ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

 .วันนี้ขอเสนอ"เคล็ดลับการบูชาวัตถุมงคลให้เกิดประสิทธิผล"... โดย อ.สิทธิชัย โหรบัณฑิต  สำนักตาขุนโหรญาโหร-แม่จันเทวี จ.พัทลุง

 

...กระผมมีความเชื่อว่าปัจจุบันคนไทยและคนในเอเชียส่วนใหญ่ไม่น้อยเลยที่ยังมีความเชื่อเรื่องวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง พระเครื่อง หรือ วัตถุต่างๆที่เกิดจากความเชื่อทางไสยเวทย์ ไสยศาสตร์ และมีไม่มากนักที่จะเข้าใจถึงวิธีการใช้ให้ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ผลที่ดีอย่างถาวร...

...ในยุคปัจจุบัน ยุคสมัยที่มนุษย์มีแนวคิด มีความคิดที่เจริญขึ้นไปในทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังมีรากเหง้าแห่งความเชื่อต่างๆที่สะสมและถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น จนถึงยุคปัจจุบัน ความเชื่อเหล่านั่นยังคงมีอยู่ไม่จางหาย โดยเฉพาะความเชื่อด้านวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง สำหรับไว้พกพาเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ตนเองเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต...แต่เชื่อหรือไม่ว่าในบรรดาคนที่เชื่อในเครื่องรางของขลัง หรือวัตถุมงคลต่างๆ ร้อยละ ๗๐-๘๐ ที่ยังไม่เข้าใจถึงวิธีการบูชาวัตถุมงคลให้ได้ผลและถูกต้องตามหลักของการบูชา

.สาเหตุหลักที่คนส่วนใหญ่บูชาวัตถุมงคลแล้วได้ผลไม่เต็มที่หรือบูชาแล้วไม่เกิดผล..

๑.วัตถุมงคลนั่นไม่มีพลังพอที่จะส่งผลต่อความเชื่อและความต้องการของเราได้(ของปลอม)

 

......**ยุคนี้เราจะพบกันมากมายกับวัตถุมงคลที่ปลอมแปลงขึ้นเพื่อหลอกขาย หลอกลวงความศรัทธาจากผู้คน ทำให้มีผู้คนไม่น้อยที่ได้วัตถุมงคลที่ไม่มีประสิทธิภาพไปใช้และนำผลเสียมาสู่ระบบความเชื่อทางไสยศาสตร์ว่าเป็นเรื่องงมงายเพราะใช้แล้วไม่ได้ผล ก็จะมาตัดปัญหาโดยการดูถูก เหยียดหยามต่างๆนานาต่อวัตถุมงคลนั่นๆและทำลายระบบความเชื่อไปเลยก็มี ซึ่งปัญหาด้านนี้ยากจะแก้ไข ต้องอาศัยความชำนาญในการเลือก ในการสรรหาวัตถุมงคลที่ดี ที่มีพลังมาใช้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติส่วนบุคคลของแต่ละคนในการเลือกสิ่งดีๆมาใช้ในชีวิต

 

๒.เรายังมีความเชื่อไม่เพียงพอที่จะให้เกิดพลังแห่งความศรัทธาและความเชื่อมั่นในวัตถุมงคล

ข้อนี้สำคัญมาก...เครื่องรางของขลังคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ดังนั่นการใช้เครื่องรางของขลังต้องเกิดจากใจก่อนเป็นอันดับแรก...ใจต้องมีความศรัทธาไม่ลังเล มีความเชื่อมั่นที่เต็มเปี่ยม เพราะศาสตร์ด้านนี้คือ ศาสตร์แห่งความเชื่อ..ถ้าไร้ซึ่งความเชื่อมั่น ความศรัทธาก็จะไม่เกิด พลังในวัตถุมงคลนั่นก็จะไม่ออกมาแสดงผลให้เราได้ประจัก ซึ่งคนยุคนี้มักมีความเชื่อตามผู้อื่นเป็นหลัก ตามกระแสเป็นหลัก ไม่ได้เกิดจากความเชื่อที่เกิดจากก้นบึ้งของหัวใจ แต่เชื่อเพราะเพื่อนแนะนำ เชื่อเพราะเขาว่าดี เขาว่าดัง และคนเหล่านี้มักเช่าวัตถุมงคลมาเพื่อลองดูว่าจะดีจริงไหม

