บทเรียนราคาแพง...กว่า ๒๐๐ ปี "น้ำท่วมกรุง" ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยหรือ !?! รวมเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งสำคัญในประเทศไทย (คลิปหาดูยาก)

กรุงเทพฯ ต้องบอกก่อนว่าเป็นเขตพื้นที่ต่ำ เหมือนแอ่งกระทะ และพื้นที่ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำสายใหญ่ จึงทำให้เมื่อเกิดฝนตกหนัก แม่น้ำรอบด้านจะเพิ่มปริมาณ และเกิดการไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของ กรุงเทพฯ ได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญความมักง่ายของคนบางกลุ่มนั้นเป็นต้นเหตุใหญ่ที่ทำให้น้ำระบายได้ยาก เพราะทิ้งขยะเข้าไปอุตตันในท่อระบายน้ำ ซึ่งมีจำนวนเยอะมาก เพราะ งั้นเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งนั้น เราควรโทษคนอื่น หรือ หันมองตัวเอง และสังคมที่อยู่ก่อน โดยกรุงเทพฯ เคยมีจารึกน้ำท่วมใหญ่ครั้งสำคัญในอดีต นั่นคือ ปี พ.ศ. ๒๔๘๕ ถึงกับจารึกเป็นลายลักษณ์อักษรดังต่อไปนี้

สำหรับกรุงเทพฯ เมืองที่มีชัยภูมิเอื้อต่อการถูกน้ำท่วม แน่นอนว่าเหตุการณ์น้ำท่วมในปี ๒๔๘๕ ได้เปลี่ยนโฉมกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร (ของคนยุคนั้น) ให้กลายเป็นทะเล (น้ำจืด) ขนาดใหญ่ ที่ในหลายๆ พื้นที่มีคนนำเรือออกมาพายกันเป็นทิวแถว

ในขณะที่เหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ ปี ๒๔๘๕ สร้างความเดือดร้อนและความยากลำบากให้กับประชาชนทั่วไป แต่ว่าส่วนใหญ่ก็เป็นความยากลำบากทุกข์ใจที่เกิดขึ้นในหมู่ผู้ใหญ่ แต่ว่ากับเด็กๆ (ในยุคนั้น) หลายๆ คนกับรู้สึกแตกต่าง เพราะเมื่อนานๆ เข้าน้ำจะท่วมสูงถึงระดับที่สามารถลงแหวกว่ายและพายเรือได้ พวกเขาจึงใช้ช่วงเวลานี้เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน

ความรุนแรงของ น้ำท่วมกรุงเทพ ในสมัยนั้นทำให้ต้องจารึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรกันเลยทีเดียว โดยบันทึกไว้ในหนังสือ "เหตุการน์น้ำท่วม พ.ส.๒๔๘๕" ของ กระซวงมหาดไทย (ภาษาที่ใช้เป็นภาษาตามต้นฉบับของหนังสือ ซึ่งเป็นภาษาไทยที่ใช้กันในสมัยนั้น) มีใจความที่น่าสนใจว่า

"ด้วยปรากตว่า ฝนตอนต้นรึดูพุทธสักราช ๒๔๘๕ ตกมากทางภาคพายัพและภาคอิสาน เปนเหตไห้น้ำท่วมเรือกสวนไร่นา และบ้านเรือนราสดรทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและภาคอิสาน ไนระหว่างเดือนกันยายน ตุลาคม และพรึสจิกายน เปนอุทกภัยครั้งสำคันไนประวัติการน์น้ำท่วมของเมืองไทยที่ทำความเสียหายไห้แก่ประชาชนพลเมืองเปนหย่างมาก"

-เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งสำคัญในกรุงเทพฯ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน-

๑. น้ำท่วม ปีมะเส็ง ปี ๒๓๒๘ ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ระดับน้ำที่สนามหลวงลึกถึง ๘ ศอก ๑๐ นิ้ว

๒. น้ำท่วม เดือนตุลาคม ปี ๒๓๖๒ ข้าวยากหมากแพงเหมือนครั้งแรก จนเป็นประวัติกาลที่ถูกพูดถึง

๓. น้ำท่วม เดือนพฤศจิกายน ปี ๒๓๗๔ ท่วมทั่วพระราชอาณาจักร และรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาหลายเท่า

๔. น้ำท่วม ปี ๒๔๖๐ น้ำท่วมลานพระบรมรูปทรงม้า จนมีกิจกรรมการแข่งเรือบนถนน เกิดขึ้นเป็นที่น่าแปลกในปนตกใจยิ่งนัก

