ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรตาดโตน รับแจ้งเหตุฆาตกรรมพระภายในวัดสุมังคลาราม ตำบลพังขว้าง อำเภอเมืองสกลนคร จึงไปตรวจสอบพบว่า หลวงปู่บู่ กิตติญาโณ อายุประมาณ ๙๐ ปี มรณภาพอยู่ภายในกุฏิในท่านั่งพิงฝาผนัง ที่ศีรษะมีบาดแผลคล้ายถูกตีด้วยของแข็ง คาดว่ามรณภาพมาประมาณ ๖-๗ ชั่วโมง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบรอบๆ ที่เกิดเหตุพบฆ้อนเปื้อนเลือดตกอยู่ คาดว่าเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ในการฆาตกรรม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

 

"ปู่หมดกรรมแล้ว ปู่ขอลาเด้อ" หลวงปู่บู่ ถูกฆาตกรรมในกุฏิ เข้าฝันลาศิษย์ เชื่อหลวงปู่อโหสิและหมดกรรม น้อมรับความตายเช่นพระโมคคัลลานะ

"ปู่หมดกรรมแล้ว ปู่ขอลาเด้อ" หลวงปู่บู่ ถูกฆาตกรรมในกุฏิ เข้าฝันลาศิษย์ เชื่อหลวงปู่อโหสิและหมดกรรม น้อมรับความตายเช่นพระโมคคัลลานะ

"ปู่หมดกรรมแล้ว ปู่ขอลาเด้อ" หลวงปู่บู่ ถูกฆาตกรรมในกุฏิ เข้าฝันลาศิษย์ เชื่อหลวงปู่อโหสิและหมดกรรม น้อมรับความตายเช่นพระโมคคัลลานะ

 

 

สำหรับหลวงปู่บู่ เกจิอาจารย์ชื่อดัง เป็นพระชาวลาวที่อพยพมาอยู่วัดนี้กว่า ๔๐ ปีแล้ว เป็นพระปฏิบัติ คล้ายกับหลวงปู่สรวง มีพุทธศาสนิกชนให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก มักนิยมนำเหรียญ และตะกรุด ที่หลวงปู่บู่ปลุกเสก ไปบูชาเป็นเครื่องรางของขลังตามความเชื่อในด้านโชคลาภ ค้าขายดี และ แคล้วคลาดปลอดภัย

 

ลูกศิษย์ของหลวงปู่เชื่อว่า หลวงปู่หมดกรรมเป็นแน่แท้ โดยหนึ่งในลูกศิษย์เล่าว่า หลวงปู่เข้าฝันมาบอกว่า " ปู่หมดกรรมแล้ว ปู่ขอลาเด้อหล่า..." ซึ่งใบหน้าของหลวงปู่บู่เอง แม้จะมรณภาพไปแล้ว แต่กลับดูสดใสและมีรอยยิ้ม

 

"ปู่หมดกรรมแล้ว ปู่ขอลาเด้อ" หลวงปู่บู่ ถูกฆาตกรรมในกุฏิ เข้าฝันลาศิษย์ เชื่อหลวงปู่อโหสิและหมดกรรม น้อมรับความตายเช่นพระโมคคัลลานะ

"ปู่หมดกรรมแล้ว ปู่ขอลาเด้อ" หลวงปู่บู่ ถูกฆาตกรรมในกุฏิ เข้าฝันลาศิษย์ เชื่อหลวงปู่อโหสิและหมดกรรม น้อมรับความตายเช่นพระโมคคัลลานะ

 

จากเหตุการณ์ดังกล่าว นั้นคล้ายกับกรณีของ พระโมคคัลลานะ  พระเถระในสมัยพุทธกาล ถึงแม้ท่านจะมีฤทธิอภิญญาที่เข้มขลังมาก ทว่าไม่มีใครหนีกรรมได้ เพราะกรรมหนักในอดีตชาตที่ส่งผลมา ซึ่งท้ายที่สุดพระโมคคัลลานะก็ยอมที่จะหยุดบ่วงกรรม อโหสิกรรมให้ และไปนิพพานในที่สุด