จำไว้เลยว่าหากคิดเช่าวัตถุมงคลมาเพื่อ"ลองดูว่า ทดสอบว่า ลองใช้ดู ลองพกพาดู" เมื่อไหร่ยังมีคำว่า.."ลอง"..เมื่อนั่นถึงใช้ได้ผลก็ไม่มีทางได้ผลเต็มร้อย บางคนอาจไม่ได้ผลด้วยซ้ำ เพราะวัตถุมงคลถูกสร้างโดยการใช้กระแสจิต พลังแห่งจิต ถ้าจิตผู้ใช้ไม่ศรัทธาต่อวัตถุมงคล ก็เหมือนเราต่อสายไฟผิดขั้ว ถึงต่อติดแต่ก็ไม่เกิดผลใดๆ มีแต่จะเกิดผลเสียกับตัวเราอีก ดังนั่นการบูชาวัตถุมงคลที่ดีต้องมีความเชื่อมั่น ความศรัทธาที่เป็นแก่นหลัก ศรัทธาด้วยเหตุและผล ภายใต้กฎเกณฑ์ของวัตถุมงคลนั่นๆอย่างไม่งมงาย

 

๓.ใช้วัตถุมงคลโดยที่ใจยังมีกิเลสและผิดหลักการของวัตถุมงคลนั่นๆ

 

วัตถุมงคลโดยส่วนมากถูกสร้างขึ้นโดยการยึดหลักทางพระพุทธศาสนามาเป็นตัวกำหนด มาเป็นแก่นสาร มาเป็นแบบแผนหรือกุศโลบายแห่งธรรมะ ซึ่งมีไม่น้อยที่หลายคนนำไปใช้เพื่อสนองกิเลสของตน ตัณหาของตน และในจำนวนคนเหล่านี้มักจะใช้วัตถุมงคลไม่ได้ผล การจะทำให้วัตถุมงคลที่เรามีใช้ได้ผลนั่น เราต้องมีกระแสที่บริสุทธิ์ เพื่อสร้างศรัทธาที่บริสุทธิ์ให้บังเกิดกับวัตถุมงคลนั่นๆแล้ววัตถุมงคลนั่นจะสนองต่อตัวเราเอง แต่ถ้าจิตใจเรายังมืดดำ หาทางสว่างไม่พบ วัตถุมงคลนั่นก็ยังช่วยอะไรเราไม่ได้ และนอกจากนี้การไม่เข้าใจถึงวัตถุมงคลนั่นๆก็มีผลต่อการใช้ด้วยเช่นกัน

๔.ใช้วัตถุมงคลโดยมีความโลภ ความหวัง ความอยากเป็นที่ตั้งจนเกินขอบเขตที่วัตถุมงคลนั่นจะให้ได้

