สามครั้ง ถูกตรงๆ.."หลวงพ่อเมี้ยน"ลองขอหวย "หลวงพ่อจง" แม่นจริงๆจนต้องขอเรียนวิชา..เรียนได้..แต่ห้ามบอกใครเด็ดขาด!!

ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th

หลวงพ่อเมี้ยน เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ ตำบลกบเจา อำเภอบางบาล จังหวัดอยุธยา (ได้มรณภาพไปแล้ว)

 ท่านได้ศึกษาวิชาการประสานกระดูกและการรักษาโรคภัยต่าง ๆ มาจากหลวงพ่อเมี้ยน วัดพระเชตุพน ฯ หรือ วัดโพธิ์ ท่าเตียน จนสามารถใช้วิชานี้สงเคราะห์ผู้คนทั่วไปได้ แต่เมื่อท่านได้ครองเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ กบเจา ก็มีความเลื่อมใสในวิชากัมมัฏฐานตามแนวทางของหลวงพ่อจง และเมื่อได้ศึกษาต่อไปจึงได้ทราบว่าหลวงพ่อจงนั้นมีฌานพิเศษที่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์เบื้องหน้าได้ ก็เลยอยากลองเรียนวิชานี้ จึงได้ตัดสินใจที่จะไปลองสอบถามดู แต่การถามเหตุการณ์เบื้องหน้านั้นไม่มีอะไรที่จะพิสูจน์ได้แน่นอนเท่ากับการขอหวย เพราะการให้หวยนั้นจะเท็จจริงประการใดก็รู้กันได้ในไม่กี่วัน

เมื่อตกลงใจดังนั้นในวันต่อมาหลวงพ่อเมี้ยนจึงได้เดินทางไปพบหลวงพ่อจงที่วัดหน้าต่างนอก เมื่อได้พบหลวงพ่อจง จึงได้เข้าไปนมัสการและสนทนาสอบถามท่านถึงเรื่องต่าง ๆ แล้วจึงวกเข้าสู่เรื่องที่ท่านต้องการทราบ

"หลวงพ่อ เรื่องการให้หวยนั้นทำได้จริง ๆ หรือขอรับ"

หลวงพ่อเมี้ยนถามขึ้น

"จ้ะ เขามีจริง ๆ" หลวงพ่อจงตอบสั้น ๆ

"ผมอยากจะขอลองดู" หลวงพ่อเมี้ยนกล่าวต่อ

"จะลองดูก็ได้ รอเดี๋ยวนะ" หลวงพ่อจงตอบ แล้วท่านก็ลุกออกจากอาสนะที่รับแขก เดินหายเข้าไปในกุฏิใหญ่เพียงชั่วครู่ แล้วก็เดินออกมาพร้อมกับกระดาษแผ่นเล็ก ๆ แผ่นหนึ่ง ท่านส่งกระดาษแผ่นนั้นให้กับหลวงพ่อเมี้ยน หลวงพ่อเมี้ยนรับกระดาษแผ่นนั้นไว้แล้วก็มิได้เปิดดู เพียงแต่ยัดลงไว้ในย่ามและอยู่คุยกับหลวงพ่อจงอีกสัก ครู่หนึ่งก็ลากลับหลังจากที่หลวงพ่อเมี้ยนเอากระดาษแผ่นนั้นใส่ย่ามและ เดินกลับวัดแล้วก็เหมือนกับมีอะไรมาดลใจให้ท่านมิได้ นึกถึงกระดาษแผ่นนี้อีกเลย เมื่อกลับมาถึงวัดโพธิ์ กบเจา ท่านก็ได้แต่ทำกิจอื่น ๆ มิได้นึกถึงเรื่องราวที่ไปขอหวยหลวงพ่อจงมา จนกระทั่งเย็นวันหวยออก (ในสมัยนั้นหวยออกตอนเย็น) พอท่านได้ทราบว่าหวยออกเลขอะไรแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าหลวงพ่อจงได้ให้กระดาษมาแผ่นหนึ่งในวันที่ท่านไปขอหวย จึงไปค้นหากระดาษแผ่นนั้นในย่าม เมื่อพบและคลี่กระดาษนั้นออกดูก็ปรากฏว่ามีเลขสามตัว เขียนเรียงกันอยู่ และที่น่าประหลาดยิ่งนักก็คือเลขทั้งสามตัวนั้นตรงกับ เลขท้ายรางวัลที่หนึ่งมิได้ผิดเพี้ยนแม้แต่น้อยเมื่อเป็นเช่นนั้นหลวงพ่อเมี้ยนก็แน่ใจว่าหลวงพ่อจงมีญาณพิเศษในการรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าอยู่จริง แต่ก็ยังอยากจะลองให้หายสงสัย ในวันรุ่งขึ้นจึงเดินทางไปหาหลวงพ่อจงแต่เช้า เพื่อจะทดลองท่านอีก เมื่อไปถึงหลวงพ่อจงก็ถามว่า

