โค้งสุดท้าย"เต็นท์หมายเลข๙...!"หลวงปู่พุทธะฯ"ฝากถึงญาติโยม ร่วมน้อมส่งเสด็จองค์พ่อหลวง มีหลายสิ่งต้องขอ ดูแลผู้คนกว่า๕แสนมาทุ่งพระเมรุ!?!

วันสุดท้ายของการเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ภายในพระบรมมหาราชวัง เสร็จสิ้นลงเมื่อเวลาประมาณ 02.40 น. ของวันที่ 6 ตุลาคม ยอดรวม 337 วัน กว่า 12 ล้านคน

เฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ได้โพสต์ข้อความชวนชาวจิตอาสา ขอรับบริจาค วัตถุดิบ อุปกรณ์ เงินตรา เพื่อนำมาจัดซื้อของจำเป็น เพื่อภารกิจในการประกอบอาหารเลี้ยงแขกของพระเจ้าอยู่หัว โดยระบุข้อความรายละเอียดดังนี้ "

 

 

 

 

 

เต็นท์หมายเลข ๙ ของพวกเรา จักร่วมกันน้อมส่งเสด็จพระองค์ท่านสู่สวรรคาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
๘ ตุลาคม ๒๕๖๐

 

 

 

ภารกิจในการประกอบอาหารเลี้ยงแขกของพระเจ้าอยู่หัว เดินทางมาโค้งสุดท้ายแล้วเต็นท์หมายเลข ๙ ของพวกเรา จักต้องรับภาระและช่วยแบ่งเบาภาระของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ ในการประกอบอาหารเลี้ยงบรรดาแขกของพระองค์ให้ได้มากเท่ามาก โดยเฉพาะเต็นท์หมายเลข ๙ ได้รับเกียรติให้อยู่ในพื้นที่ทุ่งพระเมรุชั้นด้านบริเวณป้อมมหากาฬ และอาคารของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ใกล้กับโรงแรมรัตนโกสินทร์ ที่ต้องรับภาระในการประกอบอาหารเลี้ยงประชาชน ที่พยายามเดินทางเข้ามาปักหลักพักค้าง ให้ได้ใกล้ที่ตั้งพระเมรุมาศให้ได้มากที่สุด ซึ่งพื้นที่โดยรอบทุ่งพระเมรุชั้นใน

 

 

ทางภาครัฐได้คาดการณ์ไว้ว่า บริเวณที่ทุ่งพระเมรุชั้นในจะต้องเนืองแน่น คร่าค่ำไปด้วยคลื่นมหาชน ที่พากันหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานถวายพระเพลิงครั้งนี้ เฉพาะในพื้นที่ชั้นใน คงไม่ต่ำกว่า ๕ แสนคนขึ้นไปที่เต็นท์หมายเลข ๙ และเต็นท์อาหารพระราชทานของพระเจ้าอยู่หัว จักต้องรับผิดชอบประกอบอาหารเลี้ยงแขกของพ่อเหล่านี้โดยไม่ให้ขาดแคลน ทั้งข้าวทั้งน้ำเมื่อเต็นท์หมายเลข ๙ ของพวกเราได้รับเกียรติถึงปานนี้ชาวเราทั้งหลายจึงควรอย่างยิ่งที่จะสนองงานให้สมกับที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัยจนสุดความสามารถงานนี้เป็นงานที่พุทธะอิสระทำคนเดียวไม่ได้ หากไม่มีลูกหลานจิตอาสาชาวครอบครัวธรรมอิสระ และพี่น้องผู้ร่วมอุดมการณ์รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทุกคน ให้การสนับสนุน ทั้งทางกาย ทางใจ และวัตถุดิบ อุปกรณ์ เงินตรา เพื่อนำมาจัดซื้อของจำเป็นที่ต้องใช้ และสิ่งของที่ยังขาดอยู่ก็คือ

 

 

 

ซีอิ๊วขาว ๕๐ แกลลอนใหญ่
น้ำจิ้มไก่ ๕๐ แกลลอนใหญ่
ซอสหอยนางรม ๕๐ แกลลอนใหญ่
เต้าเจี้ยว ๕๐ แกลลอนใหญ่
ซอสมะเขือเทศ ๑๐๐ แกลลอนใหญ่
ซอสพริก ๑๐๐ แกลลอนใหญ่

 

