ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! กุมารทองกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทย

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! กุมารทองกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทย

วันนี้ผู้เขียนขอเสนอเรื่องราวของ “กุมารทอง”ค่ะ  (Kumarnthong)  นั้นเป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทยที่มีความเกี่ยวข้องกับ”จิตวิญญาณ” ซึ่งมีที่มาจากการเลี้ยงภูตผีปีศาจไว้ใช้งาน โดยกุมารทองจะเป็นวิญญาณของเด็กผู้ชาย หากเป็นวิญญาณผู้หญิงที่คนเลี้ยงไว้จะเรียกว่า "โหงพราย”นั่นเอง

 

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! กุมารทองกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทย


 ตามตำนานความเชื่อ“กุมารทอง” มีกล่าวไว้ว่า มีทีมาจากวิญญาณของเด็กที่ตายในท้องแม่หรือที่เรียกว่า "ตายทั้งกลม" ผู้มีวิชาอาคมจะไปนำพาวิญญาณเด็กนั้นมาเลี้ยงไว้เป็นลูกโดยจะต้องนำมาประกอบพิธีกรรมซึ่งจะทำในเวลากลางคืน ด้วยการนำศพทารกนั้นไปเผาหรือย่างไฟให้แห้งสนิทก่อนจะรุ่งเช้าและหลังจากนั้นจะลงรักปิดทองให้ทั่วทั้งตัว เป็นที่มาของการเรียกว่ากุมารทอง..!!

 

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! กุมารทองกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทย

หลังจากนั้นต่อมาศพของเด็กทารกเริ่มหายากขึ้นจึงทำให้ ไม่สามารถสร้างกุมารทองจากศพทารกจริงๆได้อีกผู้ที่มีคาถาวิชาอาคมในด้านปลุกเสก”กุมารทอง”จึงได้คิดค้นการทำกุมารทอง ขึ้นมาใหม่ โดยประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่มีความหลากหลายไปตามสูตรตามตำราโบราณของแต่ละบุคคล ที่ได้รับการสืบทอดต่อๆกันมาหลายยุคหลายสมัย อาทิ เช่น…….
ดินเจ็ดป่าช้า ,ไม้รักซ้อนหรือไม้มะยม ,ไปจนถึงโลหะ ,มาสร้างเป็นกุมาร แล้วปลุกเสก ตั้งธาตุทั้ง 4 และเรียกอาการสามสิบสองให้บังเกิดเป็นจิตวิญญาณของเด็กขึ้นมา

 

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! กุมารทองกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทย
จวบกระทั่งในปัจจุบัน”กุมารทอง”ได้มีความนิยมสร้างเป็นรูปลักษณะของ”เด็กไว้จุกนุ่งโจงกระเบนแบบโบราณ” และทำการปลุกเสกโดยเกจิอาจารย์ชื่อดัง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับผู้ที่มีความเชื่อความศรัทธาและมีความประสงค์ในการเช่า”กุมารทอง”ได้นำไปบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลเสริมดวงชะตาให้ชีวิตดีขึ้น โดยส่วนใหญ่คนที่เช่ากุมารทองมานั้น จะมีความเชื่อที่ว่า…กุมารทองเป็นเครื่องรางของขลัง ที่เสมือนมีวิญญาณเด็กอยู่ในรูปกุมารนั้นๆผู้บูชาจึงต้องเลี้ยงดูเหมือนลูกของตนจะต้องให้ข้าวให้น้ำบูชาอย่างต่อเนื่องโดยมิให้ขาด ซึ่งถ้าหากผู้บูชาเอาใจใส่ดูแลและทำการปฏิบัติต่อ”กุมารทอง”เป็นอย่างดี กุมารทองก็จะช่วยค้ำจุ้นหนุนนำให้ชีวิตของคุณดีรุ่งเรือง
อาทิเช่น หากทำการค้าก็จะช่วยให้ทำมาค้าขึ้น ช่วยเรียกทรัพย์ ช่วยคุ้มครองป้องกันผู้ที่บูชาและครอบครัวให้รอดพ้นจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ตลอดจนช่วยในเรื่องของการเตือนภัยล่วงหน้าอีกด้วย

