"สนธิญาณ" ย้อนห้วงเวลา...จุดเปลี่ยนที่ปลดแอกชีวิต   จากเป้าหมายโค่นล้มสถาบันฯ กลับแปรเปลี่ยนเป็นความจงรักภักดีจนหมดใจ!!

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th

"สนธิญาณ" ย้อนห้วงเวลา...จุดเปลี่ยนที่ปลดแอกชีวิต   จากเป้าหมายโค่นล้มสถาบันฯ กลับแปรเปลี่ยนเป็นความจงรักภักดีจนหมดใจ!! "13 ตุลา น้ำตาไหลเหมือนไทยทั้งปวง"

"สนธิญาณ" ย้อนห้วงเวลา...จุดเปลี่ยนที่ปลดแอกชีวิต   จากเป้าหมายโค่นล้มสถาบันฯ กลับแปรเปลี่ยนเป็นความจงรักภักดีจนหมดใจ!!
ฉันเกิดในรัชกาลที่๙   
         ผมเป็นอดีต"จัดตั้ง"ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.)
         การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงประเทศคือยุทธศาสตร์อันเป็นภารกิจของชีวิต!!!!
         ปรัชญา"วัตถุนิยมวิภาษวิธี" คือแกนหลักของความคิดที่แปรออกมาเป็นทฤษฏี
ในการเปลี่ยนแปลงสังคมคือ"วัตถุนิยมประวัติศาสตร์"ถือว่าเป็นทฤษฎีที่เป็นวิทยาศาสตร์!!!
         ชนชั้นผู้ใช้แรงงาน กรรมกร ชาวนา สำคัญที่สุด ศาสนาคือการมอมเมาให้เชื่อโดยไม่มีเงื่อนไขเป็นจิตนิยม!!!!
        การโค่นล้มสถาบันกษัตริย์และศาสนาจึงเป็นเป้าหมายสำคัญในการพลิกให้กรรมกรชาวนาขึ้นมาเป็นใหญ่!!!

"สนธิญาณ" ย้อนห้วงเวลา...จุดเปลี่ยนที่ปลดแอกชีวิต   จากเป้าหมายโค่นล้มสถาบันฯ กลับแปรเปลี่ยนเป็นความจงรักภักดีจนหมดใจ!!
        ๔ ปีที่อยู่ในจัดตั้ง แม้หลุดออกมาเพราะ พคท.ล่มสลาย!!! แต่ยังมีเวลาอีก ๑๐ ปีที่ปรัชญาเกาะกุมความคิด!!!!
        วันที่ได้"ปลดแอก"ความคิด!!! คือวันที่"สิ่งศักดิ์สิทธิ์"ได้มาทวงให้คืนชีวิตสู่เส้นทางที่ถูกต้องมี "ธรรมนำทาง" !!!
        ประวัติศาสตร์ที่เคยอ่านทั้งหลาย ได้ถูกพลิกข้างทางความคิดให้เห็นถึง "พระราชภาระ" ที่ "สถาบันพระมหากษัตริย์" ได้แบกรับเพื่อประชาชนและพิทักษ์รักษาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา!!!
        เป็นคำยืนยันจากองค์"หลวงปู่มั่น" พ่อแม่ครูอาจารย์ผู้ต้นทางสายธารของพระสายวัดป่าอันเป็นที่เคารพยิ่ง!!!!
        ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่เคยดูแคลนว่าเป็นเพียงวาทะกรรมครอบงำความคิด ได้กลับกลายเป็น ภารกิจสำคัญที่ต้องทำของชีวิตและต้องทำต่อไปจนสิ้นลมหายใจ!!!
      ที่สำคัญเกือบ ๖๐ ของชีวิตที่เกิดมา อยู่ในรัชสมัยของ"ในหลวงรัชกาลที่๙" แห่ง"พระราชวงศ์จักรี" ที่ทรงธรรมซึ่งจะเห็นประจักษ์ได้ผ่านทุกพระราชดำรัสและทุกพระราชกรณียกิจ!!!!
     ศึกษาเรียนรู้ยิ่งลึก ยิ่ง"จงรักภักดี"เพราะได้สัมผัสด้วยชีวิตตัวเอง จึงซาบซึ้งกับถ้อยคำ"ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙"!!!!

"สนธิญาณ" ย้อนห้วงเวลา...จุดเปลี่ยนที่ปลดแอกชีวิต   จากเป้าหมายโค่นล้มสถาบันฯ กลับแปรเปลี่ยนเป็นความจงรักภักดีจนหมดใจ!!
      ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ น้ำตาไหลเหมือนคนไทยทั่งปวง!!!!เป็นความรู้สึกเกินยากจะบรรยายคล้ายๆสิ่งหนึ่งในชีวิตขาดหายไป!!
      แต่ไม่ได้เป็นความ"เศร้า" เพราะเห็นว่าถึงกฎไตรลักษณ์ว่า "พระองค์ท่าน"ได้ทำให้คนไทยมากพอแล้ว เหนื่อยมาพอแล้ว เจ็บป่วยมาพอแล้ว ถึงเวลาที่จะได้เสด็จคืนสู่ความเป็น"มหาเทพ"ในฐานะพระโพธิสัตว์เจ้า
      ตั้งแต่วันนั้นมา"ตั้งใจ"สวดมนต์ไหว้พระภาวนาอุทิศเป็นพระราชกุศลทุกวัน แต่ผลที่ได้เกินคาดประมาณการณ์!!!!
      เกิดวิวัฒนาการในจิตใจอย่างต่อเนื่อง เจริญในธรรมจนสมารถสรุปได้ว่า ๑๘ ปีที่ได้ปฏิบัติมา ไม่เท่า ๑ ปีที่ทำถวายพระองค์ท่าน!!!!
     นี่คือพระบารมีที่แผ่ปกคลุมให้ แม้พระองค์ท่านจะจากไปแล้วก็ตาม!!!!
       สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม