หัวใจน่ากราบ คนพิการไทยเจ๋ง ไทยกวาดทองเพิ่ม

    

บอคเซียไทย สุดยอดกวาด 3 ทอง วิษณุ ฮวดประดิษฐ์ คว้าบุคคลบีซี 1 บุญเทพ เพชรดี  ทองบีซี 2 และ พงศธร พูนเกตุ ซิวบีซี 3 ด้าน วีลแชร์บาสฯ หนุ่มไทย แกร่งสมคาเบอร์ 1 อาเซียน ชูตดับ “เจ้าภาพ” เสือเหลือง มาเลเซีย 70-56 คะแนน คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 6 ด้านกรีฑา เกวลิน วรรณฤมล สุดยอดควงไกด์รันเนอร์คู่ใจควบฝีเท้าผงาดคว้าอีก 2 ทอง ในวิ่ง 200 ม. และ 400 ม. คลาส ที 11 ทำครั้งนี้คว้าไป 4 เหรียญทอง

       การแข่งขันกีฬาคนพิการ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 9  ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 60 เป็นการแข่งขันวันที่ 6 มีชิงชัยทั้งสิ้น 78 เหรียญทอง

      กรีฑา ชิง 26 ทอง ที่สนามบูกิต จาลีล สเตเดี้ยม ไฮไลต์อยู่ที่รายการ วิ่ง 200 ม. พิการทางสายตา คลาสที 11  เกวลิน วรรณฤมล ที่คว้าไปแล้ว 2 เหรียญทองและเป็นแชมป์รายการนี้เมื่อครั้งที่แล้วยังโชว์ฟอร์มแกร่งควบฝีเท้าพร้อมไกด์รันเนอร์คู่ใจเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรก ด้วยเวลา สถิติ 27.76 วินาที ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ ขณะเดียวยังวิ่งคว้าทอง 400 ม. ด้วยสถิติ 1.04.34 นาที ทำให้เจ้าตัวกวาดเหรียญรางวัลไปครองในครั้งนี้ถึง 4 เหรียญทอง

       “เกวลิน” กล่าวว่า หลังจากคว้าทองที่สองและมีการเจ็บสะโพกและหลัง แต่ก็พยายามลงแข่งเพราะอยากได้อีกหนึ่งเหรียญทอง เมื่อทำสำเร็จก็ดีใจมาก และหวังว่าจะต้องคว้าทองเอเชี่ยนพาราเกมส์ครั้งต่อไปให้ได้ 

         ขณะเดียวกัน ทีมนักกรีฑาไทย ยังได้เหรียญรางวัลเพิ่มมาได้อีก 6 เหรียญทอง จาก วิ่ง 200 ม.ชาย คลาส ที 1 ทรงวุธ ลำสัน สถิติ 22.90 วินาที, วิ่ง 5,000 ม.  คลาส ที 20 อุทัย จันทร์หนิ้ว สถิติ 17.08.23 นาที, ขว้างจักร ชาย เอฟ 11 พิชัย บุญศรี สถิติ 31.41 ม., วีลแชร์ 200 ม.ชาย คลาส ที52/53 พิเชษฐ์ กรุงเกตุ 27.85 วินาที, ขว้างจักร คลาส เอฟ 12 วสันต์ จันทร์ทิมาธร สถิติ  28.23 ม.,วีลแชร์เรซซิ่ง 400 ม.หญิง คลาสที 54 ภัทรธร ฉัตร์ยศกร  สถิติ  1.03.57 น.

     บอคเซียชิง 3 เหรียญทอง ที่มีเทค ฮอลล์ 8 โดยจอมโยนลูกนิ่มทีมชาติไทย กวาดมาได้ครบทั้ง 3 เหรียญ โดยประเภทบีซี 1 วิษณุ ฮวดประดิษฐ์ นักบอคเซียดีกรีเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ 2012  สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ เอาชนะ ชิน กิต เลิน จากมาเลเซีย ได้ในรอบชิงฯ ไปแบบขาดลอย 14-0 คะแนน ส่วนสุบิน ทิพย์มณี ได้เหรียญทองแดง ด้านประเภทบุคคขบีซี 2 บุญเทพ เพชรดี ดาวรุ่งทีมชาติไทย ได้เหรียญทอง โดยรอบชิงเอาชนะ ลี ชี ฮูง ของมาเลเซีย 8-1 คะแนน เหรียญทองแดง วรวุฒิ แสงอำภา ส่วนประเภทบุคคลบีซี 3  พงศธร พูนเกตุ ได้เหรียญทอง, เหรียญเงิน เอกรัตน์ แช่มช้อย, เหรียญทองแดง โต๊ะ เซนิง จากสิงคโปร์

 

     

