ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ทัพพาราไทยเครื่องเริ่มร้อนเดินหน้ากวาดวันเดียว 11 ทอง อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 9 โดย พงศกร แปยอ และ สายชล คนเจน  2 ยอดนักวีลแชร์เรซซิ่ง ยังโชว์ฟอร์มสุดยอด ซิ่งวีลแชร์คู่ใจผงาดคว้าเหรียญที่ 3 ให้ตนเองได้ทั้งคู่ ด้านว่ายน้ำ ทนงศักดิ์ หิตะคุณ ฉลามหนุ่มทีมชาติไทย ฟอร์มเฉียบจ้วงนำม้วนเดียวจบคว้าทองกรรเชียง 100 ม. ชาย คลาส ที11 เวลา 1.22.39 น. ส่วนยกเหล็ก จอมพลังประกิต ทองสังข์ สุดแกร่งยกทำสถิติได้ 170 กก. หยิบทองรุ่น 107 กก.ชาย ให้ทัพไทยได้อีกเหรียญ ด้าน “บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประมุขพาราไทย รับผลงานทำไทยอาจไม่เป็นตามเป้า ชี้การตัดอีเว้นต์แข่งขันของ เจ้าภาพ เป็นหนึ่งในเหตุผลทำให้ทัพไทยเป็นไปตามที่คิด ขณะเดียวกันยังน้อมรับพร้อมเตรียมเร่งกลับมาปรับปรุงต่อไปเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลุยเอเชี่ยนพาราเกมส์ต่อไปในปีหน้า

     การแข่งขันกีฬา อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 9 ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในวันที่ 5  มีชิงชัย 69 เหรียญทอง 

     กรีฑา ที่สนามบูกิต จาลีล สเตเดี้ยม ชิง 26 ทอง โดยวีลแชร์เรซซิ่ง 400 ม.ชาย ประเภท ที54 ไทยส่ง 2 จอมเก๋า “โอ๊ต” สายชล คนเจน ดีกรีแชมป์เก่า ลงป้องกันแชมป์ในลู่ที่ 3 และ “เบิ้ม” เรวัตน์ ต๋านะ เจ้าของเหรียญเงิน 5,000 ม.ชิงแชมป์โลก ที่อังกฤษ ในปีนี้ ที่ต้องขยับมาแข่งระยะใกล้ที่ตัวเองไม่ถนัด ซึ่งผลปรากฏว่า สายชล ชิงจังหวะปั่นวีลแชร์เข้าเส้นชัยคนแรกด้วยเวลา 48.59 วิ. โดยเป็นนักกีฬาไทยคนแรกในกัวลาลัมเปอร์เกมส์ที่คว้าไปแล้ว 3 เหรียญทอง และยังเป็นการรักษาแชมป์ครบทั้ง 3 อีเว้นท์ต่อจาก 100 และ 200 ม. ส่วนเหรียญเงินเป็นของ เรวัตน์ เวลา 48.97 วิ. และทองแดง จีนาล อาริพิน (อินโดนีเซีย) 49.76 วิ.

    ขณะที่ “กร” พงศกร แปยอ เรซซิ่งหนุ่มวัย 21 ปี เจ้าของ 2 เหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ที่ประเทศบราซิล ปี 2016 ลงแข่งขัน 400 ม. ชาย คลาส ที53 เป็นอีเวนต์ที่ 3 ในทัวร์นาเมนต์นี้ หลังเจ้าตัวเพิ่งเหมามา 2 ทองจาก 100 ม. และ 800 ม. และ พงศกร ก็ไม่ทำให้ชาวไทยผิดหวัง หมุนล้อวีลแชร์คู่ใจเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 ด้วยเวลา 51.42 วิ. คว้าเหรียญทองที่ 3 ประจำศึกอาเซียนพาราเกมส์ได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนเหรียญเงินและทองแดงเป็นของนักกีฬาไทยทั้งหมด เหรียญเงิน จิรวัฒน์ ศักดิ์ศิริพงศา ทำเวลา 53.48 วิ. และ ทองแดง โสภา อินทเสน ทำเวลา 53.84 วิ.

