“พยัคฆ์ติดปีก”.....หลังบินพบทรัมป์  ประยุทธ์ปลดล็อคพันธะ “ต่างชาติบอยคอต เพื่อนไม่คบ” ผู้นำไทยในรอบ 12 ปี เยือนทำเนียบขาว นำความภูมิใจสู่ไทย

“พยัคฆ์ติดปีก”.....หลังบินพบทรัมป์ ประยุทธ์ปลดล็อคพันธะ “ต่างชาติบอยคอต เพื่อนไม่คบ” ผู้นำไทยในรอบ 12 ปี เยือนทำเนียบขาว นำความภูมิใจสู่ไทย

ก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ถูกฝ่ายค้านฝ่ายตรงข้ามกระแหนะกระแหนดูแคลนมาตลอดว่าเป็นผู้นำรัฐบาล “เพื่อนไม่คบ”  เพราะได้อำนาจมาจาก “วิธีพิเศษ”   เพราะเอารถถังเอากำลังทหารออกมาปฏิวัติยึดอำนาจมาจากรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯคนที่ 28   3 ปี 5 เดือนเศษหลังการนำคณะนายทหารตัดสินใจรัฐประหารเข้าควบคุมอำนาจจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557  

พล.อ.ประยุทธ์ถูกโจมตีถูกตราหน้ามาตลอดว่าทำให้ประเทศตกต่ำถอยหลังเข้าคลอง เพราะเลือกที่จะใช้วิธีแก้ไขปัญหาผ่าทางตัน “วิกฤติที่สุด” ของประเทศด้วยการปฏิวัตินำประเทศไปสู่การเหยียดหยามว่าล้าหลัง  ถือเป็นความบอบช้ำในจิตใจที่กดดันพล.อ.ประยุทธ์มาตลอด  และเจ้าตัวมักพูดทุกครั้งทุกเวทีที่มีโอกาส “ เพราะประเทศมันเดินหน้า มันไปต่อไม่ได้ ผมเลยจำเป็นต้องปฏิวัติ ทั้งๆที่ความจริงไม่อยากทำ ไม่อยากเสี่ยงติดคุก ถ้าไม่สำเร็จหมายถึงกบฏ มีอันตรายต่อชีวิต  แต่ถ้าผม ถ้าทหารไม่ทำอะไรตอนนั้น ประเทศไทยของเราก็เดินต่อไม่ได้” 

 

 

3 ปีเศษที่พล.อ.ประยุทธ์ก้มหน้าก้มตาทำงาน ใครจะบ่นจะด่าอะไรก็ไม่สนใจ อาจจะมีตอบโต้บ้างก็เป็นเรื่องธรรมดาของความหงุดหงิดที่แบกรับความกดดันมหาศาลไว้บ่นบา แต่หลังจากการเดินทางไปเยือนสหรัฐฯในรอบนี้ ระหว่างวันที่ 1-5 ตุลาคม 2560  แถมยังมีวันประวัติศาสตร์ที่ได้เข้าพบปะหารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานนาธิบดีสหรัฐฯ ผู้นำมหาอำนาจหมายเลข 1 ของโลก ที่มาพร้อม นางเมลาเนีย ทรัมป์  สุภาพสตรีหมายเลข 1

หนำซ้ำการเดินทางไปคราวนี้ ทางนายโดนัล ทรัมป์ ยังสั่งจัดพิธีต้อนรับผู้นำไทยแบบสมเกียรติสมฐานะไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องเทียบเท่าผู้นำยักษ์ใหญ่ประเทศอื่นๆ   เรียกภาษาวัยรุ่นสมัยนี้ก็ต้องบอกว่า “ชุดใหญ่ไฟกระพริบ”  หนำซ้ำระหว่างเจอกันผู้นำสหรัฐฯก็แสดงความเป็นกันเองกับพล.อ.ประยุทธ์ผู้นำไทยแบบสุดๆ ทั้งการเปิดห้องรูปไข่อันทรงเกียรติให้

 

พล.อ.ประยุทธ์และนางนราพร จันทร์โอชา  ภริยาได้นั่งคุยอย่างเป็นกันเองถึง 40 นาที  การพาเดินชมบรรยากาศในห้องทำงาน และเยี่ยมชมความใหญ่โตอลังการโดยรอบของทำเนียบขาวอันทรงพลังอำนาจ ด้วยท่าทีชื่นมื่นเป็นกันเอง  แม้ใครจะปรามาสจะย้อนแย้งว่านายโดนัล ทรัมป์ ก็ทำแบบนี้กับแขกบ้านแขกเมืองผู้นำประเทศทุกคนที่มาเยือนสหรัฐฯอย่าวเป็นทางการตามคำเชิญของประธานาธิบดี 

แต่งานนี้ขอเถียงเลยว่าไม่ทุกคนแน่นอนที่จะได้รับโอกาสพิเศษอันทรงเกียรติเหยียบทำเนียบขาวแบบนี้  อดีตต้องย้อนหลังไปถึง 12 ปี ครั้งสุดท้ายคือปีพ.ศ. 2548 หรือค.ศ.2005 ที่ผู้นำไทยถูกเชิญไปเหยียบทำเนียบขาวในยุคนายทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นนายกฯ 2 สมัย 5 ปีเศษ  จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นพล.อ.ประยุทธ์ผู้นำไทยคนที่ 29 ที่เป็นนายกฯไมยคนแรกหลังผ่านความวุ่นวายทางการเมืองสิบกว่าปีเศษที่ได้ไปเยือนทำเนียบขาวตามคำเชิญของประธานาธิบดีสหรัฐฯ  ในแบบที่นายโดนัล ทรัมป์เป็นคนยกหูโทรมาหาพล.อ.ประยุทธ์เองเลย  

