ทะยานเข้าสู่ปีทอง!!! "โหรฟองสนาน" เปิดดวง พระเสาร์จรเข้าธนู เทวดาสาดแสงเกิดสิริมงคล! อะไรที่เสียไปจะได้คืนมา...แต่ผู้สูงอายุระวัง

ก้าวเข้าสู่1ปีครบรอบความเศร้าโศกจากการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทยกับข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรชาวไทย ทั้งนี้โหรฟองสนานได้ทำการเปิดดวงเมืองทำนายชะตาในเดือนแห่งความเศร้าโศกนี้ โดยระบุว่าจากช่วงอันตรายที่สุดของมฤตยูที่สร้างความเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ของดวงเมืองนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ต่อไปดวงเมืองจะเริ่มดำเนินเข้าสู่เกณฑ์พระเสาร์จรเข้าราศีธนู และสิ่งที่เห็นได้ชัดต่อจากนี้คือจะมีทั้งเรื่องดีเรื่องร้ายเข้ามา มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

แม่หมอสมัครเล่นตอนที่195 โดยฟองสนาน จามรจันทร์
สัญญาณร้ายที่สองใกล้จะเคลื่อนจากมุมระรานดวงเมือง

ภาพดวงชะตาเมือง
พฤหัสบดีจร(5)ย้ายจากราศีกันย์เข้าตุลย์เริ่ม6กันยายน 2560
พระเสาร์จร(7)จะย้ายจากราศีพิจิกเข้าราศีธนูเริ่ม 1ธันวาคม 2560

ผู้เขียนเคยทั้งเขียนและพูดมาตลอดว่าระหว่างที่มฤตยูจร(0)เจ้าของการปฏิวัติ- การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเพื่อกวดล้างสิ่งเก่าสถาปนาสิ่งใหม่-อาเพศ-ล้อคถล่ม-เหตุการณ์ไม่ทันนึกคิดฯลฯที่ทับลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง(๑)มาตั้งแต่มีนาคม 2559 และจะยาวนานไปถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2565 นั้น

ช่วงที่อันตรายที่สุดของการมาถึงของมฤตยูรอบนี้ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในเมืองด้านร้ายเพราะเหมือนดวงชะตาเมืองพิงกำแพงผุและขอให้คนไทยช่วยกันฟันฝ่าแม้น้ำตาจะท่วมแผ่นดินคือหลังปิดหีบลงประชามติรัฐธรรมนูญที่7สิงหาคม2559เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 6 กันยายน 2560 อันเนื่องจากทั้งพระพฤหัสบดีจร(5)ที่เดินอยู่ในราศีกันย์และพระเสาร์จรที่เดินอยู่ในราศีพิจิกช่วยกันทำมุมปลายหอกใส่ลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง(๑ ซ้ำเติมจากที่มฤตยูจรทับรออยู่ก่อนแล้ว

เมื่อจับความไปที่หนึ่งในความหมายของอิทธิพลของมฤตยูคือการผลัดเปลี่ยนอย่างทันทีทันใดนั้น ในที่สุดคนไทยก็พบกับสถานการณ์ร้ายแรงจริงๆจนน้ำตาท่วมแผ่นดินด้วยการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่เก้า เมื่อ13ตุลาคม 2559อันเป็นการผลัดแผ่นดินชนิดน้ำตานอง

และเมื่อจับไปที่อีกหนึ่งความหมายของมฤตยูคือกิจการเกี่ยวกับมหาชน เราก็ได้เห็นอาถรรพ์ดวงเมืองที่ถูกออกแบบมาให้ยิ่งมีปัญหาคนไทยยิ่งร่วมกันฟันฝ่า ดังจะเห็นได้จากการเข้าคิวยาวเหยียดเพื่อสักการะพระบรมศพในพระบรมหาราชวัง ร่วมใจกันไว้ทุกข์เป็นปีและร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสาล้นหลาม

และแล้วครั้นตั้งแต่6กันยายน 2560เป็นต้นมาเมื่อพฤหัสบดีจรยกจากราศีกันย์เข้าราศีตุลย์ทำให้มุมปลายหอกที่พุ่งใส่ลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเมืองหายไป ทำให้สิ่งดีๆหรือโชคจากพฤหัสบดีหัวหน้าเทวดาประจำเมืองที่สาดแสงให้ลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิม(๑)คู่มิตรใหญ่ก็บังเกิดในเมืองเป็นระยะๆเช่น ตลาดหุ้นพุ่งทำลายสถิติเป็นระยะๆ –ไทยถูกปลดธงแดงด้านการบิน-พระเถระชั้นผู้ใหญ่เริ่มจัดระเบียบในวัดฯลฯ

แต่แม้ว่ามุมปลายหอกที่กดดันลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมืองรอบนี้จะหมดไปตั้งแต่ 6กันยายน 2560แล้ว แต่อย่าลืมว่าด้านร้ายที่สองอันเกิดจากพระเสาร์เทพเจ้าแห่งความระทม-กาลกิณีชาติดวงเมืองมาแต่กำเนิด(เพราะดวงชะตาเมืองลัคนาสถิตราศีเมษ-ตามหลักโหราศาสตร์-อ.เทพย์ สาริกบุตร) ยังจรอยู่ราศีพิจิก ภพมรณะอันหมายถึงการสูญเสีย-โศกซึมเศร้าของเมืองอยู่ แล้วยังพุ่งเล็งใส่พระอังคารดวงเดิมดวงเมือง(๓)อันเป็นตัวแทนลัคนาเมืองเป็นคู่ศัตรูฉกาจฉกรรจ์อีกต่อมา ผลคือนำความโศกซึมมาสู่คนไทยไม่สิ้น ตีคู่กับกำหนดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพวันที่ 26 ตุลาคม 2560 นี้ที่คนไทยยากจะทำใจได้