    หลังแข่ง “โอ๊ต” สายชล คนเจน และ “กร” พงศกร แปยอ ซึ่งคว้า 3 เหรียญทองมาได้ทั้งคู่ร่วมให้สัมภาษณณ์กับสื่อว่า จากการตั้งเป้าว่าจะป้องกัน 3 แชมป์จากครั้งที่แล้วให้ได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้า ส่วนเรื่องเวลาก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก ส่วนหลังจากนี้น่าจะพักประมาณ 1 เดือนเพื่อเตรียมพร้อมเข้าแคมป์ฝึกซ้อมยาวก่อนลุยศึก “เอเชี่ยน พาราเกมส์ 2018” ที่ประเทศอินโดนีเซียต่อไป

     ด้านประเภทวิ่ง 400 ม. ชาย คลาส ที37 อภิสิทธิ์ ทาพรม ลมกรดหนุ่มของไทยสามารถคว้าเหรียญทองที่ 3 ให้แก่ตนเองในทัวร์นาเมนต์นี้ได้สำเร็จ ด้วยการเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกที่เวลา 56.63 วิ. เป็นเหรียญทองต่อจาก วิ่ง 800 ม. ชาย และ วิ่ง 1,500 ม. ชาย ส่วนเหรียญเงิน เล วาน มาน จากเวียดนาม ทำเวลา 57.45 วิ. ส่วนทองแดงเป็น ศักดิ์เพชร แซ่ว่าง ทำเวลา 58.94 วิ. 

     นอกจากนี้ผลงานติดเหรียญของนักกีฬาไทย ประกอบด้วย วิ่ง 200 ม. หญิง คลาส ที12 สุนีย์ภรณ์ ถนอมวงศ์ ได้เหรียญทอง สถิติ 27.36 วิ., วิ่ง 1,500 ม. ชาย คลาส ที20 อุทัย จันทร์หนิ้ว ได้เหรียญทอง สถิติ 4.15.62 น., พุ่งแหลน ชาย คลาส เอฟ11 อานนท์ วงศ์เงิน ได้เหรียญทอง สถิติ 38.13 ม. และ พิชัย บุญศรี ได้เหรียญเงิน สถิติ 36.86 ม., วีลแชร์เรซซิ่ง 200ม. หญิง คลาส ที53/54 ธภัทร ฉัตร์ยศกร ได้เหรียญเงิน สถิติ 33.93 วิ., วิ่ง 400 ม. หญิง คลาส ที44/ที46 ภัคจิราพร กำกัน ได้เหรียญเงิน สถิติ 1.06.41 น., วิ่ง 400 ม. ชาย คลาส ที38 สุรศักดิ์ ดำชุม ได้เหรียญเงิน สถิติ 57.06 วิ., พุ่งแหลน ชาย คลาส เอฟ12/13 วสันต์ จันทินมาธร ได้เหรียญเงิน สถิติ 46.39 ม., ทุ่มน้ำหนัก ชาย คลาส เอฟ20 บุญกอง เสน่ห์พูด ได้เหรียญทองแดง สถิติ 11.99 ม., กระโดดไกล ชาย คลาส ที11/12 จักร์กิจ ปันทอง ได้เหรียญทองแดง สถิติ  5.46 ม., ทุ่มน้ำหนัก หญิง คลาส เอฟ56/57 พวงเพชร ไชยธงรัตน์ ได้เหรียญเงิน สถิติ 6.04 ม.

