โดนเข้าไปอีกดอก! "ราเมศ" จี้รัฐฯต้องซื่อตรงปม "ตร.พาปูหนี" เพราะความผิดเห็นกันอยู่ตรงหน้า เตือนรัฐบาลก่อนพังเพราะเล่นแง่ทางกม.-อย่าได้ซ้ำรอย

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 


โดนเข้าไปอีกดอก!! "ราเมศ" บี้รัฐฯ ต้องซื่อตรง และเร่งจัดการ "ตร.พาปูหนี" เพราะความผิดเห็นอยู่ตรงหน้า เมื่อ ตร.มีหน้าที่จับกุม แต่พาหนีก็ถือว่าละเว้น แถมพ่วงอีก 2 มาตรา เตือนรัฐบาลชุดก่อนพังเพราะบิดพลิ้ว ไม่ตรงไปตรงมาในการบังคับใช้กฎหมาย รัฐบาลชุดนี้เลือกได้ว่าจะเดินไปเส้นทางไหน จะได้ไม่ต้องซ้ำรอย แถมท้า ถ้าเห็นว่าไม่ผิด ก็ควรส่งเรื่องนี้ ให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัย

 

วันนี้ (26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกฯ และคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาข่าวถึงกรณีที่มีนายตำรวจพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีและมีการถกเถียงกันพอสมควรว่า มีความผิดหรือไม่นั้น

 

โดยนายราเมศ ระบุ ตนไม่อยากให้มองว่า พูดเรื่องนี้เพื่อให้ดำเนินการจัดการกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ที่้ต้องพูดเพื่อให้หลักการความถูกต้อง ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายบ้านเมืองดำรงคงอยู่ และเชื่อว่ากฎหมายบ้านเมืองที่มีอยู่มีความคลอบคลุมในทุกการกระทำของบุคคลในสังคม อยู่ที่เจ้าหน้าที่ภาคปฏิบัติว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ให้เกิดผลตามหลักการบ้านเมืองอย่างไร สำหรับกรณีกลุ่มบุคคล พาน.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนี มีความเห็นในหลักกฎหมายที่สำคัญ คือ 1. เจ้าหน้าที่ตำรวจที่พาหนี เป็นการกระทำที่ขัดต่อ มาตรา 117 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ มาตรา 117 กล่าวคือ เมื่อจำเลยหนี หรือจะหลบหนีให้ตำรวจที่พบการกระทำดังกล่าวมีอำนาจจับจำเลยนั้นได้ จะเห็นได้ว่าตำรวจเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการที่ต้องจับกุมเมื่อจำเลยจะหลบหนีเพราะเหตุที่มีหน้าที่ กฎหมายจึงให้อำนาจในการจับกุมตามมาตรา 117 จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจโดยตรง 2. เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดโดยตรง เมื่อไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ก็เป็นกรณีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา 3. เมื่อพิเคราะห์จากข้อเท็จจริงแล้วก็จะเห็นได้ว่า ตำรวจที่ได้ช่วยกันพานางสาวยิ่งลักษณ์ หนีย่อมมีความผิดตามมาตรา 157 เพราะเป็นพนักงาน มีหน้าที่โดยตรงตามที่กฎหมายมาตรา 117 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากำหนด ทราบดีว่านางสาวยิ่งลักษณ์เป็นจำเลย และทราบดีว่าจะหลบหนี เมื่อรู้เหตุการณ์ทุกอย่าง แต่ไม่ดำเนินการจับกุมย่อมเป็นความผิด

 

นอกจากนี้ นายราเมศ ยังระบุด้วยว่า ส่วนที่หลายฝ่ายได้ออกมาบอกว่า ไม่สามารถเอาผิดได้ คงไม่ถูกต้อง นี้คือความเห็นทางกฎหมาย และจากการปรึกษาหารือกับอดีตตุลาการท่านหนึ่ง ท่านก็มีความเห็นตรงกัน ดังนั้น ตนคิดว่าถ้าอยากพิสูจน์เรื่องนี้ก็ควรส่งเรื่องดังกล่าวนี้ ให้ศาลได้เป็นผู้วินิจฉัยรวมถึงมาตรา 189 ประมวลกฎหมายอาญาด้วยบ้านเมืองในรัฐบาลชุดที่ผ่านมาทำให้บ้านเมืองเกิดวิกฤติ เพราะการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ตรงไปตรงมา รัฐบาลนี้เลือกได้ว่าจะเดินไปเส้นทางไหน