อัศวินหลังโล่ !!! เปิดหมดเปลือก "commando" ใน 3 จว.ชายแดนใต้ แฉยุทธวิธีโจรชั่ว...เผยคำสารภาพสุดเหี้ยม "ฆ่าคนก็เหมือนฆ่าหมาตัวหนึ่ง" !

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ปะทุต่อเนื่องมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี เกิดความสูญเสียมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งประชาชน ทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ถูกส่งมาปกป้องคุ้มครองประชาชนและผืนแผ่นดิน ซึ่งเป็นความสูญเสียที่ยากทำใจยอมรับ และอีกกลุ่มคนที่เรียกได้ว่าต้องเป็นผู้แบกรับความเสี่ยงอันใหญ่หลวงก็คงไม่พ้นเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อาสา และอื่นๆอีกมากมาย ที่มีส่วนในการร่วมปกป้องผืนแผ่นดินปลายด้ามขวานของเรา

เจ้าหน้าที่หลายๆนายที่ถูกส่งมาจากภาคอื่นๆ หลายๆท่านอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับบ้านในตอนที่ยังมีลมหายใจ แต่ทุกๆนายก็ได้ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่สุดความสามารถ และในวันนี้ก็ได้นำคำบอกเล่าจากเจ้าหน้าที่ commando กองปราบปราม ที่ถูกส่งลงไปปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาเผยแพร่สู่ประชาชนให้ได้รับรู้ความเป็นจริงและเบื้องลึงเบื้องหลังในการปฏิบัติงานที่อยู่บนความเสี่ยง และผนวกกับความรู้สึกหดหู่ที่ได้รับฟังจากปากผู้ก่อการร้ายที่ควบคุมตัวมาได้ ถึงความรู้สึกที่มีในการฆ่าผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีทางสู้ ระบุว่า 

#หัวใจนี้เพื่อชาติ,,แดนไทย54 - สืบสวนคดีสำคัญ,,อัศวินหลังโล่ (#ตอนที่1)

,,,,,,,ปลายปี 2553 ทางหน่วยเหนือ ได้มีคำสั่งให้ commando กองปราบปราม กลับหน่วย ที่ กทม.ไปรับผิดชอบอาชญกรรมรุนแรงพื้นที่เมืองเช่นเดิม...ทาง ศชต. พยายามยื้อไว้ว่า ตอนนี้ยังไม่มีบุคลากรมาทำหน้าที่แทน comandoกองปราบปราม ขอเวลาอีกสักพัก แต่ท้ายที่สุดก็ต้องส่งกลับตามคำสั่งผู้ใหญ่ ....

เรามารู้จักกันก่อนว่า comando กองปราบปราม สังกัด กองบัญชาการสอบสวนกลาง หรือที่เรียกกันว่า ชป.โชคชัย มีหน้าที่อะไร ทำอะไรบ้างในพื้นที่ 3 จชต. ตั้งแต่ปี2547 ที่ไฟใต้ลุกโชน....หลังจากวันเสียงปืนแตก ทาง ผกร.ก็ได้ประกาศตัว ชัดเจน มีการก่อเหตุรุนแรงต่อเนื่อง เพื่อสร้างความหวาดกลัว ข่มขวัญเจ้าหน้าที่ ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม เผาวัด ตัดหัวพระ ฆ่าเด็ก เผาผู้หญิงทั้งเป็น โดยไม่เกรงกลัวต่อบาปและกฏหมาย (แอดมินเองเคยถาม ผกร. ที่เราคุมตัวมาได้ ถามมันว่า มึงฆ่าพระ ตัดหัวพระ เผาพระ คืนนั้น โดยที่พระไม่มีทางสู้ มึงไม่สงสารท่านหรอ มันตอบมาเพียงสั้น แค่รู้สึกเหมือนฆ่าหมาตัวอื่นๆในวัด)

ช่วงนั้น ผกร. เหิมเกริม มั่นใจในศักยภาพของตัวเอง ว่าเหนือกว่าตำรวจทหารในพื้นที่ ยุทธวิธี ที่พวกนี้นำมาใช้ จะใช้ตำราเดียวกับของแอลจีเรีย ที่รบกับฝรั่งเศสปลดปล่อยเอกราช แบ่งการทำงานหน้าที่กันชัดเจน ผมขอเรียกว่า ทฤษฏี ปิรามิด ก็แล้วกัน ก็คือ นาย ก. เป็นหัวหน้าในพื้นที่นี้ มีลูกน้อง 2คน คือนาย ข กับนาย ค ,,นาย ก. ก็จะให้นาย ข,ค ไปจัดตั้งสมาชิกมาคนละ 2คน  ก็คือนาย ฅ,ฆ,ง,จ ทั้ง4คนนี้ ก็จะรู้จักและเคยเห็นหน้าเฉพาะหัวหน้าของตน ก็คือนาย ข,ค แค่นั้น และจะขยายแบบนี้ไปเรื่อยๆเป็นฐานราก แต่คนที่อยู่บนขึ้นไปๆ พวกระดับปฏิบัติการจะไม่รู้จัก ทุกคนมีหน้าที่ของตนเองแค่นั้น วางระเบิด ยิงซ้ำ พาหนี ที่พักพิง เก็บอาวุธ คนในทีมเดียวที่ทำงาน พวกนี้แทบจะไม่รู้จักกันเลย แค่ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

เมื่อมั่นใจศักยภาพก็ไม่กลัว จนท. ตามประกบยิง จนท.แทบทุกวัน ทาง ศปก.ตร.สน ต้องร้องขอไปที่หน่วยเหนือ ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งเจ้าหน้าที่ ที่มีประสิทธิภาพ ขีดความสามารถการรบสูง ลงมาช่วยงานในพื้นที่ ทางหน่วยเหนือก็ได้ส่ง นเรศวร 261 สังกัดตำรวจพลร่ม commando กองปราบปรามก็เป็น1ในชุดที่ทางหน่วยเหนือส่งลงมาทำงานใน3 จชต. หน้าที่ที่ได้รับผิดชอบมอบหมายคือ เป็นทีมเข้าตีจู่โจมตรวจค้น บ้าน ผกร หรือการรบในสิ่งปลูกสร้าง cqb โดยขึ้นการบังคับบัญชากับ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศปก.ตร.สน ขณะนั้น ช่วยสนับสนุนงานสืบสวนคดีสำคัญ ทุกภาระกิจในการตรวจพิสูจน์ทราบเป้าหมาย เมื่อล๊อกเป้าหมายได้แล้วก็จะดำเนินตามขั้นตอนตามกฏหมายต่อไป 

เมื่อไม่มอบตัว ต่อสู้ ทีมcommandoจะมีหน้าที่เข้าทำลายเป้าหมายทันทีตามยุทธวิธี โดยการสั่งการของ พ.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ หัวหน้างานสืบสวนคดีสำคัญ (ยศ ขณะนั้น)และอีกหน้าที่สำคัญคือ เป็นครูฝึกยุทธวิธีการรบให้กับกำลังพล ในพื้นที่ ทั้งตำรวจและทหาร  ยุคนั้นเราต้องยอมรับว่าการรบในเมืองกับ ผกร เป็นเรื่องใหม่กับกำลังพล ตามนโยบายของ ผบช.ศปก.ตร.สน ขณะนั้น 

อัศวินม้าไม้

 

อ้างอิง อัศวินแห่งเทือกเขาบูโด knights of southern border