 

เครื่องเริ่มร้อน ทัพพาราไทย  กวาดวันเดียว 11 ทอง อาเซียนพาราเกมส์

ด้าน พล.ต.อาณัติ รัตนพล ในฐานะผู้จัดการทีม กล่าวว่า ภาพรวมผลงานนักกรีฑาคนพิการไทย นักกีฬาหน้าใหม่ทำสถิติได้ดี แต่ยอมรับว่า อินโดนีเซียเตรียมทีมมาดีมากและวางแผนต่อเนื่องถึงการเป็นเจ้าภาพ เอเชี่ยนพาราเกมส์ และน่าจะครองจ้าวกรีฑา อาเซี่ยนพาราเกมส์ ในครั้งนี้ด้วย

     ยิงธนู ชิง 2 ทอง ที่ซินเทติก เทิร์ฟ ฟิลด์ สนามกีฬาแห่งชาติ เป็นการแข่งขันในประเภทคันธนูทดกำลัง ประเภทบุคคลชาย-หญิง โดยนักกีฬาไทยได้เหรียญทองแดงไปครองทั้ง 2 ประเภท ในประเภทบุคคลชาย นักกีฬาไทยได้ชิงอันดับ 3 ทั้งสองคน ได้แก่ อานนท์ อึ้งอภินันท์ พบกันเองกับ อัคราชัย พิมพ์ทอง และเป็นทาง อานนท์ ที่ยิงได้แม่นยำกว่า เอาชนะไปด้วยสกอร์ 144-135 คะแนน อานนท์ อึ้งอภินันท์ ได้เหรียญทองแดงประจำประเภททดกำลังบุคคลชายไปครอง ส่วนเหรียญทองเป็น โตโต้ วาสโตมี่ จากอินโดนีเซีย และ เหรียญเงิน โมโรเจ็น จากมาเลเซีย ขณะที่ประเภทบุคคลหญิงนักกีฬาไทยก็ได้ชิงอันดับ 3 กันเองอีกเช่นกัน ระหว่าง รมย์ชลี เกษมงคล ดวลกับ รัชนี พันธ์ใหม่ โดยเป็นทางด้าน รมย์ชลี ที่ทำผลงานได้ดีกว่า เอาชนะไป 134-133 รมย์ชลี เกษมงคล ได้เหรียญทองแดง ส่วนเหรียญทองเป็น นูร์ สยาฮิดาห์ จากสิงคโปร์ และเหรียญเงิน นอร์ ซาอะดาห์ จากมาเลเซีย 

    ว่ายน้ำ ชิง 22 ทอง ที่เนชั่นแนล อควาติก เซนเตอร์ บูกิต จาลีล สเตเดี้ยม ไฮไลต์ในประเภทกรรเชียง 100 ม. ชาย คลาส ที11 ทนงศักดิ์ หิตะคุณ ฉลามหนุ่มทีมชาติไทยโชว์ความยอดเยี่ยมสามารถว่ายแตะขอบสระเป็นคนแรก ที่เวลา 1.22.39 น. คว้าเหรียญทองที่สองของตนเอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้คว้าเหรียญทองแรกในประเภทฟรีสไตล์ 100 ม. ไปแล้ว ส่วนเหรียญเงิน กฤตพัฒน์ วิทิตเกษมโรจน์ สถิติ 1.28.21 น. และ เหรียญทองแดง ดอง แวน ง๊อค จากเวียดนาม สถิติ 1.44.21 น. นอกจากนี้ ทนงศักดิ์ ยังมาได้ทองที่ 3 เพิ่มในฟรีสไตล์ 50 ม. ด้วยเวลา 29.97 วิ. ชนะตำนานรุ่นพี่ พนม ลักษณะพริ้ม ที่ขยับมาแข่งประเภทกบครั้งแรก อยู่ 1.39 วิ. โดย พนมทำได้ 31.36 วิ. เหรียญทองแดง เหงียน วาน ทึง (เวียดนาม) 32.24 วิ.

