เลิกเกรงใจคนชั่วเหอะ!! จำได้มั๊ย??ศาลฎีกาฯวางเงื่อนไขประกันตัว ยิ่งลักษณ์ อย่างไร ข้องใจทำไมบิ๊กตร.บอก 3 สีกากีช่วยผตห.หนียังไม่ผิดอาญา??

ติดตามรายละเอียด : http://www.tnews.co.th

จากจุดเริ่มต้นของการแกะรอยเส้นทางหลบหนีออกต่างประเทศ ผ่านเส้นทางชายแดน บริเวณจังหวัดสระแก้ว    ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรจนกระทั่งนำมาซึ่งการนำสืบรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือ  และนำเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 3 นายมาสอบถามข้อมูลความเชื่อมโยง ตามด้วยข้อเท็จจจริงอันน่าเชื่อได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ  น.ส.ยิ่งลักษณ์  (คลิกอ่านข่าวเกี่ยวข้อง :   เปิดชื่อพ.ต.อ.โยงพายิ่งลักษณ์หนี  แฉพบ 2  ตำรวจร่วมแก๊ง รองสารวัตรนครปฐม นายดาบตร.ท่องเที่ยว  มีบิ๊กสีกากีเป็นคนบงการ???

เลิกเกรงใจคนชั่วเหอะ!! จำได้มั๊ย??ศาลฎีกาฯวางเงื่อนไขประกันตัว ยิ่งลักษณ์ อย่างไร ข้องใจทำไมบิ๊กตร.บอก 3 สีกากีช่วยผตห.หนียังไม่ผิดอาญา??

ต่อมากองบัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่งให้  พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์   รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5    (คลิกอ่านข่าวประกอบ  :   ประวัติไม่ธรรมดาคุม9โรงพักกรุงฯ!ย้อนชีวิตนายตำรวจโดนกาหัวช่วย"ยิ่งลักษณ์"หลบหนีคดีอาญา"บิ๊กแจ๊ด"อดีตผบช.น.ชุบตัวจากสีกากีสายภูธรนั่งนครบาล??) มาปฎิบัติราชการที่ศูนย์ปฎิบัติราชการกองบังคับการตำรวจนครบาล 5

 

ขณะเดียวกันทางด้าน  กองบังคับการตำรวจภูธรนครปฐม  ก็มีคำสั่งให้พ.ต.ท.สามิตร ไชยอิ่นคำ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนครปฐม   และดาบตำรวจพรพิพัฒน์ มากบุญงาม ผู้บังคับหมู่ ฝ่ายอำนวยการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ไปปฏิบัติราชการที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด  

อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีการพิจารณาสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่สังคมยังค้างคาใจก็คือขั้นตอนการพิจารณาความผิด  เนื่องจากคำให้สัมภาษณ์ของ  พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ระบุบางช่วงบางตอนว่า  เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง  3 นายให้การเป็นประโยชน์  และถึงขณะนี้ยังไม่มีความผิดทางคดีอาญาจึงได้ปล่อยตัวไป เนื่องจากวันที่พาอดีตนายกรัฐมนตรีหลบหนี ศาลยังไม่ออกหมายให้เป็นผู้ต้องหา   มีสถานภาพเพียงจำเลยในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

เลิกเกรงใจคนชั่วเหอะ!! จำได้มั๊ย??ศาลฎีกาฯวางเงื่อนไขประกันตัว ยิ่งลักษณ์ อย่างไร ข้องใจทำไมบิ๊กตร.บอก 3 สีกากีช่วยผตห.หนียังไม่ผิดอาญา??


ล่าสุด   “สุทิน วรรณบวร”  นักข่าวและคอลัมนิสต์อาวุโส  ได้โพสต์แสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าว   ระบุข้อความว่า  “ศาลสั่งห้ามจำเลยออกนอกประเทศ  นอกจากได้รับอนุญาตจากศาล การช่วยให้จำเลยหนีออกประเทศผิดมาตรา ๑๕๗ เป็นเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อย่ามาศรีธนญชัยว่าขับไปส่งในประเทศที่ไหนก็ได้ เพราะการไปส่งครั้งนี้ได้สมคบกับคนที่รับช่วงต่อนำจำเลยหนีออกนอกประเทศ ถือได้ว่าร่วมกันทำความผิดสมบูรณ์แล้ว  ไม่อยาก lost dog มากว่านี้เลิกเกรงใจคนชั่วบางคนได้แล้ว เลิกทำตัวเป็นศรีธนญชัย  เลิกแก้ผ้าเอาหน้ารอด ประเทศชาติไม่ใช่เป็นของเล่นใคร??


ทั้งนี้เมื่อวันที่ 19 พ.ค.  2558   ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ อม. 22/2558   ระหว่างอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลอาญามาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 (ทุจริตจำนำข้าว) ที่ละเลยไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวสร้างความเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาทเป็นครั้งแรก  ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นสมุดเงินฝากธนาคารกรุงเทพมูลค่า 30 ล้านบาทเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยศาลอนุญาตแต่มีเงื่อนไขห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล

 

 

ขอบคุณ :    Sutin Wannabovorn