น้ำตาแม่เสือสาว!! สาวใหญ่วัย47 หลั่งน้ำตารับสารภาพ จำใจเป็นโจรลักจยย. อ้างครอบครัวแตกแยก รับภาระเลี้ยงลูก 5 คน ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง..?

     (22 ต.ค.)  พ.ต.อ.คมสัน พฤษวานิช ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สมศักดิ์ แก้วแสน รอง ผกก.(สอบสวน) ควบคุมตัว นางคนึงรัตน์ เพ็ชรสี่หมื่น อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94/3 หมู่ที่ 5 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์  ซึ่งถูก ร.ต.อ.วุฒิชัย ชาญอาวุธ รอง สวป.ทำหน้าที่ร้อยเวรป้องกันปราบปราม สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จับกุมได้พร้อมรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง หมายเลขทะเบียน คยค-315 นครศรีธรรมราชของกลาง  เหตุเกิดบริเวณ ตลาดเช้าถนนธรรมสุนทรอุทิศ เขตเทศบาลเมืองทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2560 ที่ผ่านมา มาสอบสวนปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานยืนฝากขังผู้ต้องหารายนี้ต่อศาลจังหวัดทุ่งสง ในวันเดียวกันนี้

โดย นายสมพร เสาวลักษณ์ อยู่บ้านเลขที่ 449/8 ถนนทุ่งสง-นาบอน เขตเทศบาลเมืองทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของรถ จยย.และเป็นผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเป็นพ่อค้าขายพริกในตลาดที่เกิดเหตุ โดยได้ขับรถ จยย. เข้ามาจอดริมถนนห่างจากแผงขายของประมาณ 10 เมตร แต่ด้วยความรีบเร่งจึงลืมเสียบกุญแจคารถไว้ และในระหว่างที่ตนกำลังขายของให้ลูกค้าอยู่สายตาก็เหลือบไปเห็น นางคะนึงรัตน์ ผู้ต้อหา ตรงเข้าไปขับรถ จยย.ของตนหลบหนี  ตนพร้อมด้วยพลเมืองดีหลายคน จึงไล่กวดติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้ ในขระที่ นางคะนึงรัตน์ คนร้ายได้แกล้งทำเป็นลมแน่นิ่ง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่โรงพัก

           ในขณะที่นางดรุณี คำปล้อง เป็นครูสอนโรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน  อ.ทุ่งสง ได้เดินทางมาชี้ตัวนางคนึงรัตน์ ผู้ต้องหา พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านางคนึงรัตน์ เป็นคนร้ายคนเดียวกันที่ได้ขโมยรถ จยย.ของตนไปเมื่อเดือน ก.พ.2560 ที่ผ่านมา  ซึ่งตนขับรถ จยย.ไปจอดไปซื้อของที่ตลาดแห่งเดียวกันนี้ และแจ้งความกับตำรวจไว้แล้วแต่นางคนึงรัตน์ ได้หลบหนีหายหน้าไป จนกระทั้งหวนกลับมาก่อเหตุซ้ำจนถูกจับกุมดังกล่าว

ทางด้านนางคนึงรัตน์ คนร้ายรับสารภาพว่า ตนเองฐานะยากจน ครอบครัวแตกแยกต้องรับภาระเลี้ยงดูลูก ๆ ถึง 5 คน แต่ไม่มีงานการทำเป็นหลักแหล่ง จึงตัดสินใจก่อเหตุขโมยรถ จยย. โดยได้มาก่อเหตุขโมยรถ จยย.ที่ตลาดแห่งนี้มาแล้ว 2-3 คัน จากนั้นจะนำ รถ จยย.ไปขายในตลาดมืดนำเงินมาเลี้ยงดูลูกทั้ง 5 คนจนกระทั้งพลาดท่ามาถูกจับกุมดังกล่าว และหากตนต้องติดคุกลุก 5 คนจะต้องได้รับความลำบากเดือดร้อนอย่างหนักแน่นอน นางคนึงรัตน์  กล่าวด้วยน้ำตานองใบหน้า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนขยายผลติดตามจับกุมแหล่งรับซื้อรถจากนางคนึงรัตน์ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรต่อไป.

ภาพ/ข่าว/ ยุทธนะ เตมะศิริ    ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์  จ.นครศรีธรรมราช