    ส่วนผลการแข่งขันรายการอื่นๆ ของว่ายน้ำคนพิการไทย ฟรีสไตล์ 50 ม. ชาย คลาส เอส4 เกียรติศักดิ์ สุวรรณศรี ได้เหรียญทอง สถิติ 1.08.18 น., ฟรีสไตล์ 50 ม. หญิง คลาส เอส6 ประจิม เรียงสันเทียะ ได้เหรียญเงิน สถิติ 38.79 วิ., ฟรีสไตล์ 50 ม. หญิง คลาส เอส8 ทองใบ ชัยสวัสดิ์ ได้เหรียญเงิน สถิติ 39.56 วิ., กรรเชียง 100 ม. หญิง คลาส ที8 วิราสินี วงศ์นนทภูมิ ได้เหรียญทองแดง สถิติ 1.46.51 น.., กรรเชียง 100 ม. ชาย คลาส เอส14 จิระโชติ ชูวงษ์ ได้เหรียญทองแดง สถิติ 1.15.25 น., ฟรีสไตล์ 50 ม. หญิง คลาส เอส5 นพรัตน์ ทันบุตร ได้เหรียญทองแดง สถิติ 56.78 วิ., ฟรีสไตล์ 50 ม. หญิง คลาส เอส7 ภัทรา กรังพานิชย์ ได้เหรียญทองแดง สถิติ 51.76 วิ., ฟรีสไตล์ 50 ม. ชาย คลาส เอส7 กวีวัธน์ สิทธิชัยพรนิธิ ได้เหรียญทองแดง สถิติ 33.93 วิ., ฟรีสไตล์ 50 ม. ชาย คลาส เอส8 ไพบูลย์ วงศ์นนทภูมิ ได้เหรียญทองแดง สถิติ 33.87 วิ.

     ด้านเทนนิส ชิง 3 เหรียญทอง ที่ ศูนย์ฝึกเทนนิสแห่งชาติ มาเลเซีย โดยทีมนักหวดลูกสักหลาดทีมชาติไทย ผ่านเข้ารอบชิงได้ทั้ง 3 ประเภท ซึ่งในประเภทชายคู่ สุธี คลองรั้ว จับคู่กับ วิทยา พิมพ์มี แชมป์เก่า 2 สมัย ดวลกับ อาบู ซามาห์ บิน บอร์ฮัน และ อารีฟฟาห์มี่ บิน อารีฟฟิน จากมาเลเซีย ปรากฎว่า คู่นักหวดลูกสักหลาดไทย ตบเอาชนะไป 2 เซตรวด 6-2, 6-4 คว้าแชมป์สมัยที่ 3 ได้สำเร็จ ขณะที่ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ สุธี คลองรั้ว แพ้ อาบู ซามาห์ 2-6,6-7 (2) นอกจากนี้ สมบัติ แย้มประภา ได้เหรียญเงินจากประเภทกล้ามเนื้ออ่อนแรง 

    ยกน้ำหนัก ชิง 5 ทอง ที่มีเทค ฮอลล์ 3 รุ่น 107 กก.ชาย ประกิต ทองสังข์ ยกทำสถิติได้ 170 กก. คว้าทองได้สำเร็จ ขณะที่เงิน อัซรี่ อัซมาน ของเจ้าภาพมาเลเซีย 153 กก. และทองแดง ฟาอิซ ฮุสเซน จากมาเลเซียเช่นกัน 152 กก. นอกจากนี้นักยกเหล็กไทยยังคว้าอีก 2 ทองแดงจากรุ่น 97 กก.ชาย ชินภพ คำดำ ยกได้ 150 กก. และรุ่น + 86 กก.หญิง รุจาภา ไชยพิเดช ยกได้ 66 กก.

   วีลแชร์บาสเกตบอล 3x3 ที่ มีเทค ฮอลล์ 10 แข่งแบบพบกันหมด เกมสุดท้าย  ทีมยัดห่วงหนุ่มไทย ลงสนามดวกับ “เจ้าภาพ”  มาเลเซีย ผลปรากฎว่า  ทัพแม่นห่วงหนุ่มไทย อาศับชั้นเชิงที่เหนือกว่าชูตต้อนเอาชนะ มาเลเซีย 12-5 คะแนน คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ แต่ทั้งนี้จะมีการมอบเหรียญรางวัลในวันรุ่งขึ้น วันที่ 22 ก.ย.

