผล เข้าใจว่าท่านจะปลุกเสกด้วยเตโชกสิณ ตะกรุดดอกที่ละลายคือไม่อาจต้านทานความร้อนได้ ตะกรุดของหลวงพ่อรุ่งจะส่งผลในทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุด รวมทั้งป้องกันไฟได้ด้วย เคยมีคนไปพบรูปเหมือนและตะกรุดของท่านตกอยู่ในกองไฟที่ชาวบ้านเขาเผาป่าเพื่อทำไร่ แต่ปรากฏว่ารอบๆ บริเวณนั้นไม่ถูกไฟไหม้

วัตถุมงคลของท่านนั้นส่วนมากจะเป็นตะกรุด ผ้ายันต์ เป็นส่วนใหญ่ พระเครื่องของท่านนั้นมีอยู่เพียงรุ่นเดียวคือ รูปเหมือน และเหรียญรูปท่านที่สร้างในปีพ.ศ.๒๕๐๐ โดยสร้างเป็นรูปท่านแต่มีหนวดมีเคราตามที่บอกไว้ตั้งแต่ต้น รูปเหมือนและเหรียญของท่านนั้นค่อนข้างหายากพอสมควร เพราะชาวบ้านที่ครอบครองไว้ต่างก็หวงแหนกัน เพราะปัจจุบันก็ไม่ได้สร้างไว้มาก หากใครสนใจต้องการมีเหรียญไว้ครอบครอง ก็ไปที่วัดบางแหวน ตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร

แม้มีดโกนจะคมแค่ไหน..โกนไม่เข้า "หลวงพ่อรุ่ง เคราเหล็ก" ผู้เสกตะกรุดจนหลอมละลายอย่างอัศจรรย์ยิ่ง ด้วยอำนาจแห่งเตโชกสิณ..

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม

http://forum.uamulet.com/

เพื่อเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์