ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

ศาสตราจารย์คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ อดีตคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และเป็นอดีตหัวหน้าคณะแพทย์ที่ถวายการรักษาในหลวง รัชกาลที่ 9 ระหว่างปี 2550-2554 ได้เผยเรื่องราวสุดประทับใจผ่านทางรายการต่างคนต่างคิด (19 ตุลาคม 2560) ว่า ช่วงที่พระองค์มาประทับที่โรงพยาบาลศิริราช หากมีประชาชนมาร่วมกันเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" พระองค์ก็จะมีพระพักตร์แจ่มใส โดยบางครั้งพระองค์จะทอดพระเนตรลงมาผ่านหน้าต่างห้องรักษาพระอาการ ชั้น 16 ส่วนดอกไม้ที่นำมาถวายพระพรนั้น พระองค์จะทรงรับและพระราชทานต่อไปยังผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยมีขวัญกำลังใจดีขึ้น

ศาสตราจารย์คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ บอกด้วยว่า  เมื่อใดก็ตามที่พระองค์มีพระอาการดีขึ้น แม้จะยังไม่หาย ก็จะลุกขึ้นมาทรงงานอยู่ตลอด ซึ่งพระองค์จะมีห้องทรงงานอยู่ติดกันกับห้องที่ประทับรักษาพระอาการประชวร ตอนที่ถวายงานรักษาพระองค์ท่าน ตนก็ไม่ใช่แค่ทำงานรักษา หากพระองค์ทรงมีพระประสงค์อยากจะทราบเรื่องไหน ก็ต้องไปหาข้อมูลมาถวายรายงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประชาชนทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องน้ำท่วม พระองค์ท่านทรงห่วงใยพสกนิกรและทรงศึกษาเรื่องน้ำเป็นอย่างดี ในปี 2554 รับสั่งให้ถวายรายงานเรื่องน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม ก่อนที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ในเดือนตุลาคมเสียอีก สะท้อนให้เห็นว่าพระองค์ท่านมีสายพระเนตรที่ยาวไกล ซึ่งตนก็ต้องถวายรายงานทั้งวาจา ทั้งลายลักษณ์อักษร และรูปถ่าย

ส่วนภาพที่พระองค์ท่านทอดพระเนตรมองไปที่แม่น้ำเจ้าพระยา ท่านจะสังเกตน้ำขึ้น-น้ำลง สังเกตคลองที่ระบายน้ำ บางครั้งก็เห็นว่าทำไมคลองนี้ระบายน้ำติดขัด ก็จะรับสั่งกับพยาบาลว่าให้ไปถามกับคณบดี ไปหาข้อมูลมาว่าทำไมถึงติดขัด ตนก็ต้องไปถามที่เขต บอกเขตเพื่อขอแผนที่คลองทั้งหมดบริเวณนี้มาถวายพระองค์ท่าน พระองค์ท่านก็จะศึกษาและทรงชี้แนะการแก้ไขปัญหาในการระบายน้ำต่าง ๆ

นอกจากนี้ เวลาที่พาพระองค์ท่านเสด็จฯ ขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าของโรงพยาบาลศิริราช นอกจากทรงพระเกษมสำราญแล้ว ก็ยังทอดพระเนตรเห็นการจราจรโดยรอบ ทั้งสี่แยกปิ่นเกล้า สะพานอรุณอมรินทร์ รถติดมาก พระองค์เห็นแล้วก็มีรับสั่งจะช่วยเรื่องการจราจร เฉพาะเรื่องการจราจรก็ได้มา 8 โครงการ เช่น ทำโลคัลโรดรอบศิริราช ขยายสะพานอรุณอมรินทร์ให้ใหญ่ขึ้น ให้คณบดีไปคุยกับผู้บัญชาการทหารเรือ เรื่องจะทำทางลอยฟ้าข้ามสะพานอรุณอมรินทร์ไปถึงกองทัพเรือ แล้วต่อสะพานลอยฟ้าจากสะพานพระราม 8 ไปที่สามแยกไฟฉาย กลายเป็นสี่แยกไฟฉาย แต่สิ่งสำคัญที่พระองค์ท่านรับสั่งตอนสุดท้ายกับพวกที่เข้าประชุมทั้งหมดว่า "จะทำอะไรก็แล้วแต่ อย่าให้ประชาชนเดือดร้อน" 

อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาที่พระองค์ท่านทรงพระประชวร สิ่งหนึ่งที่ทำให้พระองค์ท่านทรงพระเกษมสำราญ ก็คือคุณทองแดง พระองค์ท่านโปรดมาก ทรงรักคุณทองแดงมาก คุณทองแดงเองก็รู้เรื่องทุกอย่าง ตอนเข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านเล่าเรื่องคุณทองแดงเป็นครึ่งชั่วโมง พอพระอาการดีขึ้น ก็รับสั่งกับพยาบาลให้มาถามกับคณบดีว่า จะเอาคุณทองแดงมาเยี่ยม พอพยาบาลมาบอก ตนก็รีบรับใส่เกล้า รีบนำคุณทองแดงมาเฝ้าฯ ก็จะเห็นได้ชัดเลยว่าทรงพระเกษมสำราญเหลือเกินที่ได้เห็นคุณทองแดงมาเฝ้าฯ

"คุณทองแดงรู้เรื่องหมด รู้ว่าตัวเองมีหน้าที่อะไร จะเห็นว่าเวลาพระองค์เสด็จฯ คุณทองแดงจะเดินไปก่อนเลย พระองค์ท่านก็เสด็จฯ ตาม คุณทองแดงไม่นอกลู่นอกทางเลย ถือเป็นสิ่งอัศจรรย์ก็ว่าได้" ศาสตราจารย์คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กล่าว

และสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่อาจไม่เคยรู้คือ เงินที่ประชาชนทูลเกล้าฯ ถวาย พระองค์จะพระราชทานกลับมาให้ศิริราชมูลนิธิ เพื่อนำเงินไปสร้างห้อง MRI หรือห้องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ซึ่งพระองค์ก็ได้ทรงใช้จริง และประชาชนทั่วไปก็ยังได้ใช้ร่วมกับพระองค์ด้วย

"การที่พระองค์ท่านจากไป ถึงแม้ว่าจะทำใจไว้แล้ว แต่ก็รู้สึกว่าเหมือนสิ่งสำคัญในชีวิตได้ขาดหายไป รู้สึกใจหาย เวลาเดินผ่านอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ทีไรก็หวั่นไหวทุกที... ผมบอกชาวศิริราชเสมอว่า เราทำงานตามหน้าที่อย่างเดียวไม่พอ ต้องสร้างคุณงามความดีประกอบกันไปด้วย เพื่อประเทศชาติ เพื่อถวายแด่พ่อหลวงของเรา ถ้าใครไม่รู้จะทำความดีอะไร ก็อย่าทำความไม่ดี" ศาสตราจารย์คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กล่าว

ขอบคุณ อัมรินทร์