- 22 ต.ค. 2560
แม้ถึงวันนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการปกครองจากส่วนกลางจะออกมาในรูปแบบใด แต่ก็สร้างความหวั่นวิตกว่าชาวคาตาลันอาจรับไม่ได้และถึงขั้นก่อจลาจล
การลงประชามติเพื่อขอแยกตัวออกจากประเทศสเปนของแคว้นกาตาลุญญา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ซึ่งปรากฏว่า ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์รวมทั้งสิ้น 2.02 ล้านคน หรือคิดเป็น 42.3% ของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน ต่อคำถามที่ว่าต้องการให้แคว้นกาตาลุญญาเป็นรัฐเอกราชในรูปแบบของสาธารณรัฐหรือไม่ และกว่าร้อยละ 90 เลือกที่จะโหวต ว่าต้องการ และมีผู้ที่ไม่ต้องการเพียงร้อยละ 7.8 เท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 2% และ 0.5% เป็นบัตรเปล่า และ บัตรเสีย
และทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกลาง กับรัฐบาลท้องถิ่นของแคว้นกาตาลุญญา นั้นทวีความรุนแรงมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 3 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ทางด้านสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 ทรงมีกระแสพระราชดำรัสผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของสเปน โดยมีสาระสำคัญว่าการกระทำที่ปราศจากความรับผิดชอบ ของรัฐบาลท้องถิ่นแคว้นกาตาลุญญา ย่อมส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคง ของทั้งแคว้นกาตาลุญญาและสเปนในภาพรวม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแคว้นกาตาลุญญาอยู่นอกขอบเขตของกฎหมาย และไม่เป็นไปตามการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ พระองค์ทรงขอให้รัฐบาลอันชอบธรรมดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย ในการรักษา ระบอบรัฐธรรมนูญของสเปน
จนกระทั่ง เมื่อค่ำของวันที่ 18 ตุลาคมนายกรัฐมนตรี มาเรียโน ราฮอย ของสเปน ได้ออกมาระบุว่า นายคาร์ล ปุยเดอมองต์ ประธานาธิบดีของแคว้นกาตาลุญญา จะมีเวลาถึงประมาณ 15.00 น. ตามเวลาประเทศใน ในวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อล้มเลิกความคิดแยกตัว หรือไม่ก็เตรียมถูกปกครองโดยตรงจากมาดริด
ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา ได้ลงนามประกาศเอกราชเชิงสัญลักษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ให้ระงับการบังคับใช้ไว้ก่อนเพื่อเปิดทางเจรจากับรัฐบาลกลาง ขณะนี้ นายคาร์ล ปุยเดอมองต์ ก็กำลังเตรียมพร้อมในการประกาศเอกราชทันที หากทางด้าน นายกรัฐมนตรี มาเรียโน ราฮอย ของสเปน ประกาศใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 155 เพื่อรวบอำนาจสู่ส่วนกลาง
กฎหมายมาตรานี้ยังไม่เคยถูกใช้มาก่อนตลอดระยะเวลา 4 ทศวรรษที่สเปนกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตย ที่อนุญาตให้รัฐบาลกลางสามารถ ดำเนินการอย่างใดก็ได้ เพื่อริบอำนาจปกครองคืนจากรัฐบาลท้องถิ่นของแคว้นทั้ง 17 แคว้น หากมีการละเมิดกฎหมายเกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลกลางชี้ว่ากาตาลุญญาได้กระทำไปแล้วด้วยการจัดประชามติว่าด้วยการแยกตัวเป็นเอกราช และพยายามแบ่งแยกดินแดน
ก่อนถึงเวลาขีดเส้นตาย 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ปรากฏว่า ผู้นำแคว้นกาตาลุญญาออกจดหมายที่ระบุว่า กาตาลุญญายังไม่ได้ประกาศเอกราชหลังทำประชามติแบ่งแยกดินแดน แต่จะประกาศเอกราชในทันทีหากรัฐบาลกลางของสเปนสั่งยึดอำนาจ
หลังจากนั้นไม่นานปรากฏว่า ทางด้านรัฐบาลกลางสเปนออกแถลงการณ์ ถัดจากเวลาเส้นตายไม่กี่นาทีว่า รัฐบาลสเปนขอประกาศ“ยกเลิกการปกครองตนเองของแคว้นกาตาลุญญาด้วยอำนาจในมาตรา 155 แห่งรัฐธรรมนูญสเปน” นั่นหมายถึง รัฐบาลสเปนจะยึดอำนาจบริหารตนเองของแคว้นกาตาลุญญา และให้แคว้นกาตาลุญญากลับสู่การปกครองของส่วนกลางตั้งแต่วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
และเมื่อถึงวันที่ 21 ตุลาคม มีประชาชนราว 450,000 คนเดินขบวนในเมืองบาร์เซโลนา ขณะที่รัฐบาลสเปนเตรียมยึดอำนาจการปกครองของรัฐบาลแคว้นกาตาลุญญา เพื่อขัดขวางความพยายามแยกดินแดนเป็นเอกราชของกลุ่มผู้นำแคว้น ขณะที่ทางด้าน ประธานาธิบดีคาร์ล ปุยเดอมองต์ ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมการเดินขบวนครั้งใหญ่ เต็มถนนสายหลักปาเซโอ เดอ กราเซีย และถนนเชื่อมต่อ ประชาชนจำนวนมากพร้อมใจกันร้องตะโกนคำขวัญเอกราชและอิสรภาพ
แม้ถึงวันนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการปกครองจากส่วนกลางจะออกมาในรูปแบบใด แต่ก็สร้างความหวั่นวิตกว่าชาวคาตาลันอาจรับไม่ได้และถึงขั้นก่อจลาจล กระพือความปั่นป่วนภายในแคว้นอันมั่งคั่งซึ่งถูกบริษัทใหญ่ๆ แห่ถอนกิจการออกไปแล้วหลายร้อยแห่ง แต่สิ่งที่น่ากลัวมากกว่านั้นคือการจลาจล ครั้งใหญ่ ที่อาจจะนำมาซึ่งการนองเลือดของสเปน อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็อาจจะเป็นได้