สัญญาณใหม่ เลือกตั้ง 62 “บิ๊กตู่” พูดเอง "วิษณุ – พรเพชร" รับลูกเนียนๆ

ไม่ทราบว่าเป็นเพราะแรงกดดันหรือต้องการแสดงเจตนาความชัดเจนให้ผู้นำระดับโลกเห็นหรืออย่างไร ทำให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องให้คำมั่นกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ว่าไทยจะประกาศเลือกตั้งได้ในปีหน้า หรือปี 2561 ที่จะถึงนี้

แต่หากมองลึกลงไปก็จะเห็น ว่านั้นเป็นเทคนิคการสื่อสารขั้นเทพ ที่ไม่รู้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะคิดทันหรือไม่ เพราะการบอกว่าจะประกาศเลือกตั้งปีหน้านั้น ไม่ได้หมายความว่า ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งในปีหน้า แต่หมายความว่าเราจะประกาศในปีหน้า ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ ซึ่งอาจจะเป็นปี 2561 หรือ 2561 ก็เป็นได้
 

 

ในโอกาสเยือนสหรัฐฯนี้ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะยังได้มีโอกาสพบปะนักธุรกิจชาวไทยและในชุมชนไทยในสหรัฐฯ และด้วยความสบายใจและปราบปลื้มใจในไมตรีของทรัมป์ พล.อ.ประยุทธ์ จึงได้แจ้งโรดแมปการเลือกตั้งอีกครั้งต่อชาวไทยในสหรัฐฯ ซึ่งถือว่ามีนัยยะสำคัญอย่างยิ่ง เพราะสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดนั้นทำให้เข้าใจไปว่าในปี 2561 จะยังไม่มีการเลือกตั้ง 

“บิ๊กตู่”  บอกว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้น โดยนับไปอีก 150 วันหลัง กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ทั้ง 10 ฉบับแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งหากเป็นเช่นที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดจริง ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งในเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน 2562

ทั้งที่ หากนับโรดแมปตามจริงของรัฐธรรมนูญ ประเทศไทยจะเลือกตั้งได้ในปีเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งปฏิทินการเลือกตั้งมีไทม์ไลน์ ดังนี้

1.กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เขียนกฎหมายลูก 10 ฉบับ ให้เสร็จใน 240 วัน หรือ 8 เดือน โดยมีกำหนดวันสุดท้ายประมาณวันที่ 4 ธันวาคมนี้ 
2.สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณากฎหมายลูกเสร็จภายใน 60 วัน หรือ 2 เดือน คือประมาณวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561
3.สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่งกฎหมายลูกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ และ กรธ.ได้พิจารณา ซึ่งหากเห็นว่าต้องปรับปรุงแก้ไข จะต้องแจ้งต่อ สนช.ภายใน 10 วัน ต่อมาตั้งกรรมการขึ้นมาปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน รวม 25 วัน หรือเสร็จประมาณ 1 มีนาคม 2561
4.นำความขึ้นทูลเกล้าฯ และรอโปรดเกล้าฯ ไม่เกิน 90 วันหรือ 3 เดือน (ซึ่งจะอาจจะโปรดเกล้าฯในช่วงใดก็ได้) หรือประมาณ 1 มิถุนายน 2561 
5.จากนั้นให้จัดการเลือกตั้งได้ภายใน 150 วันหรือ 5 เดือน หรือประมาณวันที่ 1 พฤศจิกายน  2561

แม้จะพยายามเข้าใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งรับผิดชอบงานหลายด้าน จึงอาจไม่แม่นในเรื่องตารางเวลา การพูดออกไปอาจไม่ตรงกับโรดแมปจริงนัก แต่กระนั้นนักกฎหมายของรัฐบาลก็ไม่ได้ให้ความกระจ่างไปมากกว่านั้น เพราะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี อธิบายเพียงว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นในปลายปี 2561 แล้วได้รัฐบาลใหม่ในช่วงต้นปี 2562 

กระนั้นการเลือกตั้งก็อาจไม่ใช่ปลายปี 2561 ก็ได้ หากมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลจะใช้เวลาพิจารณานานเพียงใดนั้น ไม่มีข้อกำหนด 

เช่นเดียวกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)  ที่บอกว่า “ผมต้องเร่งในส่วนของผม ยกตัวอย่าง พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต. ไม่รู้ว่า กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญไปหรือยัง ได้แต่หวังว่ากฎหมายเราทำดีไปแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญคงไม่วินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ ถ้าวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ จะทำอย่างไร หรือผมดูกฎหมายไม่ดี แต่มันมีปัจจัยและถ้ามันเกิดขึ้นอย่างนี้ แล้วจะทำอย่างไร”

 

นี้คือสัญญาณใหม่ที่จะทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปอีก เริ่มจาก พล.อ.ประยุทธ์ เกริ่น เป็นการเปิดทาง แล้วตบด้วยนักกฎหมาย ซึ่งไม่ค่อยจะอิงตามกฏหมายอย่างนายพรเพชร และนายวิษณุ ยังไม่รวมถึงท่าทีจาก 'พี่ใหญ่' อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ไม่เคยแสดงความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง 

แต่แค่นี้สัญญาณเลือกตั้งปี 2562 ก็ดูจะเป็นจริงขึ้นทุกขณะแล้ว