AQ กลับมาแล้ว!! ต.ล.ท.ไฟเขียวลุยซื้อขายวันนี้ (9 ต.ค.) หลังเคลียร์ทุกปมแบงก์กรุงไทย โบรคเกอร์ชี้สัญญาณดีลุยนิคมรับ EEC !?!

มาชัดจัดเต็มสำหรับหุ้นร้อนแรงอย่าง  AQ หรือ บริษัทเอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) ภายหลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  ประกาศรับหุ้นจดทะเบียนบริษัทเอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) (AQ) จำนวน 72,640 ล้านหุ้น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง  มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา   ท่ามกลางการเฝ้าจับตาว่าหุ้นดังตัวนี้จะวิ่งทำลายสถิติเหมือนกับหลายหุ้นใหญ่ที่รีเทิร์นกลับซื้อขายอีกครั้งหรือไม่

( คลิกิ่านข่าวเกี่ยวข้อง อินไซด์ตลาดหุ้น!! AQ คึกคักสุดขีด! บอร์ดแจ้งต.ล.ท.ยกเลิกขายหุ้นเพิ่มทุนPP รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2/2560 พร้อมสู้ศึกเรียลเอสเตทรอบใหม่!?!

 

 

ล่าสุด วันนี้ ( 9  ต.ค.)  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  (ต.ล.ท.)  ได้แจ้งข่าวการการปลดเครื่องหมาย SP  หลักทรัพย์ บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) (AQ) ภายหลังจากบริษัทนำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 2 ปี 2560 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีใจความสำคัญตามที่ปรากฏในข้อมูลข่าวเว็บไซด์ต.ล.ท.ดังนี้
        
 

 

 

ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้หยุดพักการซื้อขายโดยขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) บนหลักทรัพย์ของบริษัทเอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) (AQ) ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นมา เนื่องจาก AQไม่สามารถนำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 3 ปี 2558 และในงวดถัดมาได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

 

 

 

ทั้งนี้ AQได้ทยอยนำส่งงบการเงินครบทุกงวดแล้ว โดยได้นำส่งงบการเงินฉบับสอบทานไตรมาสที่ 2สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2560 ซึ่งผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไขและมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการดำเนินงานต่อเนื่องของบริษัทขึ้นอย่างมากกับความสามารถของบริษัทในการชำระหนี้สินตามคำพิพากษาของศาลฎีกา
ความสามารถในการเพิ่มทุนของบริษัทและความสามารถในการขายที่ดินหลักประกันให้ได้ในราคาสุทธิตามที่บริษัทได้ประมาณการไว้ โดยสรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้
- งบปี 2558     ขาดทุนสุทธิ    2,216.81   ล้านบาท
- งบปี 2559    ขาดทุนสุทธิ    3,744.51    ล้านบาท
- ไตรมาสที่ 1 ปี 2560    ขาดทุนสุทธิ       61.96    ล้านบาท
- ไตรมาสที่ 2 ปี 2560    ขาดทุนสุทธิ   116.62    ล้านบาท

 

 

 

นอกจากนี้ บริษัทได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวน 72,640 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.05 บาทต่อหุ้น รวม 3,632 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12-14 และ 17-19 กรกฎาคม 2560 ตลาดหลักทรัพย์ฯ

จึงขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลดังต่อไปนี้ด้วยความระมัดระวังเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
(1) ข้อมูลในงบการเงินปี 2558 ปี 2559 ไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 ปี 2560
(2) คำชี้แจงของบริษัทเกี่ยวกับข้อมูลในงบการเงินปี 2559 และคำชี้แจงเกี่ยวกับมูลหนี้ที่ AQ
ต้องชำระแก่เจ้าหนี้ตามศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและสิทธิในการไล่เบี้ยระหว่างจำเลยร่วมในคดีดังกล่าว
รวมทั้งติดตามความคืบหน้าการดำเนินการชำระค่าเสียหายให้ครบตามคำพิพากษาของศาลฎีกา (10,004 ล้านบาท)
 (รายละเอียดตามข่าวของ AQ วันที่ 31 กรกฎาคม  27 และ 29 กันยายน 2560)

 

 

 

ดังนั้นเพื่อให้หลักทรัพย์ของ AQ สามารถซื้อขายได้ตามสภาพความเป็นจริง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 29(3) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การซื้อขายการชำระราคา และการส่งมอบหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2555 กำหนดให้ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของ AQในวันที่ 9 ตุลาคม 2560 ไม่มีราคาสูงสุดและต่ำสุด

 

 

โดยก่อนหน้านี้ นายสมชาย คูวิจิตรสุวรรณ ประธานกรรมการบริษัท AQ ระบุว่า บริษัทฯ จะนำส่งงบการเงินประจำไตรมาส 2/2560 ให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทันทีเมื่อผู้ตรวจสอบให้การรับรองงบการเงิน และคาดว่าภายหลังจากส่งงบการเงินแล้วหุ้น AQ จะกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทันที ในขณะที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2560 มีมติให้ยกเลิกการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือ 27,360,000,000 หุ้น จากการออกหุ้นทั้งหมดจำนวน 100,000 ล้านหุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ซึ่งได้จัดสรรไปแล้วจำนวน 2 ครั้ง รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 72,640,000,000 หุ้น และให้ผู้ถือหุ้นสามัญเดิมของบริษัทฯ ที่จดทะเบียนทุนชำระแล้วปัจจุบันจำนวน 85,314,683,535 หุ้น เป็นผู้มีสิทธิที่จะได้รับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งที่ 4 (AQ-W4) จำนวนไม่เกิน 56,337,341,768 หน่วย ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิม ได้รับ AQ-W4 จำนวน 1 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยทางคณะกรรมการบริษัทมีมติให้ วันที่ 24 ต.ค. 2560 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับจัดสรร AQ-W4

 

 

คณะกรรมการเล็งเห็นว่า ทางบริษัทฯ ได้มีการจัดสรรหุ้นให้กับนักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงไปแล้วจำนวน 72,640 ล้านหุ้น ในขณะที่จำนวน ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ก่อนการจัดสรรหุ้นให้กับนักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงมีจำนวน 12,673.97 ล้านหุ้น ปัจจุบันจะเกิดทั้ง Price Dilution เท่ากับ 65.79% (เทียบจากฐานราคาปิด 0.22 บาท) และ Control Dilution เท่ากับ 85.15% เพื่อเป็นการรักษาประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเดิม จึงนำจำนวนหุ้นที่เหลือจากการจัดสรรหุ้นให้กับนักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง ไปจัดสรรเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ แทน โดยมั่นใจว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ดังนั้น กรณีที่บริษัทฯ ไม่ต้องการซื้อที่ดิน 4,300 ไร่ บริษัทฯ จะต้องเพิ่มทุนอีก 600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าผู้ถือหุ้นเดิมน่าจะสามารถจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในส่วนดังกล่าวได้ เพราะเท่ากับภาระหนี้ของธนาคารกรุงไทยทั้งหมด บริษัทฯ สามารถชำระหนี้ได้ทั้งจำนวนแล้ว