คำถามคือถ้าอย่างนี้คนไทยจะไม่โศกเศร้าตลอดไปหรือ?ผู้เขียนมีความเห็นส่วนตัวว่าพระเสาร์จรเข้าภพมรณะรอบนี้เล่นงานคนไทยหนักหนาสาหัสมาก แต่คนไทยที่เกิดในแผ่นดินรัชกาลที่เก้าคงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตลอดไปจนกว่าแผ่นดินจะกลบหน้า ขณะที่ชีวิตและเมืองก็ดำเนินต่อไปตามแนวทางที่พระราชทานมาแล้ว โดยมีลีลาการเดินอันใกล้นี้ที่น่าสนใจของพระเสาร์คือ

พระเสาร์จรที่เดินในราศีพิจิกมาตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 ที่ยังผลด้านร้ายมากกว่าดีต่อเมืองตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาตลอดเช่นจำกัดปริมาณน้ำจนปี2559ต้องขอดน้ำก้นอ่างมาใช้-เศรษฐกิจมีปัญหางัดอย่างไรก็รวยรินเหมือนจะสิ้นใจ(พระเสาร์จรพิจิกเล็งใส่ราศีพฤษภขอบเขตเศรษฐกิจการทำมาหาได้ของประเทศ)-พืชผลการเกษตรตกต่ำจนชาวนาต้องสีข้าวขายเอง-ในหลวงรัชกาลที่เก้าเสด็จสวรรคตฯลฯครั้นวันที่ 1 ธันวาคม 2560 มีกำหนดจะจากราศีพิจิกไปเพื่อเดินเข้าสู่ราศีธนู ภพที่เก้า-ศุภะดวงเมือง และจะอยู่ที่นี่จนถึง1มีนาคม 2563

ผลของพระเสาร์จรที่จะยกเข้าราศีธนูนี้จะมีทั้งด้านดี-ร้ายมากทั้งต่อเมืองและคนในเมืองทุกลัคนาราศี ซึ่งผู้เขียนจะได้ทยอยเขียนในโอกาสต่อไป แต่ที่เห็นชัดในดวงเมืองคือ

ความกดดันทางเศรษฐกิจจะจางไป-รอเข้าสู่ปีทองทางด้านการเกษตร –แต่เมืองได้อะไรมาต้องหาทางรักษาไว้ให้ได้(พระเสาร์จรเป็นเก้า..หาลาภได้แต่เก็บไว้ไม่ยืนยง..)-สำคัญคือตำราอาจารย์เทพย์ สาริกบุตรบอกเป็นระยะที่เมือง(ประชาชนในเมือง)จะได้รับผลปฎิบัติทางสมาธิจิต เพราะพระเสาร์จะทำให้เกิดสมาธิแน่วแน่

ที่ราศีธนูนี้ดวงเดิมของเมืองมีพระพฤหัสบดีดวงเดิม(๕)หัวหน้าพระสยามเทวาธิราชสถิตรองรับอยู่ เมื่อพระเสาร์จรมาถึง จะเกิดสิริมงคล เมืองจะได้ทรัพย์สินเงินทองแบบสะดวก ศัตรูเมืองจะพ่ายแพ้ เมืองเสียอะไรไปแล้วจะได้คืนมาตามโฉลก…เสาร์ทับพฤหัส ศิริสวัสดิลาภา สิ่งสินและเงินตรา จะลุโดยสะดวกดาย ศัตรูจะอัปรา และวัตถาระส่ำระสาย สินทรัพยะสูญหาย ก็จะคืนจะคงเรือน….ที่คาดว่าจะได้เห็นกันในระยะอันใกล้นี้คือเมืองเสียในหลวงรัชกาลที่เก้า ก็จะได้ในหลวงรัชกาลที่สิบมา(อย่างเป็นทางการ)

แต่ด้านร้ายคือ ในดวงเดิมดวงเมืองพระเสาร์ดวงเดิม(๗)สถิตที่ราศีธนูด้วย พระเสาร์เป็นตัวแทนผู้สูงอายุ เมื่อพระเสาร์จรมาทับพระเสาร์ดวงเดิมระยะเวลาสองปีครึ่งที่พระเสาร์จรอยู่ธนูนี้ กรรมเก่าเรื่องผู้สูงอายุจะแรงมาก จึงต้องระวังบุคคลสูงอายุที่โดดเด่นในเมืองว่าอาจจะทยอยจากไปเป็นใบไม่ร่วงตามวาสนาของแต่ละคนตามโฉลก…เสาร์ถึงสถิตเสาร์ ปะทะกันและกันเอง โทษทุกข์แต่บางเพรง(กรรมเก่า) ก็จะก่อจะเกิดมี สิ่งสินระส่ายทรัพย์ ภยทับระทมทวี เกรงอายุชนม์ชี- วพินาสประไลยตู…

ฟองสนาน จามรจันทร์
13 ตุลาคม 2560

 

ขอบคุณ Fongsanan Chamornchan