อย่าลืมว่าพล.อ.ประยุทธ์นอกจากจะเป็นนายกฯปัจจุบันยังสวมหมวกอีกใบเป็นหัวหน้าคสช.เป็นผู้นำคณะปฏิวัติ การได้รับเกียรติจากผู้นำประเทศประชาธิปไตยโลกเปิดบ้านเปิดห้องทำงานต้อนรับแบบฉันท์มิตรแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องธรรมดา  ไม่ว่าวันนี้ใครจะเกลียดพลงอ.ประยุทธ์จะไม่ชอบขี้หน้าผู้นำคนนี้ยังไง

 แต่ต้องยอมรับว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯไม่กี่คนที่นำชื่อเสียงนำความภาคภูมิใจในการเดินทางเยือนสหรัฐฯความนี้มาให้กับไทยอย่างเป็นรูปธรรมจริงๆ ในแบบที่นายกฯซึ่งมาจากการเลือกตั้งหลายคน อย่างนายอภิสิทธิ์หรือน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่อาจทำได้  ชนิดที่กองเชียร์ตาร้อนอิจฉากันสุดๆ  เพราะน้อยครั้งน้อยคนจริงๆ ที่นายกฯไทยจะได้เข้าไปเหยียบไปสัมผัสมือกับผู้นำมหาอำนาจโลกในทำเนียบขาวได้แบบนี้ 

แม้จะต้องจ่ายค่าผ่านประตูสู่ทำเนียบขาวด้วยการอุดหนุนซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ทั้งเฮลิคอปเตอร์แบบคอบร้า ทั้งจรวด ฯลฯ หรือการให้เอกชนไปลงทุนสร้างคอมเพล็กซ์ด้านพลังงานในรัฐโอไฮโอ หรือ การซื้อถ่านหินราว 1.55 แสนตันจากเอกชนสหรัฐฯ  แต่พูดอย่างเป็นธรรมแฟร์ๆ ทั้งหมดก็เป็นโครงการที่กองทัพและเอกชนมีความตั้งใจที่จะจัดซื้อจะลงทุนอยู่แล้ว  ไม่ได้ตั้งใจไปซื้อตอนไปคราวนี้เพื่อเอาใจสหรัฐฯ  

เพียงแต่นำโครงการเก่าและโครงการในอนาคตที่จะดำเนินการไป “เคาะ” สรุปจบให้เห็นภาพการซื้อขายทำธุรกิจระหว่างกันในคราวนี้  อย่าลืมว่าสหรัฐฯขาดดุลการค้าไทยมาตลอดปีละหลายแสนล้าน  การไปอุดหนุนซื้อของจากเพื่อนที่เป็นมิตรประเทศอย่างสหรัฐฯบ้างก็เป็นเรื่องไม่แปลก  เพราะนานาชาติก็ทำกันแบบนี้และเรื่องการเมืองระหว่างประเทศทุกอย่างต้องมี “ต้นทุน” เสมอ 

 

“พยัคฆ์ติดปีก”.....หลังบินพบทรัมป์  ประยุทธ์ปลดล็อคพันธะ “ต่างชาติบอยคอต เพื่อนไม่คบ” ผู้นำไทยในรอบ 12 ปี เยือนทำเนียบขาว นำความภูมิใจสู่ไทย

“พยัคฆ์ติดปีก”.....หลังบินพบทรัมป์  ประยุทธ์ปลดล็อคพันธะ “ต่างชาติบอยคอต เพื่อนไม่คบ” ผู้นำไทยในรอบ 12 ปี เยือนทำเนียบขาว นำความภูมิใจสู่ไทย

“พยัคฆ์ติดปีก”.....หลังบินพบทรัมป์  ประยุทธ์ปลดล็อคพันธะ “ต่างชาติบอยคอต เพื่อนไม่คบ” ผู้นำไทยในรอบ 12 ปี เยือนทำเนียบขาว นำความภูมิใจสู่ไทย

อย่าได้แปลกใจหากการกลับจากสหรัฐฯมาถึงไทยในคราวนี้  ที่พล.อ.ประยุทธ์และคณะจะกลับถึงเมืองไทยค่ำนี้ราว 21.55 น. ท่าทีหลังจากนี้พล.อ.ประยุทธ์จะแปรสภาพปะหนึ่ง..... “พยัคฆ์ติดปีก”  เพราะไปรอบนี้ได้ปลดพันธะ ความกดดันนานาสารพัดทุกอย่างออกจากตัว มหาอำนาจยอมรับ สร้างความภูมิใจให้คนไทย สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ  

ใครจะมาค่อนแคะยังไงจากนี้ไปก็คงลำบากพูดจาถากถางได้ไม่เต็มคำ ประคองตัวดีๆ ถวายงานพระราชพิธีประวัติศาสตร์แห่งแผ่นดินที่จะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ให้สำเร็จลุล่วงสมพระเกียรติสู่สายตาชาวโลก  งานนี้มีหวังพล.อ.ประยุทธ์มีสิทธิ์อยู่ยาว