หรือคดีจะพลิก!!! ปั๊มแก๊ส-ช่างมาเอง แฉกลับ "แม่นักกีฬาทีมชาติ" บอกเลยเรื่องนี้ไม่ธรรมดา ด้านปลัดเทศบาลโต้สุดตัวไม่ได้ไถเงิน!!!(มีคลิป)

จากกรณีเมื่อ วันที่ 1 ต.ค. 60 นางสุนันท์ จารุไพโรจน์ มารดาของ น.ส.กมลวรรณ จารุไพโรจน์ นักกีฬาเพาะกายหญิงทีมชาติไทย พร้อมด้วยทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ได้นำหลักฐานนำมายื่นแจ้งความตำรวจกองปราบ เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐรายหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ หลังถูกข่มขู่เรียกรับเงิน 20 ล้านบาท และได้มีคลิปหลุดของ ขรก. ที่พยายามจะรีดไถเงินเพื่อนำไปผ่อนรถที่เคยได้ฟังไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

หรือคดีจะพลิก!!! ปั๊มแก๊ส-ช่างมาเอง แฉกลับ "แม่นักกีฬาทีมชาติ" บอกเลยเรื่องนี้ไม่ธรรมดา ด้านปลัดเทศบาลโต้สุดตัวไม่ได้ไถเงิน!!!(มีคลิป)

ล่าสุด วันที่ 3 ต.ค.60 นายจริญ เอี่ยมยัง ประธานสภาเทศบาลตำบลบางพลีน้อย  เจ้าของเสียงที่ปรากฎในคลิปเรียกรับเงินจำนวนหลักสิบล้าน ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผ่านรายการต่างคนต่างคิด Amarin TV  ว่า ตนเป็นเพื่อนสนิทกับ นางสุนันท์ เจ้าของอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว และทราบถึงปัญหาความขัดแย้งที่มีมานานแล้ว ระหว่างเจ้าของปั๊มแก๊สที่ร้องเรียนว่าอพาร์ตเมนต์ก่อสร้างผิดแบบ โดยทางทหารได้ให้ทางเทศบาลทำหนังสือเชิญทั้งเจ้าของปั้มแก๊ส และนางสุนันท์ มาหารือ ภายหลังจากการหารือเสร็จสิ้น นายจริญ พบว่า ตัวแทนทางปั้มแก๊สได้เดินลงบันไดเพื่อจะเดินทางกลับ และได้ยินทางตัวแทนปั้มพูดว่า “วันนี้ นึกว่ามาแล้วจะได้เงินสัก 10,000,000 – 20,000,000 บาท กลับไป” ซึ่งน่าจะเป็นการพูดที่ไม่มีเจตนาอะไร เหมือนเป็นการพูดเล่น และพูดลอยๆ แต่ตนดันได้ยิน

หรือคดีจะพลิก!!! ปั๊มแก๊ส-ช่างมาเอง แฉกลับ "แม่นักกีฬาทีมชาติ" บอกเลยเรื่องนี้ไม่ธรรมดา ด้านปลัดเทศบาลโต้สุดตัวไม่ได้ไถเงิน!!!(มีคลิป)

นายจริญ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตอนแรกที่ได้ปล่อยเรื่องดังกล่าวไป เพราะเห็นว่าเป็นแค่คำพูดผ่านหู แต่หลังจากนั้นได้คิดต่อว่าจะทำอย่างไรให้เรื่องดังกล่าวยุติ และคิดเองว่าถ้ามีการให้เงินกับฝั่งปั้มแก๊ส เพราะอาจจะมีหนทางยุติลงได้เพื่อจะได้ไม่มีการฟ้องร้องกันไปมา ซึ่งบทสนทนาในคลิป ตนคุยกับ นางสุนันท์ ไปเกือบปีแล้ว และยอมรับว่า รู้สึกเสียใจว่าทำไมการสื่อสาร และความหวังดีของตน

หรือคดีจะพลิก!!! ปั๊มแก๊ส-ช่างมาเอง แฉกลับ "แม่นักกีฬาทีมชาติ" บอกเลยเรื่องนี้ไม่ธรรมดา ด้านปลัดเทศบาลโต้สุดตัวไม่ได้ไถเงิน!!!(มีคลิป)

ส่วนทางด้าน นายอารีย์ เจษฎาจุฑารัตน์ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นญาติของเจ้าของปั๊ม LPG ได้เปิดเผยว่ากับผู้สื่อข่าว่า ตนยอมรับว่าเป็นคู่กรณีอีกคนหนึ่งของ นางสุนันท์ ภายหลังจากครอบครัว นำโดยพี่ชายของ คุณอารีย์ ตัดสินใจจะลงทุนเปิดปั๊มแก๊สบนที่ดิน 1 ไร่ ติดกับอพาร์ทเมนต์ของ นางสุนันท์ เมื่อปี พ.ศ. 2555 ซึ่งก่อนจะเริ่มกิจการยืนยันว่า ได้ทำหนังสือสอบถามไปที่ฝ่ายโยธาจังหวัด แล้วได้รับการตอบกลับว่า “ทำได้”