"รวยไหม"

"ไม่ได้แทงเลยขอรับ เพราะพอได้ไปแล้วก็ลืม" หลวงพ่อเมี้ยนตอบ

"จะขอใหม่ใช่ไหม" ท่านหยั่งรู้ใจหลวงพ่อเมี้ยนโดยที่หลวงพ่อเมี้ยนยังไม่ทันบอก

"อยากลองใหม่ขอรับ" หลวงพ่อเมี้ยนตอบ

"รอเดี๋ยว จะไปเอามาให้" หลวงพ่อจงตอบพร้อมกับลุกเข้าไปในกุฏิใหญ่เหมือนครั้งที่แล้ว เพียงชั่วครูก็ออกมาพร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่งและส่งให้หลวงพ่อเมี้ยน เมื่อหลวงพ่อเมี้ยนได้รับกระดาษแผ่นนั้นแล้วก็ขอลากลับ และนับตั้งแต่วันนั้นหลวงพ่อเมี้ยนก็มิได้ใส่ใจกับเรื่องกระดาษที่หลวงพ่อจงให้มาอีกเลย จนกระทั่งหวยออกไปแล้ว จึงนึกขึ้นได้ว่าหลวงพ่อจงให้กระดาษมาแผ่นหนึ่ง จึงไปค้นในย่ามก็พบกระดาษแผ่นนั้น พอเปิดออกมาดู หลวงพ่อเมี้ยนกลับมีความประหลาดใจยิ่งขึ้นกว่าครั้งก่อน เพราะครั้งนี้หลวงพ่อจงเขียนเลขมาให้สองแถว แถวแรกเป็นเลขสามตัว แถวที่สองเป็นเลขสองตัว และปรากฏว่าเลขสามตัวนั้นก็ตรงกับเลขท้ายรางวัลที่ ๑ ส่วนเลขสองตัวของหวยงวดนั้นมิได้ผิดเพี้ยนเลย คือเลขรางวัลออกอย่างไร ตัวเลขที่หลวงพ่อจงให้มาก็เป็นอย่างนั้น

เมื่อผลออกมาว่าหวยที่หลวงพ่อจงเขียนใส่กระดาษให้หลวงพ่อเมี้ยนมานั้น เป็นเลขที่ตรงกับเลขท้ายสามตัวของรางวัลที่ ๑และตรงกับรางวัลเลขท้ายสองตัว โดยมิได้ผิดเพี้ยน ทำให้หลวงพ่อเมี้ยนเชื่อแน่ว่า วิชาการให้หวยของหลวงพ่อจงนั้นเป็นของแท้จริงยิ่งนัก แต่ก็อยากจะลองอีกเป็นครั้งที่สามเพื่อให้แน่แก่ใจ ดังนั้นในตอนเช้ามืดของวันต่อมา หลวงพ่อเมี้ยนจึงได้เดินทางมา

สามครั้ง ถูกตรงๆ.."หลวงพ่อเมี้ยน"ลองขอหวย "หลวงพ่อจง" แม่นจริงๆจนต้องขอเรียนวิชา..เรียนได้..แต่ห้ามบอกใครเด็ดขาด!!

หลวงพ่อจง

ที่วัดหน้าต่างนอกอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมาถึงและได้พบหลวงพ่อจงแล้วนั้น ท่านก็ได้ถามหลวงพ่อเมี้ยนเหมือนครั้งก่อนว่า

"รวยไหมล่ะ"

"ไม่ได้แทงเลยขอรับ เพราะลืมเสียสนิท" หลวงพ่อเมี้ยนตอบท่านไปอย่างนั้น แล้วก็พูดกับหลวงพ่อจงต่อไปว่า

"อยากจะลองอีกครั้ง"

