- 06 ต.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 6 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ร้านเสรีอ๊าร์ต เลขที่ 150/4 ถ.สถานี ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง นายธีระ จริงจิตร หรือโกแก่ อายุ 66 ปี เจ้าของร้านเสรีอ๊าร์ต ซึ่งเปิดร้านถ่ายภาพมากว่า 66 ปี ได้นำภาพประวัติศาสตร์ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จประพาส ณ อำเภอเมืองตรัง เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2560 ซึ่งสถานที่ประทับดังกล่าวปัจจุบันคือศาลจังหวัดตรัง เป็นภาพที่มีอายุถึง 58 ปี ซึ่งเป็นภาพที่นายเสรี จริงจิตร ซึ่งเป็นพ่อของนายธีระหรือโกแก่ ได้เข้าไปบันทึกภาพ ซึ่งในสมัยนั้น ยังไม่มีผู้สื่อข่าว แต่อย่างใด แต่ในจังหวัดตรัง จะมีร้านถ่ายภาพ จำนวนแค่ไม่กี่ร้านและช่างภาพแค่ไม่กี่คน เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จ ประพาส ช่างภาพ ต่างขอเข้าร่วม เพื่อที่จะฉายพระรูปของพระองค์ ไว้เพื่อเก็บไว้เป็นประวัติศาสตร์ ซึ่งในปัจจุบันนับหาดูได้ยากแล้ว และนายธีระหรือโกแก่ก็ได้เคยฉายพระรูปในหลวงรัชกาลที่9 เมื่อปีพ.ศ.2515 ซึ่งเป็นภาพเสด็จพระราชดำเนินมาที่จังหวัดตรัง ครั้งที่ 4 วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2515 ผ่านท่าอากาศยานตรัง เปิดค่ายศรีนครินทรา กองกำกับการตำรวจชายแดนเขต 8 อำเภอทุ่งสงจังหวัดนครศรีธรรมราช และปฏิบัติพระราชกรณียกิจในจังหวัดใกล้เคียงวันพุธที่ 27 กันยายน 2515 เสด็จพระราชดำเนินกลับและยังคงเก็บรักษาภาพเก่าไว้เป็นอย่างดีอีกด้วย
นอกจากนี้นายธีระหรือโกแก่(รุ่นลูก) ยังเก็บบัตรประจำตัวของนายเสรี จริงจิตร ผู้เป็นพ่อที่ได้เคยรับอนุญาตให้เข้าในเขตพระราชฐาน ซึ่งหน้าบัตร มีรูปถ่ายของนายเสรี จริงจิตร บิดาของนายธีระหรือโกแก่ และด้านล่างมีข้อความว่า อนุญาตให้เข้าในเขตพระราชฐาน ชั้นนอก ในวันที่ 15 มีนาคม 2502 ตั้งแต่เวลา เวลา ๑๗.๐๐ถึง ๒๒.๐๐ ส่วนด้านหลังบัตร ข้อความว่า อนุญาตให้(๑) นายเสรี จริงจิตร ตำแหน่ง (๒) พ่อค้า เข้าในเขตพระราชฐานชั้นนอก เพื่อร่วมรับประทานอาหารค่ำได้ ศาลากลางจังหวัดตรัง ออกให้ ณ วันที่....มีนาคม 2502 นายพันตำรวจเอก บุญณรงค์ วัฑฒนายน ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในสมัยนั้น ซึ่งสภาพของบัตรยังคงอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยชำรุดแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าตอนนี้นายเสรี จริงจิตร บิดาของตนเองจะเสียชีวิตไป 35 ปีแล้วก็ตาม แต่ในปัจจุบันนายธีระหรือโกแก่ก็ยังเก็บรักษาภาพประวัติศาสตร์เก่าแก่เกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งทั้งตนเองและบิดาได้เคยร่วมบันทึกภาพในสมัยนั้น ยังคงมีเก็บไว้จำนวนหลายภาพและเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี และจะตั้งโชว์หน้าร้านเมื่อเปิดร้านเสมอ แสดงให้เห็นว่าครั้งหนึ่งในชีวิต ได้สร้างความภูมิใจอันยิ่งใหญ่ให้กับพ่อและตนเองช่างเป็นผลงานที่ดีที่สุดที่เกิดจากฝีมือของตนเอง และไม่สามารถจะค้นหาภาพเก่าๆเหล่านี้ได้จากที่ไหนอีก จะเก็บไว้สู่รุ่นต่อรุ่นต่อไปเพื่อได้เล่าเรื่องราวได้ว่าตนเองและครอบครัวเกิดในรัชกาลที่9 และได้เคยเข้าไปฉายพระรูปในหลวงรัชกาลที่9 เมื่อพระองค์ท่านเสด็จมากี่ครั้งก็จะตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เข้าไปทำการบันทึกภาพ แม้ในเดือนตุลาคมนี้จะเป็นเดือนที่ประชาชนคนไทยทั่วทุกสารทิศจะหลั่งไหลไปด้วยน้ำตา แต่ตนเองจะยึดหลักความเพียงพอของในหลวงรัชกาลที่ 9 สู่รุ่นลูกรุ่นหลานตลอดไป