"ปู่หมดกรรมแล้ว ปู่ขอลาเด้อ" หลวงปู่บู่ ถูกฆาตกรรมในกุฏิ เข้าฝันลาศิษย์ เชื่อหลวงปู่อโหสิและหมดกรรม น้อมรับความตายเช่นพระโมคคัลลานะ

     นอกจากนี้ หลวงปู่บู่ ยังความคล้ายคลึงกับหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดินอีกด้วย ตามข้อมูลที่คนเฒ่าคนแก่ ได้เล่าให้ฟังในเรื่องประวัติของหลวงปู่บู่ได้บอกว่า  เป็นคนชาติลาวมาแต่กำเนิดได้มาอาศัยในแผ่นดินไทยเมื่อไหร่นั้นไม่ปรากฏ ชัดเจน  การอ่านเขียนหนังสือนั้นไม่ค่อยเก่ง  เพราะท่านมุ่งปฏิบัติดูจิตอย่างเดียว มีแต่คนเฒ่าคนแก่มีอายุ  ๗๐-๘๐ ปี ได้เล่าให้ฟังว่าเคยเห็นท่านเมื่อตอนหนุ่มๆ เป็นอยู่อย่างไรทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนี้ ไม่เห็นท่านแก่เลย ยังคงมีสุขภาพแข็งแรง ทุกวันนี้หน้าตาท่านสดใส มีประกายรัศมีเปล่งปลั่ง เมื่อมองดูใบหน้าก็บงบอกของผู้มีคุณธรรมสูงในจิต ที่รักษากายไม่ให้แก่ การออกบวชของหลวงปู่นั้นทราบจากพระครูสุวรรณสิริชัย เจ้าคณะพังขว้างเล่าว่า  ท่านออกบวช ๒  ครั้งแล้ว ครั้งแรกไม่ทราบ  ครั้งที่  ๒  บวชเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔  ถ้าจะไปถามเอาข้อมูลประวัติจากท่านไม่ได้อะไรดอก มีคนไปถามอายุหลวงปู่ ว่าหลวงปู่อายุกี่ปีแล้ว  บวช มากี่พรรษาแล้วท่านก็จะตอบเท่าไหร่ตามแต่ท่านจะตอบหรือไม่สนใจตอบไปเลยก็มี ก็เลยไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดเพราะหลวงปู่ท่านไม่ยึดติดกับอายุที่เป็นเพียง สมมุติตัวเลขท่านอยู่กับปัจจุบันดีกว่าดูๆไปท่านเหมือนหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน แห่งเมืองศรีสะเกษที่ไม่ทราบอายุเท่าไหร่กันแน่ ทุกวันนี้ท่านยังออกรับบิณฑบาตโยมทุกวันตามปกติ สุขภาพร่างกายแข็งแรงเดินจงกรมได้สะดวก และหลวงปู่ไม่คอยอาบน้ำ(สรง)เลย แต่แปลกที่ผิวพรรณของท่านยังเปล่งปลั่งอยู่เลย แสดงให้เห็นธรรมในจิตที่มีแต่ปิติสุข  รักษากายไม่ให้แก่ ไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไปชาวบ้านเหล่าว่าเวลาท่านจะอาบน้ำ(สรง)  ก็ต่อเมื่อฝนตกลงมาเท่านั้น  เมื่อ ใดฝนตกท่านจะเดินอาบน้ำจากธรรมชาติคนเดียวของท่านอย่างไม่สนใจใคร อีกอย่างหนึ่งโดยปกติหลวงปู่ท่านไม่ค่อยพูด อยู่เฉยๆ ที่กุฏิไม่ยุ่งวุ่นวายกับใครๆ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วฉะนั้นประวัติหรืออายุของหลวงปู่บู่ จึงไม่ทราบชัดได้ชาวบ้านบางคนก็ว่า  ๘๐  ปีบ้าง  ๙๐  ปีบ้าง  ๑๐๐  ปีบ้าง  ก็เลยไม่รู้จะเชื่อใครดี แม้ไปถามหลวงปู่ท่านก็ไม่บอก