ความเป็นธรรมต้องเกิด!! “นิพิฐ” รุกฟ้อง “ประสงค์-สำนักข่าวอิศรา” เผยแพร่เอกสารบิดเบือนปลูกปาล์มอินโดฯ ทำเสียหายถูกกล่าวหาทุจริต??

ติดตามต่อเนื่องจากกรณี ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำสั่งรับไต่สวนมูลฟ้องตามที่นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้บริหารปตท.และ PTTGE กล่าวหาว่าปลอมสัญญานายหน้าบริษัท กาลิมันตัน ซาวิท เลสตารี่ (KSL) ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2550 และวันที่  17 มกราคม 2551 แล้วใช้เอกสารปลอมดังกล่าวเอาไปกลั่นแกล้งแจ้งความเท็จต่อ ป.ป.ช. และนำไปเป็นพยานหลักฐานฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่งกับนายนิพิฐ แต่เพียงผู้เดียว นอกจากนี้ยังได้เอาเหตุดังกล่าวมาเลิกจ้างในที่สุด ทำให้ได้รับความเสียหาย  (คลิกอ่านข่าวประกอบ : เดินหน้าสู้ทวงความเป็นธรรม! “ศาลอาญาคดีทุจริตฯ”รับไต่สวนมูลคดี “นิพิฐ” ฟ้อง“ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” กับพวกกลั่นแกล้งแจ้งเท็จปปช.หาเหตุเลิกจ้าง! )  

 

ล่าสุดมีรายงานข่าวจากศาลแพ่งเปิดเผยว่า   นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตกรรมการผู้จัดการ ใหญ่ บริษัท ปตท.กรีน เอ็นเนอร์ยี จำกัด (PTTGE) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องมูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย (สำนักข่าวอิศรา) เป็นจำเลยที่ 1 นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ เป็นจำเลยที่ 2 เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.4383/2560 คำฟ้องระบุว่า...

 

ระหว่างวันที่ 7 สิงหาคม 2560 ถึงวันที่ 13 กันยายน 2560 โจทก์ได้ติดตามข่าวสารทางอินเตอร์ พบว่าสำนักข่าวอิศราได้เขียนและเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับโครงการปลูกปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซียต่อสาธารณะชน ผ่านเว็บไซต์ www.isranews.org มีลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริงในลักษณะชี้นำโดยมุ่งประสงค์ให้บุคคลที่อ่านข้อความข่าวนั้นหลงเชื่อว่ามีโจทก์เข้าไปมีส่วนรวมในการกระทำทุจริต โดยอ้างถึงเอกสารพยานหลักฐานที่ยังมิได้มีการพิสูจน์ว่าเป็นพยานหลักฐานที่แท้จริงหรือเป็นเอกสารเท็จมาเผยแพร่ และได้เผยแพร่ข้อความซึ่งมีลักษณะกล่าวหาว่าโจทก์ได้กระทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง

 

 

โดยนำรายงานซึ่งเป็นข้อมูลด้านเดียวของ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด ซึ่งบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ผู้เป็นคู่กรณีกับโจทก์ได้ว่าจ้างให้เข้ามาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการปลูกปาล์มน้ำมันที่อินโดนีเซีย

 

ทั้งนี้ การตรวจสอบดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากโครงการต่างๆ ได้ยุติไปแล้ว โดยหลังจากการตรวจสอบของ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด จึงได้ทำรายงานเสนอไปยังบริษัท ปตท. แต่ข้อเท็จจริงในรายงานดังกล่าว บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด ได้จำกัดสิทธิห้ามมิให้ บริษัท ปตท. นำไปใช้อ้างอิงหรือเปิดเผยต่อบุคคลที่สาม อีกทั้งยังสงวนไว้ซึ่งสิทธิที่จะไม่รับผิดชอบต่อความไม่ถูกต้องใดๆ ที่เกิดขึ้น โดยบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด กรรมการ พนักงาน และที่ปรึกษา และจะไม่ให้การยืนยันอย่างชัดเจนหรือให้การรับประกันใดๆ

 

 

ขณะที่ข้อเท็จจริงในรายงานนั้น และบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด กรรมการ พนักงาน และที่ปรึกษา จะไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ โดยข้อมูลที่ระบุในรายงานดังกล่าวมีทั้งที่ถูกต้องบางส่วน เป็นเท็จบางส่วน และยังไม่มีการพิสูจน์ถึงความถูกต้อง แต่จำเลยทั้งสองกลับนำรายงานดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อทำให้สาธารณชนเข้าใจว่าข้อเท็จจริงในรายการนั้นถูกต้องทั้งหมด ทั้งจำเลยทั้งสองยังเผยแพร่ซ้ำไปซ้ำมาต่อเนื่องกันต่างกรรมต่างวาระ เป็นระยะเวลาต่อเนื่องเป็นระยะเวลาถึง 2 เดือน โดยจำเลยทั้งสองไม่เคยสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวจากโจทก์เลย ซึ่งสาธารณชนที่ได้อ่านข่าวของจำเลยทั้งสองแล้วย่อมเชื่อว่า โจทก์บริหารโครงการปลูกปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซียไม่โปร่งใส มีส่วนร่วมในการทุจริต เอื้อประโยชน์หรือให้ประโยชน์แก่พวกพ้องในเงินค่าที่ปรึกษาหรือค่านายหน้า

การกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าว ยังเป็นการชี้นำศาลและสาธารณชน ละเมิดสิทธิในการต่อสู้คดีแพ่งทำให้โจทก์เสียเปรียบในการต่อสู้คดี เนื่องจากเรื่องดังกล่าวยังเป็นประเด็นสำคัญในคดีที่อยู่ระหว่างการสืบสวนของคณะกรรมการป้องกันการทุริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พ.1751/2558, คดีหมายเลขดำที่ อท.138/2560, อท.337/2560 และ อท.409/2560 คดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

 

 

โดยกรณนี้โจทก์ได้ฟ้องอดีตผู้บริหาร บริษัท ปตท. และผู้บริหาร บริษัท พีทีที กรีนเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ในข้อหาหรือฐานความผิด แจ้งความเท็จ ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในเรื่องสัญญานายหน้าหรือค่าคอมมิชชั่น เนื่องจากมีการปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมใส่ร้ายโจทก์ ซึ่งศาลได้รับคดีไว้แล้วอยู่ในระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง ดังนั้นการออกข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงของจำเลยทั้งสอง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย.