ยุ่งแล้วท่าน! "วิรัตน์" งัด "ตร.พาปูหนี" ผิด100 % เหตุ"ยิ่งลักษณ์" ถือเป็นผู้ต้องหาเต็มตัวแล้ว แถมฉะคนบิดเบือนหวังปั่นเรื่องให้สังคมสับสน

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

ยุ่งแล้วท่าน!! "เบอร์ 1 ด้านกฎหมาย ปชป.-วิรัตน์ กัลยาศิริ" ยัน "ตำรวจพาปูหนี" ผิดแน่ เหตุ ป.อาญา 189 ระบุชัด ผู้ใดช่วยผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดไม่ให้ต้องรับโทษ ถือว่ามีความผิด และ "ยิ่งลักษณ์" ถือเป็นผู้ต้องหาเต็มตัวแล้ว เหตุ ป.ป.ช.ชี้มูล อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง และศาลฎีกาฯ นักการเมืองรับคำฟ้อง แถมตั้งข้อสังเกต ที่อ้างแหล่งข่าวจากผู้พิพากษาบอกไม่ผิดนั้น ไม่น่าจะเป็นความจริง น่าจะเป็นการปล่อยข่าวให้เกิดความสับสน

 

วันนี้ (25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี 3 นายตำรวจมะเขือเทศ ที่โดน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง หิ้วตัวมาสอบจาก จ.นครปฐม กระทั่งยอมสารภาพว่า เป็นคนพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม และหลังจากนั้น ก็กลายเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมทันทีว่า 3 นายตำรวจคนดังกล่าวมีความผิดหรือไม่-อย่างไร กระทั่งล่าสุด สื่อหลายสำนักมีการนำเสนอว่า มีแหล่งข่าวจากศาลฯ ออกมาเปิดเผยว่า นายตำรวจทั้ง 3 คน อาจไม่มีความผิด เพราะพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปส่งยังชายแดนก่อนออกหมายจับในวันที่ 25 สิงหาคม และไม่มีใคร ระบุได้ว่า เธอหลบหนีออกนอกประเทศไปอย่างไร ขณะที่ทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ก็ระบุทำนองนี้ไว้ก่อนหน้าว่า ไม่ผิดเพราะเป็นการกระทำก่อนออกหมายจับ


ต่อกรณีความแคลงใจของสังคมกรณีนี้ ล่าสุด นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ และเป็นหัวหน้าคณะกฎหมายของพรรคฯ ได้ออกมาให้ความเห็นอย่างน่าสนใจว่า การที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับพันตำรวจเอก พันตำรวจโท มีข่าวโยงใยว่ามีส่วนร่วมในการพา น.ส. ยิ่งลักษณ์ ออกจากกรุงเทพฯ ไปส่งที่สถานีรถไฟอรัญประเทศ จ.สระแก้ว แล้วพูดกันว่าไม่ผิด เพราะเป็นการกระทำก่อนออกหมายจับ รวมทั้งการที่อ้างแหล่งข่าวจากผู้พิพากษานั้นไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะมาตรา 189 ของประมวลกฎหมายอาญา ระบุว่า ผู้ใดช่วยผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดไม่ให้ต้องรับโทษ ถือว่ามีความผิด ซึ่ง น.ส. ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด ป.ป.ช.ชี้มูล อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับคำฟ้อง ก็ถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้ต้องหากระทำความผิด อีกทั้งไม่ใช่ความผิดลหุโทษ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจต้องโทษจำคุก 5 ปีหรือ 7 ปี ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวว่าจะออกหมายจับหรือไม่ จึงเห็นว่าเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองปั่นเรื่องให้สังคมสับสน เพราะการพาหนีครั้งนี้เป็นการทำผิดแล้ว การอ้างว่ายังไม่มีการออกหมายจับเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะมีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4922/2539 ซึ่งเป็นคดีที่ตำรวจสั่งรถบรรทุกไม้ให้หยุด แต่ตำรวจอีกคนพาหนี ศาลฎีกาตัดสินว่ามีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 189 ในขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราววงเงิน 30 ล้านบาท มีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพาคนที่ศาลสั่งห้ามออกนอกประเทศและเป็นคนที่ศาลฎีกาฯกำลังจะอ่านคำพิพากษา ไม่ว่าอย่างไรก็มีความผิด

 

หัวหน้าคณะกฎหมาย ปชป. ระบุด้วยว่าา ไม่ทราบเจตจำนงของผู้ปล่อยข่าวให้เกิดความสับสน เพราะกรณีนี้มีความผิดอยู่แล้ว เนื่องจากมีคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นบรรทัดฐานตั้งแต่ปี 2539 จึงเห็นว่าถึงเวลาที่ต้องปฏิรูปตำรวจเอาคนดีมาเป็นผู้บริหาร โดยใช้ระบบคุม คือกระจายอำนาจให้ประชาชนมีส่วนเป็นกรรมการในระดับจังหวัด หรือภาคเกินกึ่งหนึ่ง และแยกตำรวจสอบสวนและปราบปรามออก ตั้งตำรวจอาวุโสอย่างน้อย 30 % เหมือนอัยการและผู้พิพากษา จัดให้มีตำรวจอาสา ตำรวจชุมชน ซึ่งจะมีตำรวจดี ๆ ขึ้นมาจะทำให้กระบวนการยุติธรรมต้นทาง นำความสุขมาให้ประชาชน ไม่เหมือนกับที่เกิดในขณะนี้ที่มีคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นบรรทัดฐานก็ยังไม่ฟัง


"สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามที่จะช่วยพวกเดียวกัน เพราะเป็นการแถลงข่าวที่ขัดแย้งกับคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ชัดเจนว่าเรื่องการออกหมายจับไม่เกี่ยว การพาผู้ต้องหาหนีถือว่ามีความผิดแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เป็นความพยายามตัดตอนและบิดเบือนอย่างน่ารังเกียจ ผู้มีอำนาจต้องสอบสวนให้ชัดเจน เพราะการที่พล.ต.อ.ศรีวราห์ ผู้รับผิดชอบคดีนี้ระบุว่าไม่มีความผิดขัดแย้งกับคำพิพากษาศาลฎีกา สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดมาตรา 157 โดยเรื่องนี้ทำให้เห็นว่ายังมีตำรวจสีเสื้อแดงอยู่จำนวนมาก" นายวิรัตน์ ให้ความเห็น


ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : แนวหน้าออนไลน์