- 09 ต.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากเอกสารที่มีการยื่นให้กับทางศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ ระบุว่า การเปลี่ยนชื่อของเจ้าอาวาสวัดสวนดอก รวมทั้งชื่อผู้ตายที่ถูกเอาไปสวมแทน ซึ่งแต่เดิม เจ้าอาวาสวัดสวนดอกนั้นชื่อ นายนิมิต ยอดคำ เกิดเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ.2508 สัญชาติพม่า พ่อชื่อ อิ่ง แม่ชื่อ นามแสง สัญชาติพม่า อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 14 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ต่อมาได้บวชเป็นพระชื่อ พระมหานิมิต ฉายา สิขรสุวณฺโณ นามสกุล วุฒิชัย โดยได้บวชที่วัดท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ตอนนั้นอายุได้ 29 ปี พรรษา 9 ได้ระบุในใบสุทธิ ชาติภูมิ เกิดวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2508 ตรงกับวันพุธ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีมะเส็ง ณ บ้านเลขที่ 3 ตำบลท่าตอน อ แม่อาย จ.เชียงใหม่ บรรพชา เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2525 ณ วัดท่าตอน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มีพระที่วัดท่าตอน เป็นพระอุปฌาชย์ ต่อมามีการขอทำบัตรใหม่ และเปลี่ยนเป็น พระราชรัชมุนี (นิมิต ทิพย์ปัญญาเมธี) โดยทำบัตรประชาชน ที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ขอทำบัตรในกรณีเป็นบุคคลซึ่งได้รับยกเว้น ซึ่งการร้องเรียนปรากฏว่าเลขประจำตัวบัตร ของพระราชรัชมุนี ไปตรงกับสามเณรที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการตรวจสอบเลขที่บัตรของพระราชรัชมุนี กับเลขบัตรของผู้ตายว่าตรงกันหรือไม่ ว่ามีการสวมบัตรคนตายหรือไม่อย่างไร
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 9 ตุลาคม 60 ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ นายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข ชาวจังหวัดชัยภูมิ นำหลักฐานเป็นเอกสาร ยื่นต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ หลังได้นำเอกสารดังกล่าวยื่นต่อศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ รวมทั้ง กอ.รมน.เชียงใหม่แล้ว เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น โดยนายอุบลพันธ์ ขันผนึก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ทราบเรื่องกรณีดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบหลักฐานเอกสารต่างๆ รวมทั้งข้อร้องเรียน และข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เบื้องต้นจะมีการตรวจสอบเรื่องของข้อมูลทะเบียนราษฎร์ หากพบว่ามีการสวมสิทธิ์หรือสวมบัตรประชาชน จะเข้าข่ายความผิดทางอาญาเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารทางราชการทันที และหากเป็นคดีความต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ขณะที่ กุฎิพระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอกยังปิดเงียบ หลังเกิดกรณีร้องเรียนและไม่สามารถติดต่อได้ โดยคนใกล้ชิดเผยว่า พระราชรัชมุนี ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์ที่ดอยอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงก่อนเข้าพรรษาแล้ว และจะไปจำพรรษาอยู่นานประมาณ 1 ปี เพื่อเขียนตำราภาษาบาลีที่จะนำไปใช้สำหรับการสอนหนังสือให้พระเณร โดยในช่วงที่ไปจำพรรษานั้น ได้มอบหมายงานให้รองเจ้าอาวาสวัดสวนดอก และรองเจ้าคณะอำเภอเมืองดูแลรับผิดชอบแทน.
ภาพ/ข่าว นพนิวัตร์ ไกรฤกษ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.เชียงใหม่