ในประเด็นนี้ก็มีมากในยุคปัจจุบัน เพราะเป็นยุคที่มนุษย์ส่วนมากมีความพึงปรารถนาอย่างไม่มีขีดจำกัด บางคนได้วัตถุมงคลมา ขอทุกอย่างที่ขวางหน้า ขอให้ได้โน้นได้นี้ ขอให้ถูกหวย ขอให้ถูกรางวัลที่ ๑ ขอให้ได้แฟนหล่อ แฟนสวย แฟนรวย ขอให้ได้ยอดขายเท่านั่นเท่านี้ ซึ่งบางอย่างเป็นเรื่องที่เกินขอบเขตของวัตถุมงคลที่จะส่งผลต่อเราได้ ซึ่งพอวัตถุมงคลนั่นไม่สามารถทำให้เราได้เราก็จะทอดทิ้งและสรรหาวัตถุมงคลตัวใหม่มาเพิ่มเติมตามกระแสนิยม ซึ่งบางคนมีวัตถุมงคลเต็มห้องก็มี แต่ก็มานั่งสงสัยว่าทำไมจึงใช้ไม่ได้ผล หลายคนจะโทษว่าวัตถุมงคลนั่น "ไม่ดีจริง ไม่ได้ผลจริง" น้อยคนนักที่จะย้อนกลับมาถามตัวเองว่า "หรือว่าเพราะเราต้องการสิ่งที่มากไป ต้องการเกินขอบเขต ความโลภเข้าบังตา ความศรัทธาก็หดหาย นำมาสู่ความเสื่อมศรัทธาในวัตถุมงคล อันจะทำให้ใช้อะไรก็ไม่ได้ผลเพราะวัตถุมงคลอยู่ได้เพราะแรงศรัทธา

 

๕.ความเสื่อมศรัทธาในวัตถุมงคลนั่น

ประเด็นนี้..ต่อยอดจากข้อที่ ๔ คือ คนเราเมื่อมีความต้องการที่มากไป ต้องการ อยาก หวัง ในสิ่งที่เกินขอบเขตพอไม่ได้ตามใจก็จะขาดความเชื่อมั่น และส่งผลให้ความศรัทธาต่อวะตถุมงคลนั่นน้อยลงทันที และจะเปิดโอกาสหาวัตถุมงคลชิ้นอื่นๆมาบูชาแทน แต่ก็จะเป็นแบบนี้เรื่อยๆเพราะเราจะเข้าไม่ถึงหลักของคำว่า ศรัทธาที่แท้จริง...ปาฎิหารย์จะบังเกิดเมื่อเรามีศรัทธาที่แท้จริง ไม่ใช่ศรัทธาเพราะใช้ได้ผลสมดังที่หวังไว้ ไม่ใช่ศรัทธาเพราะกระแสนิยม ไม่ใช่ศรัทธาเพราะเห็นโฆษณาแล้วน่าเชื่อถือ แต่ต้องศรัทธาเพราะเชื่อมั่นในบารมีคุณของวัตถุมงคลนั่นแม้ยังไม่บังเกิดผลใดๆก็ยังเชื่อมั่นและศรัทธาตลอดไม่เคยลดถอยลง..ถ้ามีความเชื่อมั่นและศรัทธาแบบนี้ผลที่ดีจะตามมาให้เห็นแก่ตัวเราเอง

 

๖.การไม่เข้าถึงความศรัทธาที่ถูกต้องแต่ได้ไปแค่ความงมงาย

 หลายคนมากที่สับสนระหว่างความศรัทธากับงมงาย และส่วนมากก็งมงายจนนำไปสู่ความศรัทธาที่ผิดๆ เช่น การบูชาวัตถุมงคลที่สร้างจากความงมงาย ไม่ได้สร้างตามตำรา ตามอุดมคติ ไม่ได้สร้างจากสิ่งที่ได้รับการศึกษามาจากครูบาอาจารย์ และปัจจุบันมีมากที่เชื่อในวัตถุมงคลที่สร้างจากความต้องการของกระแสสังคมและอาศัยวิธีการโฆษณาชวนเชื่อจนทำให้หลายคนเกิดความเชื่อแบบงมงาย ไม่มีหลักการ ไม่มีเหตุผล อันที่จริงแล้วการสร้างวัตถุมงคลทุกชนิด ทุกประเภทมีวิธีการ มีหลักการของการสร้างอยู่หลายประการให้เราได้เรียนรู้และศึกษา กระผมขอยกตัวอย่าง..วิธีการสร้างวัตถุมงคลแบบงมงาย มาพอสังเขปนะครับ...เช่นการสร้างวัตถุมงคลจากตัวการ์ตูน การสร้างวัตถุมงคลจากเทพนิยายงานประพันธ์ที่แต่งขึ้นใหม่ ไม่ใช่ตำนานความจริง การสร้างวัตถุมงคลที่ข้ามยุคสมัยจนเกินไป สิ่งเหล่านี้มีให้เห็นมากในยุคปัจจุบันและเป็นตังอันตรายที่ทำลายระบบความเชื่อของคนยุคใหม่ เพราะเมื่อใช้ไม่เกิดผลใดๆก็จะโทษว่า..ไสยศาสตร์ไม่มีอยู่จริง..ทำให้ปัจจุบันศาสตร์เหล่านี้เริ่มสูญหายและไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมมากนักนั่นเอง