 

เครื่องเริ่มร้อน ทัพพาราไทย  กวาดวันเดียว 11 ทอง อาเซียนพาราเกมส์

แบดมินตันที่ เอ็กเซียต้า อารีน่า สปอร์ตซิตี้ เคแอล  ประเภทวีลแชร์ WH2 แข่งขันแบบพบกันหมด อำนวย เวชวิฐาน มือวางอันดับ1ของโลก และแชมป์เก่า 3 สมัย ลงสนามนัดที่ 3 หลังจาก 2 นัดแรกชนะรวด พบกับ อินาโน ลิต้า จากฟิลลิปินส์ ปรากฎว่า อำนวย เวชวิฐาน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตบเอาชนะไปขาดลอย 2-0 เกมรวด 21-4 และ 21-4 เก็บชัยชนะ 3 นัดรวด โดยสุดท้ายอำนวย จะพบกับ สุจีรัตน์ ปลูกคำ มือวางอันดับ 4 ของโลก หากใครจะชนะก็จะคว้าเหรียญทองทันที

     ส่วนประเภทหญิงเดี่ยว เอสแอล 4 รอบก่อนรองชนะเลิศ หรือว่ารอบ 8 คนสุดท้าย ขนไก่สาวทีมชาติไทยโคจรมาพบกันเอง ระหว่าง ชนิดา ศรีนวกุล มือวางอันดับ 2 ของรายการ พบกับ นิภาดา แสนสุภา ปรากฎว่า นิภาดา แสนสุภา ทำได้ดีกว่า ตบเอาชนะไป 2-1 เกม 21-9, 20-22, 21-15 ผ่านเข้ารอบไปพบกับ ซาดิย่า ซูโกฮันโดโกะ จากอินโดนีเซีย

    ฟุตบอล 7 คนความพิการทางสมอง รอบรองชนะเลิศ ทีมชาติไทย (แชมป์เก่า) พบกับ มาเลเซียปรากฎว่าคู่นี้เล่นกันอย่าง สูสี โดยมาเลเซียเป็นฝ่ายทำประตูขึ้นนำไทย ถึง 2 ครั้ง แต่ไทยก็ยิงประตูตีเสมอได้ทั้งสองครั้งจาก ไพศาล แซ่จ้าว จบ 60 นาทีเสมอกันที่ 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษอีกครึ่งละ 10 นาที ก่อนที่ สัญญา สุขสังข์ มายิงประตูชัยให้ทีมชาติไทยเอาชนะ 3-2 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ อินโดนีเซีย ที่เอาชนะ สิงคโปร์มา 6-0 

    โบว์ลิ่ง ชิง 2 ทอง ที่ ซันเวย์ ปิรามิด เปตาลิง จายา ประเภททีม 3 คน พิการทางสายตา

ทีพีบี 1+ทีพีบี 2+ทีพีบี 3 ได้ 1 เหรียญทองแดง

จาก กฤษดา เกียรติก้องทวี, บริพัตร จงวิวัฒนธรรม, เกียรติกานต์ มะโนคำ สรุป ตอนนี้ ได้ไป 3 ทอง 2 เงิน 4 ทองแดง

