ใกล้เข้ามาแล้ว!! การก่อสร้างพระเมรุมาศสิ่งปลูกสร้างประกอบในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง ร.๙ "คืบหน้าร้อยละ ๙๕" ตามแผนงานที่วางไว้ !!

                ความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุมาศสิ่งปลูกสร้างประกอบในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช โดยพลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เปิดเผยว่า ภาพรวมพระเมรุมาศ อาคารประกอบ คืบหน้าร้อยละ ๙๕-๙๖ ถือเป็นที่น่าพอใจของทุกฝ่ายและตามแผนงานที่วางไว้

           อย่างไรก็ตาม จะขยายเวลาการปูพรม ติดม่านไว้หลังวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ เนื่องจากจำเป็นต้องถนอมส่วนนี้ หลังติดตั้งแล้วจะนำพลาสติกมาหุ้ม ขณะที่หลังวันที่ ๓๐ กันยายน จะถอดนั่งร้านออก ยกเว้นส่วนของพระเมรุมาศที่ยังคงไว้ทั้ง ๔ ด้านในส่วนที่จำเป็น ทั้งนี้ความสมบูรณ์ต่างๆจะพร้อมในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบดินทรเทพยวรางกูร จะเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพระราชพิธียกนพปฎลมหาเศวตฉัตร

 

          ด้านพระเมรุมาศ ขณะนี้ได้ติดตั้งกรอบบานฉากบังเพลิงเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการปิดทองประดับกระจก เช่นเดียวกับการติดตั้งครุฑ ฉัตรเทพชุม นาคราวบันได สัตว์หิมพานต์ได้ดำเนินการแล้ว นอกจากนี้จะมีการนำต้นไม้ที่ประดับโดยรอบสระอโนดาตมาทดลองวาง ก่อนจะนำเก็บเพื่อถนอมไว้

 

          โดยรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงใกล้ถึงพระราชพิธีนี้ตัวเอง รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อธิบดีกรมศิลปากรและอดีตอธิบดีกรมศิลปากร จะเดินทางเข้ามาตรวจเยี่ยมความคืบหน้าบ่อยขึ้น เนื่องจากมาดูความประณีตของชิ้นงาน รวมถึงปรับส่วนต่างๆตามความเหมาะสม พร้อมทั้งขอบคุณจิตอาสา คณะผู้ปฏิบัติงานที่ช่วยกันทำให้งานครั้งนี้สำเร็จลุล่วงตามระยะเวลาที่กำหนด

           ภายหลังงานพระราชพิธีเสร็จสิ้นทุกอย่างจะยังคงความสมบูรณ์ต่อไปอีก ๑ เดือน เพื่อเปิดให้ประชาชนเข้าชมในส่วนต่างๆ ทั้งพระเมรุมาศ ขั้นตอน งานปั้นงานประติมากรรม รวมถึงการจัดแสดงมหรสพเพื่อให้ประชาชนชาวไทย ได้เห็นความงดงามและได้รับความรู้ในพระราชพิธีครั้งนี้ หลังจากนั้นจะถือว่าเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจของรัฐบาลในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : จส.100

                           http://news.sanook.com/3644154/