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! กุมารทองกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทย

 

แต่การจะนำกุมารทองเข้าบ้านนั้นก็มีขั้นตอนพิธีการอยู่พอสมควรดังนี้
1. จุดธูปขออนุญาตพระภูมิเจ้าที่ เจ้าทาง ก่อนนำกุมารทองเข้ามาบูชาในบ้าน
ใช้ธูป 16 จุดไหว้ดอกกลางแจ้งในรั้วบ้าน (ทั้งนี้ทั้งนั่นล้วนแล้วแต่สูตรทางพิธีกรรมและพิธีการตามตำหรับตำราโบราณในแบบฉบับของครูอาจารย์แต่ละท่าน)นะคะ ส่วนข้อมูลที่ผู้เขียนนำมาบรรยายตามหลักสูตรที่สืบค้นพบมาเท่านั้นค่ะ 

จากนั้น ให้ทำการแนะนำตัวว่าข้าพเจ้าชื่อ.....อยู่บ้านเลขที่......ขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ณ สถานที่แห่งนี้ซึ่งปกปักษ์รักษาดูแลบ้านของข้าพเจ้าอยู่ จงได้เปิดทางเข้า-ออกให้แก่กุมารทองชื่อ..... (แต่ในส่วนความเชื่อโดยเฉพาะชื่อของ”กุมารทอง”ผู้ที่บูชาบางคนจะไม่บอกชื่อของกุมารทองกับใครเพราะมีความเชื่อส่วนตัวว่าจะทำให้กุมารทองไม่ขลัง) จากวัด........ให้เข้า-ออกบ้านข้าพเจ้าฯได้โดยสะดวกเพื่อเสริมทรัพย์ เสริมบารมี เฝ้าบ้าน ป้องกันภัย และช่วยค้าขายให้ข้าพเจ้าให้รวยขึ้น ดีขึ้น ขอให้เจ้าที่จงเปิดทางให้กุมารทองด้วย
2. จุดธูปบอกกุมาร ใช้ธูป 2 ดอกปักกลางแจ้ง - เวลาจะเรียกให้มา จุดธูปบนบานกุมาร (ใช้ธูป 5 ดอก)


ผู้เขียนจะขอยกตัวอย่างให้แต่พอสังเขปดังนี้เช่น…
”ขอเรื่องค้าขาย”เป็นต้น
วิธีแนะนำตัวกับกุมาร พ่อ/แม่ชื่อ....เจ้าชื่อกุมารทองแม่ตั้งชื่อว่า....พ่อ/แม่นำเจ้ามาบูชาเพื่อ....จงให้พ่อ/แม่สมดังใจ มีเงินใช้ไม่ขาดมือ และคุ้มกันภัย ถ้าได้ดังสมประสงค์ พ่อ/แม่จะซื้อ......แก่เจ้าเป็นรางวัล เจ้าจงเชื่อฟังพ่อ/แม่นะ (ตรงนี้ผู้เขียนแนะนำเสริมนะคะ คือ ให้กับบอกกุมารทองด้วยว่าลูกต้องเป็นเด็กดีนะ อย่าดื้อ อย่าซน อย่าหนีเที่ยว ) แล้วจะถวายอะไรให้บ้างอันนี้ตามแต่ท่านผู้บูชานั้นมีความสะดวกว่าจะถวายอะไรแก่กุมารทองนะคะสิ่งสำคัญที่สุดคือ”น้ำเปล่า”ห้ามให้ขาดจากหิ้งบูชาโดยเด็ดขาดค่ะ “ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เชียนไม่ได้มีเจตนาแนะนำหรือส่งเสริมให้ผู้ชมผู้อ่านท่านใดมีงมงายแต่อย่างใด เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ควรใช้วิจารณญาณในการเสพสาระข้อมูลโดยความรอบค่ะ” แล้วพบกันอีกครั้งได้ในบทความฉบับหน้าครั้งต่อๆไปค่ะ

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! กุมารทองกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทย

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ..และขอขอบคุณแหล่งสาระความรู้ข้อมูลด้าน”ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับ กุมารทอง”
 (บางส่วน!!)จาก อินเตอร์เน็ต ค่ะ
เรียบเรียงโดย:โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์