สาเหตุที่ต้องโวยเรื่องเงินทอนวัด!! พระพุทธะอิสระ แฉ อดีตผ.อ.สำนักพุทธฯ จากคนธรรมดา สู่มหาเศรษฐี เรื่องนี้มีเงื่อนงำ วอนคสช.อย่าให้ลอยนวล!!

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

หลังที่ ปปป.ลุยค้นบ้าน "พนม ศรศิลป์" อดีต ผอ.สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา จากเข้าตรวจค้นภายในบ้านเท่านั้น พบพระเบญจภาคี ทองคำแท่งน้ำหนัก80บาท เอกสารการซื้อขายหุ้น เงินสดและหนังสือร้องเรียน พร้อมเอกสารที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับคดี   ในส่วนการตรวจค้นจุดที่สองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดแรก มากนัก ภายในซอยกระทุ่มล้ม9 หลังวัดนครชื่นชุ่ม บ้านเลขที่36/5ม.1ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านของนายพัฒนา  สุอำมาตย์มนตรี ผอ.กองสำนักพุทธสถาน จากการตรวจค้น พบ เงินสดจำนวนหนึ่งพร้อมรายชื่อบัญชีวัดที่คาดว่ามีส่วนในเรื่องเงินทอนวัดร่วม100ล้านบาท

(เจอแล้วหลักฐานเด็ด!! ปปป.ลุยค้นบ้าน "พนม ศรศิลป์" อดีต ผอ.พศ. อึ้ง!! เจอทองคำแท่ง ใบซื้อหุ้นอีกเพียบ!?)

 

สาเหตุที่ต้องโวยเรื่องเงินทอนวัด!! พระพุทธะอิสระ แฉ อดีตผ.อ.สำนักพุทธฯ จากคนธรรมดา สู่มหาเศรษฐี เรื่องนี้มีเงื่อนงำ วอนคสช.อย่าให้ลอยนวล!!


ล่าสุดหลวงปู่พุทธะอิสระ ได้เผยแพร่ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ถึงกรณีเรื่องเงินทอนวัด ที่จำเป็นต้องตรวจสอบ โยงไปถึง นายพนม ศรศิลป์อดีต ผ.อ.สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ดังนี้ 

 

 

๒๒ กันยายน ๒๕๖๐

พวกที่ชอบเข้ามาด่าพุทธะอิสระซึ่งก็มีทั้งพระและทั้งฆราวาส ลองอ่านข่าวนี้ดูบ้าง

จะได้ตาสว่าง รู้เห็นผลว่า ทำไมพุทธะอิสระจึงต้องเที่ยวตะลอน ๆ ไปยื่นหนังสือร้องเรียนไปทุกหน่วยงาน เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องเงินทอนวัด

โดยเฉพาะนายพนม ศรศิลป์ อดีต ผ.อ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเรื่องทุจริตเงินทอนวัด

ซึ่งตามประวัติของนายพนม ก่อนจะมาเป็นข้าราชการในสังกัดสำนักพุทธฯ ก็มีอาชีพเป็นแค่ครูประชาบาล

แต่ด้วยอำนาจ บารมีของพระผู้ใหญ่ ระดับกรรมการมหาเถรสมาคมฝากฝังผลักดันจนกลายมาเป็นลูกหม้อของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผ.อ. สำนักพุทธฯ คนแรก

และด้วยพฤติกรรมที่มีลิ้นกระดาษทราย น้ำลายแชลค ที่ต้องท่องจำจนติดปากว่าใช้ครับหลวงพี่ ดีครับท่าน สมควรชอบแล้วครับพระเดชพระคุณ

จากครูประชาบาลที่ครอบครัวที่มีฐานะระดับปากกัดตีถีบก็กลายมาเป็นระดับเศรษฐี

ซึ่งมีคฤหาสน์ ราคา ๓๐ ล้านอัพ ไม่ต่ำกว่า ๓ หลัง

มีเงินลงทุนในตลาดหุ้นในระดับ ๑๐ ล้านบาท

มีโฉนดที่ดินราคาหลายสิบล้านบาทไม่ต่ำกว่า ๑๐ แปลง

มีทองคำแท่งซุกซ่อนเอาไว้ทั้งในบ้านตนและคนใกล้ชิดมูลค่าไม่ต่ำกว่า๕๐-๖๐ ล้านบาท

มีเงินสดที่เก็บไว้ในเซฟโดยไม่ฝากธนาคารในบ้านทุกหลังอีกไม่ต่ำกว่า ๑๐ ล้านบาท

มีรถยนต์ไฮคลาสไม่ต่ำกว่า ๕ คัน

มีอสังหาริมทรัพย์ที่ไปลงทุนซื้อเอาไว้ที่สหรัฐ โดยการแนะนำของนายนพรัตน์ ลูกพี่เก่าอีกหลายสิบล้านบาท

แถมยังเลี้ยงกิ๊กเอาไว้อีกไม่ต่ำกว่า ๓ คน ซึ่งก็มีทั้งคนในสำนักพุทธฯเอง และคนนอก

ซึ่งแต่ละคนก็เป็นผู้ถือทรัพย์สินของนายพนมเอาไว้จำนวนมากทั้งนั้น

หาก ป.ป.ป. ต้องการจักตรวจสอบเส้นทางทรัพย์สินของอดีต ผ.อ. สำนักพุทธฯ ผู้นี้จริง ๆ

ควรจะต้องสืบค้นหาความสัมพันธ์กับบุคคลต่าง ๆว่า

นายนพรัตน์มีความสนิทสนมอยู่กับใครบ้าง

ไม่เว้นแม้แต่พระผู้ใหญ่บางรูป

เพราะได้ยินมาว่ามีการโยกย้ายทรัพย์สินจำนวนหนึ่งไปฝากเอาไว้กับพระผู้ใหญ่ที่สนิทชิดเชื้อกันดี

และเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีแผลเน่าในอยู่ด้วย

เรียกว่าไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ หากพระเดชพระคุณอมทรัพย์ของกระผม กระผมก็จะลากไส้เน่าของพระเดชพระคุณออกมาประจาน

พุทธะอิสระจึงอยากจะบอกเจ้าหน้าที่ ป.ป.ป. ว่า

อย่าหลงประเด็นตรวจค้นเพียงแค่หมู่ญาติของนายนพรัตน์ เท่านั้น แม้แต่พระผู้ใหญ่ที่นายนพรัตน์ใกล้ชิดสนิทสนมด้วยก็ต้องตรวจค้น

ไม่เช่นนั้นเงินทอนวัดที่เป็นภาษีของประชาชนก็จะถูกเสือเหลืองบางคนสมคบซุกซ่อน

หากรัฐบาล ค.ส.ช. ต้องการจะพิสูจน์ความจริงใจในเรื่อง ปราบปรามการทุจริต ก็มิควรละเลยใครที่รู้เห็นเป็นใจในการทำชั่วให้ลอยนวล

พุทธะอิสระ

สาเหตุที่ต้องโวยเรื่องเงินทอนวัด!! พระพุทธะอิสระ แฉ อดีตผ.อ.สำนักพุทธฯ จากคนธรรมดา สู่มหาเศรษฐี เรื่องนี้มีเงื่อนงำ วอนคสช.อย่าให้ลอยนวล!!

สาเหตุที่ต้องโวยเรื่องเงินทอนวัด!! พระพุทธะอิสระ แฉ อดีตผ.อ.สำนักพุทธฯ จากคนธรรมดา สู่มหาเศรษฐี เรื่องนี้มีเงื่อนงำ วอนคสช.อย่าให้ลอยนวล!!