- 26 ก.ย. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
จากกรณีสำนักพระราชวังประกาศ เรื่อง การเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ความว่า “ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2559 นั้น
บัดนี้ สำนักพระราชวังจะดำเนินการจัดเตรียมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จึงขอเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ในวันที่ 30 กันยายน 2560 เป็นวันสุดท้าย จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน”
ทั้งนี้เฟซบุ๊กของผู้ที่ใช้ชื่อว่า Watcharaporn Soparin ได้โพสต์ข้อความโดยอ้างที่มาจาก ความเป็นมาของการจัดงาน 5 ธันวามหาราช'ฃ โดย จรินทร์ สวนแก้ว เพจตามรอยพ่อ ถึงวันเวลาที่เหลือในการเข้ากราบพระบรมศพ ซึ่งเสมือนเป็นการกราบลา พร้อมทั้งได้นำเรื่องราวเหตุการณ์วันถวายพระราชสมัญญา ภูมิพลมหาราช เมื่อ30ปีที่แล้ว มาเผยแพร่เอาไว้ด้วย ซึ่งเห็นว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจและประชาชนคนไทยน่าที่จะรับทราบร่วมกัน จึงขอนำมาเสนอต่อดังนี้
วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2560
เหลือเวลาอีก 30 วันก่อนกราบลา
เหตุการณ์วันถวายพระราชสมัญญา 'ภูมิพลมหาราช' ...ฟ้าคำรามเลื่อนลั่นธรณิน
ครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2530 ประชาชนชาวไทยพร้อมใจกันถวายพระราชสมัญญา 'ภูมิพลมหาราช' แด่พระองค์
ในวันประกาศถวายพระราชสมัญญานั้น เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่า เมื่อพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อ่านประกาศมาจนถึงข้อความที่ว่า...
"จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ประกาศความสมานฉันท์พร้อมเพรียงกัน เฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชสมัญญาเป็นมหาราช..." ฟ้าได้คำรามขึ้น และคำรามอยู่เช่นนั้นจนกระทั่งสิ้นคำประกาศที่ว่า..."ขอมหาราชเจ้าเผยแผ่พระบรมกฤษฎาเดชานุภาพคุ้มเกล้าคุ้มกระหม่อมเหล่าพสกนิกรตลอดจิรัฐติกาลเทอญ" ฝนก็ได้ตกลงมาทันที การณ์นี้เป็นที่ประจักษ์ทั่วกัน เพราะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจไปทั่วประเทศ
ทรงเป็นมหาราชองค์แรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่มีพระราชสมัญญาจากการลงมติของประชาชนชาวไทย
ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคยออกมาระบุว่า การใช้คำว่า มหาราช นั้นจะเป็นไปตามกฎหมายและวิธีดำเนินการของรัฐบาล รัฐบาลที่ผ่านมาเคยเสนอพระองค์ท่านไปแล้ว พระองค์ท่านทรงยังไม่เห็นชอบ ยังไม่โปรดเกล้าฯ ลงมา พระองค์ท่านรับสั่งว่าเป็นเรื่องของประชาชนและรัฐบาลที่จะทำต่อไป
“ตอนนี้ยังใช้ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่อยากใช้ แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าพระองค์ทรงรับทราบแล้ว เรื่องเป็นมหาราชหรือไม่เป็นมหาราชเป็นเรื่องของรัฐบาลและประชาชนจะต้องทำถวายพระองค์ท่าน ซึ่งรัฐบาลอยู่ในขั้นตอนตรงนี้อยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
สำหรับ มหาราช หรือในภาษาอังกฤษที่ใช้คำว่า The Great ถือเป็นสมัญญานามต่อท้ายพระนามของกษัตริย์ หรือผู้ปกครอง ที่ได้ทำภารกิจอย่างมากมายช่วยเหลือผู้คนทั้งด้านการรบ การแก้ไขปัญหาภายในประเทศ ตลอดจนการรักษาเอกราชของประเทศ รวมทั้งคงไว้ด้วยความยุติธรรมอันเป็นแบบอย่างที่ดี ซึ่งด้วยพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรอย่างต่อเนื่องยาวนาน ทำให้ประชาชนทั่วประเทศพร้อมใจกันยกย่องเทิดทูนให้พระองค์ทรงเป็น “มหาราช” ในใจของประชาชน แต่ตามขั้นตอนการเติม “มหาราช” ต่อท้ายพระนามนั้น ทางรัฐบาลกำลังดำเนินการจัดทำให้ถูกต้องตามกระบวนการ
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ในช่วงที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา ประชาชนชาวไทยพร้อมใจกันถวายพระราชสมัญญา “ภูมิพลมหาราช” โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ได้อ่านประกาศถวายพระราชสมัญญาตอนหนึ่งว่า
“จึงขอพระราชทาน พระบรมราชานุญาตประกาศความสมานฉันท์ พร้อมเพรียงกันเฉลิมพระเกียรติ และถวายพระราชสมัญญาเป็น มหาราช” และ “...ขอพระมหาราชเจ้าเผยแพร่พระบรมกฤษฎาเดชานุภาพ คุ้มเกล้า คุ้มกระหม่อม เหล่าพสกนิกร ตลอดจิรัฐิติกาล เทอญ”
นอกจากนี้ถือเป็นพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรี พระองค์ที่ 3 ที่ได้รับพระราชสมัญญา “มหาราช” แต่เป็นมหาราชองค์แรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ได้รับพระราชสมัญญาจากมติของปวงชนชาวไทย โดยในการสำรวจประชามติ เมื่อปี 2530 มีการผูกพระราชสมัญญาขึ้น 15 พระราชสมัญญา ประชาชนจำนวน 34 ล้านคน เลือกพระราชสมัญญา “สมเด็จพระภูมิพลมหาราช” ขณะที่ 6 ล้านคนเลือก “สมเด็จพระภัทรมหาราช”
“ภูมิพลมหาราช” มีความหมายว่า กษัตริย์ ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งทรงเป็นกำลังของแผ่นดิน
และ “ภัทรมหาราช” หมายความว่า กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นที่รักของปวงชน ซึ่งก่อนวันฉัตรมงคล 5 พ.ค. 2530 เคยมีความพยายามที่จะทูลเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา “มหาราช” แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาหลายครั้งแล้ว แต่เพิ่งจะเป็นผลเมื่อมีการสำรวจประชามติจนได้ฉันทามติจากประชาชน
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Watcharaporn Soparin