    ฟุตบอล 5 คนความพิการทางสายตา รอบชิงชนะเลิศ ที่ ฮอกกี้ เนชั่นแนล สเตดี้ยม ระหว่าง ทีมชาติไทย รองแชมป์เก่า เสื้อขาว ดำ พบกับ ลาว โดยคู่นี้พบกันมาแล้วในการแข่งขันรอบแรกซึ่งไทยเอาชนะไป 4-1 เกมในครึ่งแรก ขุนพลโต๊ะเล็กทีมชาติไทย เป็นฝ่ายทำประตูออกนำไปก่อน 2-0 โดยได้ประตูจาก กิตติกร บัวดี และ ปัญญาวุฒิ คุพันธครึ่งหลัง ทีมชาติไทยยังคงทำได้ดีกว่า มาได้ประตูขึ้น 3-0 จากการยิงของ กิตติกร บัวดี จบเกมทีมชาติไทย เอาชนะ ลาวไป 3-0 คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ

      วอลเลย์บอลนั่ง ที่ มีเทค ฮอลล์ 10 รอบชิงเหรียญทองแดง ระหว่าง นักตบลูกยางทีมชาติไทยพบกับมาเลเซีย ปรากฎว่า เซตแรก นักตบลูกยางทีมชาติไทยอาศัยจังหวะการตบหัวเสาที่หนักหน่วง ตบเอาชนะไปก่อน 25-17 คะแนน ไทยขึ้นนำ 1-0 เซต ต่อมาอีก 2 เซต ทีมชาติไทยยังคงทำผลงานได้เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เอาชนะไปได้ จบเกม ไทยชนะ มาเลเซีย 3-0 (25-17, 25-12, 25-9) คว้าเหรียญทองแดงไปครองได้สำเร็จ

      วีลแชร์บาสเกตบอล ที่มีเทค ฮอลล์ 11 แข่งขันแบบพบกันหมด นัดสุดท้ายระหว่างทีมชาติไทย แชมป์5สมัย ขนผู้เล่นชุดใหญ่นำโดย ขวัญชัย พิมพ์กรณ์ และเอกสิทธิ์ จูมเจริญ 2 ผู้เล่นจ๋อมเก๋า พบกับ มาเลเซีย เจ้าภาพ โดยทั้งสองทีมชนะรวด ทีมละ 3 นัดเท่ากัน ดังนั้นเกมนี้จึงเป็นเกมตัดสินแชมป์ ปรากฎว่า 2 ควอเตอร์แรก ทีมแม่นห่วงไทยทำได้ดีกว่า ชู๊ตทำแต้มออกนำไป 38-22 คะแนน หลังจากนั้นแม่นห่วงเจ้าภาพเริ่มฮึดสู้ แต่ก็สู้ประสบการณ์ของทีมชาติไทยไม่ไหว จบ 4 ควอเตอร์ แม่นห่วงทีมชาติไทยเอาชนะไป 70-56 คะแนน คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 6 ได้สำเร็จ ส่วนคู่ชิงอันดับ 3 ฟิลิปปินส์ เอาชนะ เมียนมาร์ 49-41 คว้าเหรียญทองแดงไป

     ยิงธนู ชิง 2 ทอง ที่ซินเทติก เทิร์ฟ ฟิลด์ สนามกีฬาแห่งชาติมาเลเซีย ไฮไลต์อยู่ที่ ประเภทคันธนูโค้งกลับ ทีมผสม ที่มี  “อ๋อง” หาญฤชัย เนตรศิริ โรบินฮู้ดหนุ่มจอมเก๋าวัย 38 ปี ดีกรีเหรียญเงินพาราลิมปิกเกมส์ 2016 และเหรียญเงินชิงแชมป์โลก 2017 จับคู่กับ “น้อย” วาสนา คูทวีทรัพย์ โรบินฮู้ดสาวใหญ่วัย 41 ปี ดีกรีเหรียญเงินพาราลิมปิกเกมส์ 2004 ลงแข่งรอบชิงชนะเลิศ  พบกับ มูฮัมหมัด นูร์ฮาดี้ และวิโรนิก้า นินิค ยูม่า จากอินโดนีเซีย ปรากกฎว่า คู่หูโรบินฮู้ดทีมชาติไทย โชว์ได้สุดยอดแผลงศรได้อย่างแม่นยำเอาชนะ คู่ของมาเลเซีย 5-1 คะแนน ทำให้หาญฤชัย และวาสนา คว้าทองที่สองของทั้งคู่หลังจากคว้าไปแล้วในประเภทบุคคล

       ว่ายน้ำ ชิง 10 ทอง ที่เนชั่นแนล อควาติก เซนเตอร์ บูกิต จาลีล สเตเดี้ยม ทัพพาราไทยคว้าไปได้ในการชิงชัยวันสุดท้ายนี้ 1 เหรียญเงิน จาก ชาคร แก้วศรี รายการกรรเชียง 50 ม. ชาย คลาส เอส4 ทำเวลา 55.90 วิ. และอีก 1 เหรียญทองแดงจากผลัดผสม 4x100 ม. ชาย คลาส เอส14 ทำเวลา 5.18.01 น. 