"ได้จ้ะ คราวนี้ยากหน่อยนะ" หลวงพ่อจงพูดกับหลวงพ่อเมี้ยนอย่างนั้น เมื่อพูดจบหลวงพ่อจงก็เดินหายเข้าไปในกุฏิใหญ่เหมือน ครั้งก่อน ๆ แต่คราวนี้ท่านหายเข้าไปในนั้นนานพอสมควร จึงได้ออกมาจากกุฏิใหญ่ แล้วก็บอกกับหลวงพ่อเมี้ยนว่า "หยิบเอาเองอยู่ที่นั่น" ท่านพูดพร้อมกับชี้มือไปที่ศีรษะของโครงกระดูกตาเอี่ยม ซึ่งแขวนติดอยู่กับฝากุฏิ หลวงพ่อเมี้ยนจึงเดินไปที่โครงกระดูกนั้น ก็เห็นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ พับสอดไว้ตรงด้านหลังกะโหลกศีรษะ หลวงพ่อเมี้ยนหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาแล้วก็เอาใส่ไว้ในย่าม โดยมิได้เปิดดูว่าในกระดาษแผ่นนั้นเขียนอะไรไว้บ้าง จากนั้นหลวงพ่อเมี้ยนได้อยู่คุยกับหลวงพ่อจงอีกครู่หนึ่งจึงได้ลากลับเมื่อกลับไปถึงวัดโพธิ์ กบเจา หลวงพ่อเมี้ยนก็กระทำกิจต่าง ๆ ตามปกติ แล้วก็ลืมเรื่องราวที่ไปขอหวยมาจากหลวงพ่อจงเสียสิ้น จนหลังจากวันหวยออกจึงนึกขึ้นได้ว่าหลวงพ่อให้กระดาษ มาแผ่นหนึ่ง ซึ่งท่านได้เอาใส่ย่ามไว้ หลวงพ่อเมี้ยนได้รีบขึ้นไปบนกุฏิและค้นหากระดาษแผ่นนั้นในย่าม ซึ่งปรากฏว่ายังอยู่ในสภาพเดิมทุกประการ หลวงพ่อเมี้ยนจึงรีบคลี่ออกดูก็พบว่าในกระดาษแผ่นนั้นมีลายมือของหลวงพ่อจงเขียนตัวเลขเรียงกันไว้หกตัว และสิ่งที่ทำให้หลวงพ่อเมี้ยนบังเกิดความศรัทธาในหลวงพ่อจงทวีคูณก็คือ ตัวเลขทั้งหกตัวในกระดาษแผ่นนั้น ตรงกับเลขสลากรางวัลที่ ๑ ในงวดนั้นทุกตัวเรียบกันไปตั้งแต่ต้นจนตัวสุดท้าย (สมัยนั้นสลากกินแบ่งรัฐบาลก็มีเลขหกตัว)สิ่งที่ประจักษ์อยู่กับตาในเวลานั้น ทำให้หลวงพ่อเมี้ยนเชื่อมั่นยิ่งนัก ว่าวิชาการให้หวยหรือการล่วงรู้เหตุการณ์ภายหน้าของหลวงพ่อจงนั้นล้ำเลิศนัก เพราะท่านได้เห็นแจ้งมากับตาถึงสามครั้งสามหน ครั้นวันรุ่งขึ้นหลวงพ่อเมี้ยนจึงเดินทางไปที่วัดหน้าต่างนอกอีกครั้งหนึ่ง หลวงพ่อจงท่านก็ถามขึ้นเหมือนดั่งรู้ความในใจของหลวง พ่อเมี้ยนว่า

"อยากจะลองเรียนดูหรือ"

"ขอรับ" หลวงพ่อเมี้ยนตอบรับ แต่ในใจนึกก็เกิดความปีติที่หลวงพ่อจงได้ล่วงรู้ความ ตั้งใจที่ท่านเองมิได้บอกกล่าว

สามครั้ง ถูกตรงๆ.."หลวงพ่อเมี้ยน"ลองขอหวย "หลวงพ่อจง" แม่นจริงๆจนต้องขอเรียนวิชา..เรียนได้..แต่ห้ามบอกใครเด็ดขาด!!

หลวงพ่อเมี้ยน

"รอเย็น ๆ นะ" หลวงพ่อจงพูด เพราะขณะนั้นมีผู้คนอีกมากมายที่รอพบท่านอยู่

เมื่อหลวงพ่อจงว่างจากการรับแขก ในตอนพลบค่ำ หลวงพ่อเมี้ยนจึงได้เข้าพบ หลวงพ่อจงได้พาหลวงพ่อเมี้ยนเข้าไปในกุฏิใหญ่ แล้วให้หลวงพ่อเมี้ยนนั่งลงตรงหน้าโครงกระดูกตาเอี่ยม ณ ที่นั้นเองหลวงพ่อจงก็เริ่มสอนให้หลวงพ่อเมี้ยนเรียน วิชาให้หวยหรือการล่วงรู้เหตุการณ์เบื้องหน้า