๕. น้ำท่วม ปี ๒๔๘๕ น้ำท่วมมากกว่าปี ๒๔๖๐ เป็นเท่าตัว เนื่องจากฝนตกหนักในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงมาก ไหลล้นคันกั้นน้ำทั้งสองฝั่ง วัดระดับน้ำได้ ๒.๒๗ เมตร เหนือระดับน้ำทะเล

๖. น้ำท่วม ปี ๒๕๑๘ พายุดีเปรสชั่นพาดผ่านตอนบนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเหตุให้น้ำไหลล้นเข้าท่วมกรุงเทพฯ

๗. น้ำท่วม ปี ๒๕๒๑ เกิดจากพายุ “เบส” และ “คิท” พัดผ่าน ทำให้เกิดน้ำไหลบ่าจากทุ่งด้านตะวันออกเข้าท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ

๘. น้ำท่วม พ.ศ. ๒๕๒๓ น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับ สูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ๒.๐๐ เมตร ประกอบกับมีฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขัง

๙. น้ำท่วม ปี ๒๕๒๖ เนื่องจากมีพายุพัดผ่านภาคเหนือและภาคกลาง ประกอบกับมีพายุหลายลูกพัดผ่านกรุงเทพฯ วัดปริมาณฝนทั้งปี ๒๑๑๙ มม. มีปัญหาจราจรที่รถกับเรือใช้เส้นทางเดียวกัน ทำให้กรุงเทพฯนํ้าท่วมสูงกว่า ๑ เมตร นานหลายเดือน

๑๐. น้ำท่วม พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้เกิดฝนตกหนักมากและตกติดต่อกัน เนื่องจากได้มีพายุจรนำฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมีฝนตก ๒๕๔ มม. ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน

๑๑. น้ำท่วม ปี ๒๕๓๓ พายุโซนร้อน “อีรา” และ “โลล่า” พัดผ่านภาคอีสาน ทำให้ฝนตกหนักในกรุงเทพฯถึง ๖๑๗ มม. และเกิดน้ำขึ้นจนท่วมขังกรุงเทพฯ

๑๒. น้ำท่วม ปี ๒๕๓๗ เกิดพายุฝนฤดูร้อนถล่มกรุงเทพฯและปริมณฑล มากที่สุดในประวัติการณ์ เรียกกันว่า “ฝนพันปี” ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันสร้างความเดือดร้อนทั่วกรุงเทพมหานคร

๑๓. น้ำท่วม พ.ศ. ๒๕๓๘ มีฝนตกในภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากพายุหลายลูกพัดผ่าน และมีสภาพฝนตกหนัก เนื่องจากพายุ “โอลิส” ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูง ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เทียบเท่าน้ำท่วมปี พ.ศ. ๒๔๘๕

๑๔. นํ้าท่วมปี ๒๕๔๙ เกิดอุทกภัยทั่วประเทศ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีสภาพน้ำท่วมขัง ประกอบกับมีการผันน้ำเข้าเก็บกักเอาไว้ในพื้นที่ว่างเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำ ประมาณ ๑.๓๘ ล้านไร่ ต่อมาจังหวัดดังกล่าวไม่สามารถรับนํ้าได้ไหว นํ้าจึงไหลเข้าท่วมขังที่กรุงเทพฯ เกือบ ๑ เมตร นานกว่าสัปดาห์

๑๕. นํ้าท่วมปี ๒๕๕๔ เรียกว่า "มหาอุทกภัย" เป็นอุทกภัยรุนแรงที่สุด กินเวลาทั้งสิ้น ๑๗๕ วัน มีราษฎรได้รับผลกระทบกว่า ๑๒.๘ ล้านคน ธนาคารโลกประเมินมูลค่าความเสียหายสูงถึง ๑.๔๔ ล้านล้านบาท และจัดให้เป็นภัยพิบัติครั้งมีมูลค่าความเสียหายมากที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลก

๑๖. น้ำท่วมปี ๒๕๖๐ ถือว่าเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงอีกครั้งที่ได้รับผลกระทบในหลายๆเขต และในหลายจังหวัดทั่วประเทศ อันเนื่องมาจากฝนตกติดต่อกันหลายวันจากการเกิดพายุพัดผ่าน และเกิดการขังของน้ำระบายไม่สะดวกในหลายพื้นที่

อ้างอิงข้อมูลจาก - thairats.com , th.wikipedia.org