จากนั้นจึงตัดสินใจกู้เงินจากธนาคาร เพื่อเอามาลงทุนเปิดปั๊มแก๊ส แต่ปัญหาเกิดขึ้น เมื่อนางสุนันท์ เข้ามาคัดค้าน พร้อมกับทำเรื่องร้องเรียนไปยังฝ่ายพลังงานจังหวัด ไม่อนุญาตให้ทำการก่อสร้าง แล้วกระทบกับครอบครัวตนที่กู้เงินธนาคารมาลงทุน และต้องโดนผู้รับเหมาฟ้อง เพราะก่อสร้างตามสัญญาจ้างไม่ได้ นานกว่า 2 ปี และสูญเงินเป็นวงเงินหลักแสนบาท ที่สำคัญกิจการของครอบครัวที่เปิดโกดัง 2 จุด ถูกนางสุนันท์ ร้องเรียน จนต้องกู้ธนาคารมาปรับปรุงอีก 4,000,000 – 5,000,000 บาท ก่อนหน้านี้ นางสุนันท์ ยังมีการโพสต์ด่าครอบครัว คุณอารีย์ ด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ และนำชาวบ้านในพื้นที่มาปิดล้อมคัดค้านไม่ให้มีการสร้างปั๊มแก๊สในพื้นที่อีกด้วย

หรือคดีจะพลิก!!! ปั๊มแก๊ส-ช่างมาเอง แฉกลับ "แม่นักกีฬาทีมชาติ" บอกเลยเรื่องนี้ไม่ธรรมดา ด้านปลัดเทศบาลโต้สุดตัวไม่ได้ไถเงิน!!!(มีคลิป)

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา นางสุนันท์ ได้เสียภาษีไม่ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด คือ
เสียภาษีเพียง 79 ห้อง จากทั้งหมดของห้องพักที่มีเกือบ 150 ห้อง และการก่อสร้างตึกรูปแบบไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงเป็นไปไม่ได้ว่า นางสุนันท์ จะไม่ได้ใช้อำนาจส่วนตัวแทรกแซง การทำงานของเจ้าหน้าที่ และไม่รู้เห็นเรื่องการก่อสร้าง ตามที่เคยให้ข่าวมาก่อนหน้านี้ เพราะการลงทุนกว่า 80,000,000 บาท หากไม่ศึกษาข้อมูลมาก่อนคงไม่มีใครกล้าลงทุน และตนจะเดินหน้ายื่นเรื่องให้ตรวจสอบ นางสุนันท์ ต่อไป เพราะยังพบพฤติการณ์หลายอย่างที่แทรกแซงอำนาจรัฐ โดยเฉพาะการนำหนังสือร้องเรียนของตน มาเป็นหลักฐานยื่นฟ้องต่อศาล

หรือคดีจะพลิก!!! ปั๊มแก๊ส-ช่างมาเอง แฉกลับ "แม่นักกีฬาทีมชาติ" บอกเลยเรื่องนี้ไม่ธรรมดา ด้านปลัดเทศบาลโต้สุดตัวไม่ได้ไถเงิน!!!(มีคลิป)

และทางด้าน นายกันตพัฒน์ ทองคำ ช่างรับเหมาก่อสร้างอาคาร 1 และ 2 ของนางสุนันท์ ได้เปิดเผยข้อมูลว่า นางสุนันท์ จ้างตนให้ต่อเติมอาคารทั้งหมด นอกเหนือจากแบบแปลนที่ยื่นขออนุญาตก่อสร้าง เช่น แบบแปลนชั้นล่างจะปล่อยโล่ง มีแค่ 79 ห้อง แต่สั่งให้กั้นห้องเพิ่มเป็น 95 ห้อง สร้างระเบียง และบันไดที่สร้างไม่ตรงกับในแบบ แต่ตนเคยทักท้วงว่าการต่อเติมนี้ผิดแบบ แต่นางสุนันท์ยืนยันจะให้สร้าง โดยบอกว่าจะจัดการเอง

ตนได้รับการว่าจ้างให้ดำเนินงานประมาณปี พ.ศ.2550 ซึ่งเจ้าของอาคารได้ติดต่อกับตนโดยตรง เพราะก่อนหน้านี้เคยรู้จักกับ นางสุนันท์ มาก่อน เพราะพ่อเคยไปรับสร้างบ้านให้กับครอบครัวของ นางสุนันท์ จึงได้ตกลงว่าจ้างให้สร้างตึก 5 ชั้น จำนวน 2 หลัง มูลค่ารวม 31,000,000 บาท อาคารละ 15,500,000 บาท กำหนดเวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปีกว่า โดยแบ่งจ่ายเงินเป็น 6 งวด

หรือคดีจะพลิก!!! ปั๊มแก๊ส-ช่างมาเอง แฉกลับ "แม่นักกีฬาทีมชาติ" บอกเลยเรื่องนี้ไม่ธรรมดา ด้านปลัดเทศบาลโต้สุดตัวไม่ได้ไถเงิน!!!(มีคลิป)

