ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

          เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 16 ตุลาคม 2560 ที่ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ อินคำ สุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ   นายกมล  เชียงวงค์   รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาโครงการ) งานศึกษา ทบทวน และวิเคราะห์ความเหมาะสม โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ (ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา) เพื่อนำเสนอผลสรุปการศึกษา ด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้แทนจาก หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ธุรกิจเอกชน สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และ ประชาชน เข้าร่วมการสัมมนากว่า 200 คน

การรถไฟแห่งประเทศไทย โชว์ผลศึกษารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ ยกระดับคมนาคมขนส่งรับ EEC

          การประชุมครั้งนี้ นำเสนอผลสรุปแนวเส้นทางโครงการ โดยจะใช้แนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชนทางรางของโครงการเดิม ได้แก่ 1.โครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อม ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ สถานีรับ-ส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือ แอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) ซึ่งปัจจุบัน เปิดให้บริการแล้ว  2.โครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อม ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนต่อขยาย ช่วงพญาไท-ดอนเมือง (ARLEX) และ 3.โครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพ-ระยอง(HSR) โดยโครงการนี้ มีการออกแบบเพิ่มเติมบริเวณเชื่อมต่อเข้า สนามบินสุวรรณภูมิ(ขาออก) และ สนามบินอู่ตะเภา(ขาเข้า-ขาออก) พาดผ่านพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และ ระยอง รวมระยะทางทั้งหมด 260 กิโลเมตร ประกอบด้วย 10 สถานี เป็นสถานียกระดับ 8 สถานี ได้แก่ สถานีดอนเมือง สถานีกลางบางซื่อ สถานีมักกะสัน สถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และ สถานีระยอง และสถานีใต้ดิน 2 สถานี คือ สถานีสุวรรณภูมิ และ สถานีอู่ตะเภา โดยเป็นรถไฟขนาดทางมาตรฐาน 1.435 เมตร(Standard Gauge) 2 ทางวิ่ง โครงสร้างทางรถไฟส่วนใหญ่เป็นโครงสร้างทางยกระดับ (Elevated) มีโครงสร้างระดับดิน (At-Grade) และ โครงสร้างใต้ดิน(Tunnel)บางช่วง โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 200,000 ล้านบาท

การรถไฟแห่งประเทศไทย โชว์ผลศึกษารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ ยกระดับคมนาคมขนส่งรับ EEC

          นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้นำเสนอ มาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและประชาชน เช่น กำหนดให้มีการฉีดพรมน้ำ เพื่อควบคุมฝุ่นละอองอย่างสม่ำเสมอ การติดตั้งกำแพงกันเสียงชั่วคราว และ ทำการขุด เจาะ ในช่วงเวลากลางวัน เพื่อลดผลกระทบด้านการสั่นสะเทือน   ทั้งนี้ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ เป็น 1 ในแผนงานสำคัญด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม และ โลจิสติกส์ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการขับเคลื่อนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยได้รับการบรรจุไว้ในแผนการดำเนินโครงการและงบประมาณ ในปีงบประมาณ 2560–2561 ดังนั้น เมื่อการพัฒนาโครงการแล้วเสร็จในปี 2566 คาดว่า จะมีผู้มาใช้บริการรถไฟธรรมดา(City Line)ช่วง ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ กว่า 103,920 คน/เที่ยว/วัน และ มีผู้ใช้บริการรถไฟความเร็วสูง (HSR) ช่วง สุวรรณภูมิ-ระยอง ถึงกว่า 65,630 คน/เที่ยว/วัน สำหรับระยะเวลาการเดินทางจาก ดอนเมือง ถึง ระยอง(หยุดทุกสถานี)ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.และระยะเวลาการเดินทางจาก ดอนเมือง ถึง ระยอง (ไม่จอดระหว่างทาง) ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ และ ภาคอุตสาหกรรมให้แก่ จ.สมุทรปราการ และ จังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งเพิ่มทางเลือกในการเดินทาง และ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ให้ดีขึ้น

การรถไฟแห่งประเทศไทย โชว์ผลศึกษารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ ยกระดับคมนาคมขนส่งรับ EEC

การรถไฟแห่งประเทศไทย โชว์ผลศึกษารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ ยกระดับคมนาคมขนส่งรับ EEC

          โดยหลังสัมมนาครั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย จะรวบรวมข้อมูล ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้จากผู้เข้าร่วมการประชุม นำมาพิจารณาประกอบรายงานสรุปผลการศึกษาโครงการฯ จากนั้นจึงนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

การรถไฟแห่งประเทศไทย โชว์ผลศึกษารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ ยกระดับคมนาคมขนส่งรับ EEC

การรถไฟแห่งประเทศไทย โชว์ผลศึกษารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ ยกระดับคมนาคมขนส่งรับ EEC

ภาพ/ข่าว สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ    ผู้สื่อข่าวภูมิภาค    สำนักข่าวทีนิวส์    จ.สมุทรปราการ