ด้านนายธีระ จริงจิตร หรือโกแก่ กล่าวว่า รูปนี้ที่ตนได้นำมาใส่กรอบเป็นรูปประวัติศาสตร์เมืองตรัง เมื่อตอนที่ตัวเองอายุได้ 7 ขวบ ตนยังเด็กอยู่ไม่ค่อยรู้เรื่อง และตนได้เข้าไปนั่งรับเสด็จด้วย ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จมาที่ตรังตรงที่บริเวณ หน้าศาลากลางเก่า ซึ่งในตอนนั้นมีชาวบ้านมารอรับเสด็จอยู่เต็ม ซึ่งจะมีอีกภาพเป็นภาพที่อยู่ด้านล่าง ก็จะเห็นว่ามีประชาชนมารอรับเสด็จอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งตอนนั้น นายเสรี จริงจิตร ผู้เป็นพ่อได้ฉายพระรูปพระองค์ท่านไว้ทุกภาพ และตอนนั้นตนเองก็ได้ไปกับพ่อด้วย แต่ไปนั่งรับเสด็จเฉยๆ และนายเสรีได้เคยถวายรูปที่เป็นรูปเมืองตรังอีกด้วย ในสมัยนั้นในจังหวัดตรังยังไม่มีผู้สื่อข่าว และมีร้านถ่ายภาพช่างภาพแค่ไม่กี่คน แต่เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จมาช่างภาพต่างขอ เข้าไปเพื่อฉายพระรูป หากไม่ขออนุญาตก็จะไม่ได้ถ่ายภาพ และพ่อของตนก็ได้เข้าไปฉายพระรูปพระองค์ท่าน และตนเองก็ยัง เก็บบัตร ที่นายเสรีพ่อของตนได้เคยเข้าร่วมรับประทานอาหารในเขตพระราชฐานไว้อีกด้วย หากตนไม่ได้เก็บไว้ ตนก็ไม่สามารถเล่าสู่รุ่นต่อรุ่นได้ ส่วนรูปที่ตนประทับใจมากที่สุดก็คือรูปเมื่อปี 2515 ได้ไปฉายพระรูปเพื่อรับเสด็จที่สนามบินตรัง ซึ่งตนก็มีความตื่นเต้น เพราะตอนนั้นตนเป็นหนุ่ม จะฉายพระรูปสักทีก็ต้องคำนับก่อน ฉายพระรูปเสร็จก็ต้องคำนับ และจะต้องอยู่ในเขตบริเวณที่เขากำหนดไว้ให้เท่านั้น ซึ่งในตอนนั้นอาจจะมีความอึดอัดบ้าง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเขายืนประกบคนต่อคน และมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ฝนตก ชาวบ้านที่นั่งรอรับเสด็จ น้ำก็เริ่มขัง เต็ม มหาดเล็กบอก ในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่าห้ามเสด็จ แต่พระองค์ท่านไม่สนใจเลย เดินไปแม้ขาจะเปียกหมด ขากางเกงเปียกหมดเลย และพระองค์ท่านได้เข้าไปนั่งคุกเข่ากับชาวบ้านด้วย ซึ่งท่านจะไม่ถือพระองค์เลยว่ายังไง ก็เข้าไปนั่งคุยกับชาวบ้าน และตนยังกล่าวอีกว่าในตอนนั้นตนรู้สึกขนลุก เพราะว่าตนเป็นช่างภาพต่างจังหวัด ได้ประสบมาก็เกือบ 10 ครั้ง ได้เคยฉายพระรูปในหลวงรัชกาลที่ 9 และปัจจุบันก็ยังเก็บพระบรมฉายาลักษณ์ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไว้เป็นอย่างดี
ส่วนภาพที่ตนประทับใจที่สุดก็จะเป็นรูปเมื่อปีพ.ศ. 2515 เนื่องจากรูปนี้เป็นรูปที่มีนายเสรี ผู้เป็นพ่อยืนรอรับเสด็จอยู่ด้วย ซึ่งตนกับพ่อจะถ่ายกันคนละมุม รูปนี้นับหาดูได้ยาก ในร้านเสรีอ๊าร์ตตนจะเก็บรักษาไว้เอง และในตอนนั้นกล้องที่ใช้ถ่ายรูปก็จะมีประมาณ 3 กล้อง ทั้งกล้องไลก้า ฟิล์ม 126 กล้อง 35 ในช่วงที่กล้องในสมัยนั้นก็แพงและในปัจจุบันก็แทบจะไม่มีให้เห็นเช่นกัน และยังมีรูปที่พระองค์ได้เสด็จมายกช่อฟ้าที่วัดตันตยาภิรม อีกด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ตนก็จะไปร่วมบันทึกภาพ พิธีถวายดอกไม้จันทน์พระเมรุมาศจำลองที่ลานทุ่งแจ้ง เพราะหากไปกรุงเทพคงไม่มีสิทธิ์เข้าไปถ่ายรูปแน่นอน และคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ตนจำขึ้นใจมาตลอดเรื่องความเพียงพอตนก็นำไปใช้สอนต่อรุ่นลูกรุ่นหลานตลอด ส่วนเรื่องการถ่ายภาพนั้นตนได้มาจากพ่อและประสบการณ์ของตน
ภาพ/ข่าว สุนิภา หนองตรุด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ตรัง