      ด้าน “บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า  จากการแข่งขันตลอดช่วง 5 วันที่ผ่านมา ผลงานนักกีฬาไทยถือว่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่เราวางไว้ อย่างไรก็ดีต้องบอกว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้ผลงานเราอาจไม่เป็นตามเป้าหมาย โดยเฉพาะในกรณี ปัญหาเรื่องการที่นักกีฬาโดนตัดอีเวนต์แข่งขันมากที่สุดตั้งแต่ทัพนักกีฬาไทยเข้าร่วมอาเซียนพาราเกมส์มาเลย ร่วมถึงบางรายที่มีการตรวจคลาสไม่ผ่านอีก แต่จริงๆ ประเด็นหลักที่นักกีฬาไทยโดนตัดอีเวนต์มาจากอีเวนต์นั้นๆ ไม่มีนักกีฬาของแต่ละประเทศเข้าร่วมเพียงพอมากกว่า ทำให้เจ้าภาพไม่สามารถเปิดอีเวนต์ให้แข่งขันได้ คงจะไปโทษเจ้าภาพเขาไม่ได้ แต่ทั้งนี้เราต้องยอมรับว่ามันเป็นผลงานที่ต่ำกว่ามาตราฐานเล็กน้อย จากนี้ไปเราคงต้องกลับมาประชุมเพื่อปรุงแก้ไขและเตรียมความพร้อมเพื่อเป้าหมายในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์ ปีหน้าต่อไป

           แบด-แม่นห่วง ลุ้นทองเต็มตัว 

     โปรแกรมชิงเหรียญทองวันที่ 22 ก.ย.60 ทำการชิงชัยทั้งสิ้น 78 เหรียญทอง ไฮไลต์อยู่ที่การชิงชัยเหรียญทองของกีฬาแบดมินตัน ชิง 14 ทอง ที่สนามอะเซียต้า อารีน่า บูกิต จาลีล อำนวย เวชวิฐาน แชมป์โลกจากคลาส ดับเบิลยูเอช2 ลงปะทะเพื่อนร่วมทีมชาติ สุจีรัตน์ ปลูกคำ มือวาง อันดับ 4 ของโลก เริ่ม 14.00 น. ขณะที่วีลแชร์บาสเกตบอล 5 คน ชิง 1 ทอง ที่สนามมีเทค ฮอลล์ 10 ซึ่งทัพแม่นห่วงคนพิการทีมชาติไทยถือเป็น เบอร์ 1 ของอาเซียน ครองแชมป์มาได้ 5 สมัยติด เตรียมลงแข่งเกมสุดท้ายปะทะ “เจ้าภาพ” มาเลเซีย ทีมใดกำชัยเท่ากับกำแชมป์ในมือ เริ่มเวลา 09.30 น. นอกจากนี้ยังมี ยิงธนู ชิง 2 ทอง ที่ซินเทติก เทิร์ฟ ฟิลด์ สนามกีฬาแห่งชาติ เริ่ม เวลา 08.00 น., กรีฑา ชิง 26 ทอง ที่สนามบูกิต จาลีล สเตเดี้ยม เริ่ม เวลา 07.00 น., แบดมินตัน ชิง 14 ทอง ที่อะเซียต้า อารีน่า บูกิต จาลีล เริ่ม เวลา 13.00 น., โบว์ลิ่ง ชิง 2 ทอง ที่ซันเวย์ ปิรามิด เปตาลิง จายา เริ่ม เวลา 08.00 น., หมากรุกสากล ชิง 12 ทอง ที่ไมเท็ค ฮอลล์ 4 เริ่ม เวลา 09.00 น., ฟุตบอล 5 คน ชิง 1 ทอง ที่เนชั่นแนล ฮอกกี้ เคแอล สปอร์ตสซิตี้ บูกิต จาลีล เริ่ม เวลา 08.15 น., ฟุตบอล 7 คน ชิง 1 ทอง ที่ฟิลด์ ซี2 และ ฟิลด์ซี1 เอ็นเอสซี แคแอล สปอร์ต ซิตี้ เริ่ม เวลา 16.15 น., ว่ายน้ำ ชิง 10 ทอง ที่เนชั่นแนล อควาติก เซนเตอร์ บูกิต จาลีล สเตเดี้ยม เริ่ม เวลา 08.00 น., วอลเลย์บอลนั่ง ชิง 1 ทอง ที่มีเทค ฮอลล์ 11 เริ่ม เวลา 10.30 น.

 

เครื่องเริ่มร้อน ทัพพาราไทย  กวาดวันเดียว 11 ทอง อาเซียนพาราเกมส์