     โบว์ลิ่ง ชิง 2 ทอง ที่ซันเวย์ ปิรามิด เปตาลิง จายา โดยทัพทอยแก่นไทยได้เหรียญทองแดงไปทั้ง 2 รายการ ในประเภททีมผสม คลาส ทีพีบี1+ทีพีบี2+ทีพีบี2+ทีพีบี3 ที่ประกอบด้วย บริพัตร จงวิวัฒนธรรม, ขาว ชาญเชี่ยว, วีรพล แสงวัง และ วีรศักดิ์ ตั้งพูลพันธุ์ ทำคะแนนรวมได้ 2,525 คะแนน ขณะที่คลาส ทีพีบี8+ทีพีบี9+ทีพีบี9+ทีพีบี10 ที่ประกอบด้วย ไสว ผาดผ่อง, ไรวินทร์ พิสิษฐ์ธนากุล, สมศักดิ์ รวมทรัพย์ และ สุพรรณ สินธุสุวรรณ์ ทำคะแนนรวมได้ 2,738 คะแนน

 

แบดมินตันชิง 13 เหรียญทอง ที่อะเซียต้า อารีน่า บูกิต จาลีล ประเภทวีลแชร์ชายเดี่ยว WH1 รอบชิงชนะเลิศ จักรินทร์ หอมหวล มือวางอันดับ 1 ของรายการ เอาชนะ มูฮัมหมัด อิควาน รามี่ จากมาเลเซีย 2-1 เกม 21-13,16-21และ 21-14 จักรรินทร์คว้าเหรียญทองไปครอง ในวีลแชร์หญิงเดี่ยวWH2 แข่งขันแบบพบกันหมด นัดสุดท้าย ระหว่าง อำนวย เวชวิฐาน มือวางอันดับ 1 ของโลก และแชมป์เก่า 3 สมัย ที่ชนะมา 3 นัดรวดพบ กับ สุจีรัตน์ ปลูกคำ มือวางอันดับ 4 ของโลก ที่ชนะมา 3 นัดรวดเช่นกัน ปรากฎว่า ทั้งคู่สู้กันอย่างสูสี สุดท้ายเป็น อำนวย เวชวิฐาน ที่ตบเอาชนะไป 2-1 เกม 19-21, 21-15 และ 21-10 คว้าเหรียญทองและเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ของเจ้าตัว

     ประเภทวีลแชร์ชายคู่  WH1 จักรินทร์ หอมหวล และ ดำเนิน จันทร์ทอง ค่มือวางอันดับ 1 ของรายการ พบกับ มูฮัมหมัด อิควาน รามี่ ที่จับคู่กับ ไซบอน มันสลาน จากมาเลเซีย ปรากฎว่า คู่ของไทย แพ้ ไป 0-2 เกม 20 -22,19-21 ได้แค่เหรียญเงิน

     ฟุตบอล 7 คน ประเภทความพิการทางสมอง ชิง 1 ทอง ที่ฟิลด์ ซี 2 เอ็นเอสซี แคแอล สปอร์ต ซิตี้  รอบชิงชนะเลิศ  ระหว่าง ขุนพลแข้งหนุ่มทีมชาติไทย ลงสนามดวลกับ “อิเหนา” อินโดนีเซีย ปรากฎว่า แข้งหนุ่มไทย ต้านแกร่ง อิเหนาไม่ไหว พ่ายไป 0-3 ได้แค่เหรียญเงิน 

    สำหรับการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งอาเซียน ครั้งที่ 9 “อาเซียน พาราเกมส์ 2017” ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จะมีพิธีปิดการแข่งขันขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ก.ย.60 ที่ สนามกีฬาแห่งชาติบูกิต จาลิล กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมี ดร.อาห์หมัด ซาฮิด ฮามีดิดาน รองนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศมาเลเซีย เป็นประธานในพิธี โดยขั้นตอนในพิธีนั้นจะเริ่มต้นที่การนำขบวนพาเหรดของคณะนักกีฬาทั้งหมด 11 ชาติ และอาสาสมัครของการแข่งขันครั้งนี้เดินพาเหรดเข้าสู่สนาม พร้อมด้วยการเปิดคลิปวิดีโอชุด “หัวใจแห่งพาราเกมส์” ซึ่งเจ้าภาพมาเลเซียจัดชุดการแสดงในชื่อชุด “ซามา ซามา” ที่สื่อถึงธีมของการแข่งขันครั้งนี้คือ ความเป็นหนึ่งเดียวกัน 

      ก่อนที่จะมีการจุดพลุดอกไม้ไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าตามด้วยพิธีส่งมอบธงประจำการแข่งขัน โดยมี นาซารุดิน นาซีมุดิน ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งมาเลเซีย ส่งมอบธงให้ ไครี่ จามารุดดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬาแห่งมาเลเซีย และส่งคืนให้กับ พล.ต.โอสถ ภาวิไล ประธานสหพันธ์กีฬาคนพิการแห่งอาเซียนก่อนส่งมอบธงประจำการแข่งขันต่อให้ มิเชล บาร์เรโด้ ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งฟิลิปปินส์ ร่วมด้วย อาร์โนลด์ อูกุสติน รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกีฬาแห่งฟิลิปปินส์ ซึ่งจะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 10 ในปี 2019 และปิดท้ายด้วยการแสดงของ ยูน่า นักร้องและนักแต่งเพลงซูเปอร์สตาร์ชื่อดังของมาเลเซีย