 

๗.การไม่ศึกษาถึงวิธีการใช้ของวัตถุมงคลแต่ละอย่างให้ถ่องแท้ก่อนนำไปใช้

ประเด็นนี้ก็ถือว่าสำคัญมาก หลายคนใช้วัตถุมงคลไม่เป็น ใช้วัตถุมงคลไม่ตรงตามคุณลักษณะ ใช้วัตถุมงคลโดยไม่ศึกษาวิธีการใช้ให้ถูกต้องตามฝอยการใช้

หรือไม่สอบให้ละเอียดถึงวิธีการต่างๆ เพราะยุคโบราณวิธีการบูชาวัตถุมงคลมักเป็นข้อจำกัดสำคัญในการนำไปใช้..เช่น ตะกรุดคาดเอว บางชนิด ถ้าคาดด้านหน้ากรณีรบศึกสงคราม รูดมาคาดได้ด้านขวาเข้าหาท้าวพระยา รูดมาคาดไว้ด้านซ้ายเข้าหาคนรัก รูดไว้หลังป้องกันอาคมลมในต่างๆ วัตถุมงคลบางตัวใช้ห้อยคออย่างเดียว บางตัวห้อยคอได้คาดเอวได้ บางตัวใช้เวลาฉุกเฉินจึงได้ผล บางตัวใช้เหนือลม บางตัวใช้ทา บางตัวใช้อม บางตัวใช้กิน บางตัวต้องกลั่นหายใจขณะมีเหตุร้าย เราต้องศึกษาให้ละเอียดก่อนการนำไปใช้...เพื่อจะให้ได้เกิดผลอย่างเต็มที่...

 

สรุปแบบสั้นๆๆในเรื่องเคล็ดลับการใช้วัตถุมงคล

๑.เลือกวัตถุมงคลที่คิดว่า"ใช่" เลือกวัตถุมงคลที่มีการสร้างที่ถูกต้องเชื่อถือได้ โดยมีความศรัทธาเป็นหลัก

๒."หมั่นไหว้ หมั่นบูชา หมั่นภาวนา หมั่นขอ" การมีวัตถุมงคลติดตัว ต้องมีการไหว้ การบูชา การอาราธนา การภาวนา การขอ ให้บ่อยครั้ง การไหว้นี้คือการเคารพในพุทธคุณของวัตถุมงคล การบูชาคือการรำลึกถึงคุณครูบาอาจารย์ผู้สร้าง การภาวนาคือการว่าหรือภาวนาคาถาที่กำกับวัตถุมงคล จะกี่จบก็แล้วแต่ แต่ส่วนมากมักท่อง ๓ จบ ๕ จบ ๗ จบ ๙ จบ หรือตามกำลังวัน ถ้าไม่มีคาถากำกับก็ให้รำลึกถึงครูบาอาจารย์เอา การขอคือการขอเพื่อบอกกล่าววัตถุประสงค์ที่ต้องการ เช่น ขอให้ลูกเดินทางปลอดภัย ขอให้ลูกทำงานครั้งนี้สำเร็จผล ขอให้ลูกรอดพ้นจากภัยอันตราย การขอนี้ต้องขอในสิ่งที่เป็นไปได้และสมควรที่จะขอ โดยไม่โลภจนเกินไป บางคนถามว่าทำไมต้องขอ ทำไมต้องบอกกล่าว ทำไมต้องไหว้บ่อยครั้ง..การไหว้บ่อยครั้ง ขอบ่อยครั้ง เพราะแสดงให้เห็นถึงความศรัทธาและกำลังใจ พลังใจที่เรามีต่อวัตถุมงคลนั่นๆ จะยิ่งเพิ่มให้วัตถุมงคลนั่นมีพลังมากยิ่งขึ้น และไม่เสื่อมถอยไป เพราะบางคนห้อยพระ ไม่เคยไหว้ ไม่เคยอาราธนา ไม่เคยบอกกล่าว ถ้าเปรียบก็เหมือนรถที่จอดไว้นานๆไม่เคยสต๊าท ไม่เคยติดเครื่องยนต์ ถึงรถใหม่ก็ตาม ถ้าไม่เคยสต๊าทมันบ้าง ไม่แน่เวลาใช้งานจริงอาจใช้ไม่ได้ก็ได้..วัตถุมงคลก็เช่นกันต้องอย่าให้ขาดความศรัทธา ต้องมีอย่างเสมอและเท่าเทียมเสมอต้นเสมอปลายจึงจะได้ผลเต็มที่

