หากความยุติธรรมมีจริง !! ยายวัย 82 ถูกโกงที่ดิน สูญ 24 ไร่ สู้คดีแพ้มา 3 ศาล วันนี้พบหลักฐานเด็ด ร้องคสช.ช่วยด้วย

นางติ๊ด สุขพอ อายุ 82 ปี นส.วันดี ไทยกำเนิด อายุ 61 ปี นายกิตติพัฒน์ มังคลา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13   ม.1   ต.ไม้รูด   อ.คลองใหญ่   จ.ตราด  พร้อมครอบครัว พาน.อ.พิจักษณ์ ยศศรีรัตน์ นายทหารตัวแทน คสช.เข้าตรวจพื้นที่บริเวณที่ดินของนางติ๊ด สุขพอ ที่แพ้คดีให้กับคู่กรณี หลังนำเอกสาร หลักฐานใหม่มาให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีที่ดินที่เคยครอบครองทำกินมานานกว่า 60 ปี ถูกคู่กรณีบุกรุกออกเอกสารทับซ้อน ทำให้ต้องสูญเสียที่ดินให้คู่กรณีไปทั้งหมดจำนวน  24 ไร่ ที่บริเวณหลัก กม.ที่ 53/965 - กม. 54/136  ถนนสายตราด-ไม้รูด ม.1  ต.ไม้รูด   อ.คลองใหญ่  จ.ตราด

 นางติ๊ด สุขพอ นส.วันดี ไทยกำเนิด และนายกิตติพัฒน์ มังคลา เล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของที่ดินดังกล่าวว่า มีที่ดินทั้งหมดจำนวน 30ไร่  เป็นนส.3ก. ได้แบ่งที่ดินให้เป็นที่สาธารณะในการก่อสร้างถนนสาย 0318 ตราด – ไม้รูด โดยมีเอกสารหลักฐานการรับรองจากกรมทางหลวงที่ออกให้เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2520  คิดเป็นพื้นที่แบ่งให้จำนวน 2ไร่ 2 งาน 56 ตรว. นอกจากนี้ยังมีเอกสารการรังวัด นส.3ก. เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2514 โดยนายทรงศักดิ์ รัตตะรัมย์ นายช่างรังวัด มายืนยันด้วยถึงสิทธิ์การครอบครองที่ดินดังกล่าว ซึง่เป็นที่ดินของนายทรัพย์ ไทยกำเนิด  เจ้าของที่ดิน ก่อนจะโอนที่ดินดังกล่าวให้กับ นส.วันดี ไทยกำเนิด ก่อนมาถูกโกงที่ดินไปนางติ๊ด สุขพอ นส.วันดี ไทยกำเนิด และนายกิตติพัฒน์ มังคลาเล่าให้ฟังว่า ที่ดินดังกล่าวครอบครองทำกินมาตั้งแต่สมัยนางติ๊ดยังเด้กอายุได้ประมาณ 15 ปี โดยปลูก ผลไม้ พริกไทย และพืชอื่นๆ  จนเวลานี้นางติ๊ด อายุได้ 82 ปีแล้ว  ซึ่งที่ดินดังกล่าวได้ยกให้นส.วันดี ไทยกำเนิดครอบครองทำกินต่อ  แต่มาถูกคู่กรณีบุกรุกเข้ามาครอบครอง จึงได้ส่งเรื่องฟ้องศาลจังหวัดตราด แต่ครอบครัวของตนเองแพ้คดีทั้ง 3 ศาลแล้ว

ส่วนวันนี้ที่ร้องไปยังค.ส.ช. ให้มาตรวจสอบ ขอความเป็นธรรม สาเหตุเพราะ ตนเองได้ไปขอเอกสาร หลักฐานการครอบครองที่ดิน ทั้งจากกรมทางหลวงที่ครอบครัวตนเองได้แบ่งที่ดินให้เป็นสาธารณะในการสร้างถนนซึ่งเอกสารดังกล่าวระบุชัดเจนว่า ครอบครัวตนเองแบ่งที่ดินให้ระหว่างหลักกม.ที่ 53/965- กม.54/136  ถนนสายตราด-ไม้รูด ม.1  ต.ไม้รูด  อ.คลองใหญ่  จ.ตราด ขณะเดียวกัน ที่ดินของคู่กรณี ก็ระบุไว้ว่า แบ่งที่ดินให้สร้างถนนระหว่างหลักกม.ที่ 53/193.30- หลัก กม.ที่ 53/960.20  แต่ปัจจุบันที่ดินตนเองที่ครอบครองบริเวณดังกล่าวกลับไปเป็นของคู่กรณี แม้ปัจจุบันศาลจะยังไม่สั่งให้เป็นที่ดินของใครก็ตาม แต่คู่กรณีก็เข้ามาครอบครองไปแล้วตนเองเห็นว่า การพิจารณาในชั้นศาล ได้พิจารณาไปตามเอกสาร หลักฐาน แต่ทนายของตนเองไม่ได้นำเอกสาร หลักฐานจากที่ดินและกรมทางหลวงไปต่อสู้ หักล้าง ทำให้ครอบครัวตนเองต้องแพ้คดี วันนี้มีเอกสาร หลักฐานใหม่เพิ่มเติม ซึ่งเป็นเอกสารเก่าที่เพิ่งได้มาจากกรมทางหลวง และสำนักงานที่ดิน จึงต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมจาก คสช.ให้ช่วยเหลือ ซึ่งนายทหารตัวแทน คสช.จะได้นำเอกสาร หลักฐานดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการให้ต่อไป

พูลศักดิ์ บุญลอย   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์   จังหวัดตราด