หลวงพ่อจงเริ่มสอนด้วยการให้หลวงพ่อเมี้ยนนั่งสมาธินำจิตเข้าอสุภกัมมัฏฐาน เพ่งจิตเข้าสู่โครงกระดูกตาเอี่ยมแล้วภาวนา "อะระหัง" ทุกลมหายใจเข้าออก เมื่อหลวงพ่อเมี้ยนนั่งกัมมัฏฐานได้สักครู่หนึ่งหลวง พ่อจงก็ถามว่า

"ติดตาไหม"

"ไม่ติดขอรับ" หลวงพ่อเมี้ยนตอบ

"งั้นลองใหม่" หลวงพ่อจงพูดต่อไป เมื่อหลวงพ่อเมี้ยนเข้ากัมมัฏฐานสักครู่หนึ่ง หลวงพ่อจงก็ถามอีกว่า

"ติดตาหรือยัง"

"ยังขอรับ" หลวงพ่อเมี้ยนตอบ

"งั้นตามมานี่" หลวงพ่อจงบอกให้หลวงพ่อเมี้ยนลุกออกมาจากหน้าโครงกระดูกตาเอี่ยม เดินตามผ่านเข้าไปยังหน้าพระพุทธรูปซึ่งตั้งประดิษฐาน อยู่ในกุฏิใหญ่ แล้วก็ให้หลวงพ่อเมี้ยนนั่งเข้ากัมมัฏฐานที่หน้าพระพุทธรูปนั้น เมื่อหลวงพ่อเมี้ยนเข้ากัมมัฏฐานได้สักครู่หนึ่ง หลวงพ่อจงก็ถามว่า "คราวนี้ติดตาไหม"

"ติดตาแล้วขอรับ" หลวงพ่อเมี้ยนตอบ

"งั้นเริ่มต้นใหม่นะ" หลวงพ่อจงบอกต่อไป "เมื่อติดตาแล้วก็ทำจิตให้สูงขึ้น เหมือนกับเราขึ้นไปอยู่บนยอดไม้ ย่อมมองเห็นโคนต้นไม้นั่นแหละ"

นับตั้งแต่ที่หลวงพ่อจงพูดว่า "ทำจิตให้สูงขึ้น เหมือนกับที่เราขึ้นไปอยู่บนยอดไม้ย่อมมองเห็นโคนต้น ไม้นั้น" หลวงพ่อเมี้ยนก็เริ่มฝึกปฏิบัติต่อไป จนกระทั่งนิมิตเห็นตัวเลขลอยขึ้นทีละตัว ๆ จนกระทั่งครบหกตัว แล้วตัวเลขทั้งหกนั้นจากเดิมที่เป็นสีขาวก็จะกลับกลายเป็นสีทองสุกสกาว ในขณะนั้นเองหลวงพ่อจงก็ถามว่า

"เห็นแล้วใช่ไหม"

"เห็นแล้วขอรับ" หลวงพ่อเมี้ยนตอบ

"นั่นแหละเป็นของที่เราเห็นได้ แต่มันเป็นกิเลส เป็นลาภจร ไม่ควรนำไปบอกใคร" หลวงพ่อจงสอนเป็นอนุสติ

"ขอรับ" หลวงพ่อเมี้ยนรับคำ

พอรุ่งเช้า หลวงพ่อเมี้ยนก็เข้าไปลาหลวงพ่อจงแต่เช้าตรู่ เมื่อตอนที่ลานั้นหลวงพ่อจงก็สั่งกำชับอีกว่า "พูดไม่รู้ รู้ไม่พูด"เมื่อกลับไปถึงวัดโพธิ์กบเจา แล้ว หลวงพ่อเมี้ยนก็ฝึกปฏิบัติตลอดมา จนกระทั่งจิตเข้าสมาธิได้รวดเร็ว เห็นตัวเลขได้ในเวลาไม่นานนักและปรากฏว่าตัวเลขที่เห็นนั้นตรงกับเลขรางวัลที่ ๑ ทุกครั้ง​

สามครั้ง ถูกตรงๆ.."หลวงพ่อเมี้ยน"ลองขอหวย "หลวงพ่อจง" แม่นจริงๆจนต้องขอเรียนวิชา..เรียนได้..แต่ห้ามบอกใครเด็ดขาด!!

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

http://palungjit.org

เพื่อเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์