๓.ใช้งานให้ตรงตามวิธีการใช้ ใช้ให้ตรงกับคุณลักษณะของวัตถุมงคล

๔.อย่าพยายามใช้วัตถุมงคลเพื่อการทดลอง ทดสอบ ลองดู ทดลองใช้ เพราะวัตถุมงคลคือสิ่งที่สร้างจากใจ สร้างจากความเชื่อ สร้างจากศรัทธา ถ้าใจไม่ศรัทธาตั้งแต่ต้น คิดนำมาลองดู คิดมาใช้ดู ก็จะไม่มีวันใช้ได้ผล เพราะวัตถุมงคล ไม่ใช่เครื่องยนต์หรืออุปกรณ์ใดๆที่จากขึ้นเพื่อบำบัดความต้องการของมนุษย์ แต่สร้างขึ้นเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ....ใช้ใจเท่านั่นจึงจะเห็นผลของวัตถุมงคลนั่นๆ

๕.พึงปฏิบัติตนตามศีล หรือดำรงตนให้อยู่ในศีลธรรมอันดีงาม เพราะของดีจะอยู่กับคนดีเสมอ...

๖.บูชาพระในบ้าน (พ่อ-แม่) ให้ดีก่อนแล้วจึงบูชาวัตถุมงคลให้ดีตาม ผลดีจะตามมาเอง

๗.ไม่โอ้อวดว่ามีของดีติดตัว เพราะของดีที่ว่าก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป ทุกอย่างเป็นอนิจจัง และแท้จริงแล้วคือ อนัตตาที่เราปรุงแต่งขึ้นมาให้มีตัวตน แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นจากสัจจะธรรมข้อนี้แล

....ดังนั่นมีวัตถุมงคลที่ดี ถ้ามีศีลที่ดีด้วย ดำรงตนเป็นคนดีด้วย สิ่งนี้แหละที่จะอยู่กับเราไปตราบนานเท่านาน และมั่นคงที่สุด...เพราะวัตถุมงคลแท้จริงแล้วคือ กุศโลบายแห่งธรรมะ ที่สร้างขึ้นเพื่อให้คนได้ นึกได้ ถือได้ คิดได้ ปฏิบัติได้นั่นเอง

 

อ.สิทธิชัย โหรบัณฑิต

สำนักตาขุนโหรญาโหร-แม่จันเทวี จ.พัทลุง

ศิษย์ฆราวาสสายเขาอ้อ จ.พัทลุง

((ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยครับ))

๒๒/๐๙/๒๕๖๐

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : อ.สิทธิชัย โหรบัณฑิต

สนใจอ่านสาระ ข้อมูลดี จาก อาจารย์สิทธิชัย โหรบัณฑิต เพิ่มเติมได้ที่ : อ.สิทธิชัย โหรบัณฑิต