นายกันตพัฒน์ บอกว่า ตอนที่ดำเนินการก่อสร้างนั้น แฟนของ นางสุนันท์ ได้เข้ามาคุมงานเองทุกวัน ส่วนนางสุนันท์จะเป็นคนสั่งการ และตัดสินใจทุกอย่าง ต้องตามใจทั้งหมด โดยนางสุนันท์ ยังบอกด้วยว่าก่อนจะสร้างอาคาร
ได้ศึกษามาหมดแล้ว ถึงมาเริ่มสร้างเพราะลงทุนเยอะ

สำหรับส่วนที่ต่อเติม นางสุนันท์ บอกด้วยว่า เสร็จงานแล้วจะจ่ายเงินให้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับเงินจำนวนนี้ รวมถึงค่าแรง 2 งวดสุดท้าย เพราะช่วงหลัง นางสุนันท์ ได้หาช่างมาทำแทนตน เมื่อสร้างตึกเสร็จก็อ้างว่าเงินหมด พร้อมอ้างว่าสั่งอุปกรณ์เอง หาคนงานเอง ดูแลเอง ไม่เหลือเงินจะจ่าย ซึ่งเงิน 2 งวดสุดท้าย รวม 7,000,000 บาท ทำให้ตนต้องขายบ้าน เพื่อนำเงินมาจ่ายลูกน้อง ประมาณ 40-50 ชีวิต

ทั้งนี้เงินที่ นางสุนันท์ ไม่จ่ายให้ตน จะถือว่าโกงหรือไม่นั้น นายกันตพัฒน์ บอกว่า เขารู้อยู่แก่ใจเขาเอง เขาทำกับคนอื่นไว้เยอะ ส่วนที่ไม่ได้ฟ้องร้องเอาเรื่อง เพราะหมดเนื้อหมดตัว ไม่มีเงินมาจ้างทนาย ตอนนี้ยอมรับว่าเข็ด และไม่ขอยุ่งเกี่ยวหรือร่วมงานกับ นางสุนันท์ อีกแล้ว ส่วนเรื่องอพาร์ตเมนต์ที่ถูกให้รื้อถอน คิดว่าอาจเป็นเพราะเวรกรรมตามทัน

หรือคดีจะพลิก!!! ปั๊มแก๊ส-ช่างมาเอง แฉกลับ "แม่นักกีฬาทีมชาติ" บอกเลยเรื่องนี้ไม่ธรรมดา ด้านปลัดเทศบาลโต้สุดตัวไม่ได้ไถเงิน!!!(มีคลิป)

ส่วนทางด้าน นายศรนิรันดร์ เกาไศยนันท์ ปลัดเทศบาลตำบลบางพลีน้อย ยอมรับว่าคลิปเสียงดังกล่าว เป็นของตน โดยตนรู้จักกับนางสุนันท์ในระดับหนึ่ง พร้อมกับรู้จักนับถือกัน ส่วนตัว มีการให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องตัวอาคารของนางสุนันท์ และการเสียภาษี ซึ่งตนจะเรียกนางสุนันท์ว่า “เจ๊”

โดยมีครั้งหนึ่งตนต้องการจะยืมเงินจำนวน 5,000 บาท พร้อมต้องการให้นางสุนันท์ เห็นใจ จึงได้เล่าเรื่องการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะ แต่ตนไม่มีเจตนาจะกระทำผิด เพราะตอนที่พูดไปไม่ได้คิดอะไร ส่วนตัวกลัวเหมือนกันถ้า นางสุนันท์ บันทึกเสียงแล้วร้องเรียนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่เจตนาของตนไม่ได้ทำผิด ซึ่งขั้นตอนตรงนี้พร้อมจะเข้าสู่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมยืนยันว่าการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะไม่มีจริง แต่ตนอุปโลกน์ขึ้นมา เพื่อให้ นางสุนันท์เห็นว่าตนมีเครดิต มีความน่าเชื่อถือ หวังให้ นางสุนันท์ เห็นใจ และยอมให้ยืมเงินเท่านั้น

ทั้งนี้ ตนอยากให้ นางสุนันท์ เข้าใจว่า ไม่ได้มีเจตนาไปข่มขู่ หรือกลั่นแกล้ง ซึ่งข้อมูลบางเรื่องตนสื่อกับ นางสุนันท์แบบกลางๆ ส่วนตอนแรกที่เข้าไปอ้างว่าไปเรียกเก็บเงิน 30,000 บาท ตรงนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดเพราะ เป็นการเข้าไปประเมินภาษีเท่านั้น และช่วงแรกตนไม่ใช่ผู้ประเมิน พร้อมยืนยันว่า หากตนกระทำผิด ทุจริตต่อหน้าที่ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตอนนี้พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ และหากตนพูดมากไปเหมือนการหาเหตุผลมาแก้ตัว

 

 

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34