เส้นหมี่ขาว ๕๐๐ ถุงใหญ่
เส้นบะหมี่เหลือง ๕๐๐ ถุงใหญ่
ซีอิ๊วดำขวดพลาสติกขนาด ๑ ลิตร ๒๐๐ ขวด
ซอสปรุงรสขนาด ๑ ลิตร ๑๐๐ ขวด
ผงปรุงรส ๑๐ ลังใหญ่
น้ำพริกเผา กระป๋องใหญ่ ๕๐ กระป๋อง
น้ำตาลทรายขาว ๑ ตัน

ขิงแก่ ๒๐๐ กิโลกรัม
หอมแดง ๒๐๐ กิโลกรม
กระเทียม ๕๐๐ กิโลกรัม
พริกขี้หนู ๑๐๐ กิโลกรัม
เกลือป่น ๑๐๐ กิโลกรัม

 

 

กระทงใส่อาหาร (ที่เป็นกระดาษห่อข้าวมันไก่มาพับเป็นกระทง) ๓ แสนใบ
ถ้วยกระดาษขนาด ๓๙๐ ซีซี ๓ แสนถ้วย
ช้อนพลาสติก ๖ แสนคัน
ส้อมพลาสติก ๖ แสนคัน

เห็ดหอมแห้ง ๑๐๐ กิโลกรัม
เห็ดหูหนูแห้ง ๑๐๐ กิโลกรัม
วุ้นเส้น ๕๐๐ กิโลกรัม

นี่ยังไม่นับรวมถึง ผักสด เนื้อสด ซึ่งก็มี

 

ผักคะน้า ๒ ตัน
ผักกะหล่ำ ๒ ตัน
ต้นหอม ๒ ตัน
ผักชี ใบคึ่นช่าย อย่างละ ๕๐ กิโลกรัม
ข่า ใบมะกรูด ลูกมะกรูด อย่างละ ๕๐ กิโลกรัม
หอมหัวใหญ่ ๕๐๐ กิโลกรัม
มันเทศหรือมันฝรั่ง ๑ ตัน

รวมทั้งเนื้อไก่ เนื้อหมู ปลา อาหารทะเล รวมแล้วไม่ต่ำกว่า ๑๐ ตันของเหล่านี้ ต้องนำเข้าไปเก็บไว้ในเต็นท์หมายเลข ๙ ก่อนวันที่ ๒๐ ตุลาคมยกเว้นเนื้อสัตว์ ต้องนำแช่แข็งเอาไว้ในเต็นท์ภายในวันที่ ๒๔ ตุลาคม เหตุเพราะฝ่ายความมั่นคงจะทำการปิดถนนโดยรอบบริเวณปริมณฑลท้องสนามหลวง ตั้งแต่วันที่ ๒๕ ตุลาคม จนถึงเสร็จสิ้นงานถวายพระเพลิงฉะนั้นอุปกรณ์และวัตถุดิบทุกอย่าง เราต้องทยอยนำเข้าพื้นที่ไปตั้งแต่เวลานี้ เพื่อเตรียมความพร้อม

 

จึงบอกกล่าวมายังบรรดาจิตอาสาทุกท่านที่ปรารถนาจักมีส่วนร่วมในงานอันเป็นมิ่งมหามงคลอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ใครพอจะมีกำลังช่วยกันอย่างไรได้ ก็ขอเชิญช่วยกันตามกำลัง ตามอัธยาศัย แต่อย่าถึงกับต้องทำให้ตนเองเดือดร้อน วันศุกร์ที่ ๑๓ นี้พวกเราจักไปพร้อมกันที่ป้อมพระกาฬ เพื่อสวดมาติกาบังสุกุล ถวายสังฆทานพระสงฆ์ ๑๐ รูป น้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พ่อหลวงผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เนื่องในโอกาสที่ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย ครบ ๑ ปี

 

จึงเรียนเชิญลูกไทยหลานไทยทุกคน มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดี น้อมถวายความดีเป็นพระราชกุศล ในเวลาบ่ายโมงตรงอีกทั้งถือโอกาสประชุมบรรดาจิตอาสาทุกท่านที่ลงชื่อสมัครไว้ เพื่อแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ ให้ทุกคนได้เข้าใจ

 

อย่าลืมนะจ๊ะ พบกันวันที่ ๑๓ ตุลาคม ณ ป้อมพระกาฬ เวลาบ่ายโมงตรง

พุทธะอิสระ