ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันที่ 22 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มี เด็กหญิงลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ขอบริจาคเสื้อผ้าและเครื่อง นุ่งห่ม และทุนการศึกษา บอกว่าถูกผู้ที่เป็นบิดาทอดทิ้งให้ใช้ชีวิตแสนลำบากอาศัยอยู่กับตา ตามมีตามเกิดบางวันไม่มีเงินไปโรงเรียนยังไม่มีแม้แต่บาทเดียว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของเด็กหญิงลูกครึ่งที่บ้านเลขที่ 364 หมู่ที่ 3 บ้านแม่ข้าวต้มท่าสุด ตำบลท่าสุด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบเด็กหญิงดังกล่าว

 

หมดหนทางแล้ว !! สาวน้อยลูกครึ่ง วอนขอช่วยเหลือ หลังพ่อชาวอังกฤษได้เมียใหม่ ทิ้งไม่ใยดี แม่ไปรับจ้างก็เงียบหาย อาศัยเบี้ยชราของตา

ทราบภายหลังว่า เด็กหญิงนาเดียร์ ไชเวอร์ชัน อายุ 9 ปีและกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียน บ้านแม่ข้าวต้มท่าสุด ชั้นประถมปีที่ 3 ได้อาศัยอยู่กับคุณตา คือนายส่วน สุขเสริม อายุ 78 ปีเป็นชายพิการมีสภาพร่างกายซูบผอม มี นางดารณี สุขเสริม อายุ 47 ปีซึ่งเป็นพี่สาวของแม่แล้วเป็นคนดูแลน้องนาเดียร์ ตั้งแต่ น้องนาเดียร์อายุเพิ่งได้  3 ปี เมื่อผู้สื่อข่าวได้เดิน ทางมาถึงเด็กหญิงนาเดียร์ นั่งอยู่บนแคไม้ไผ่ คำแรกที่น้องนาเดียร์ได้เห็นผู้สื่อข่าวเดินเข้ามาหาคำแรกที่น้องนาเดียร์ถามผู้สื่อข่าวว่ามาช่วยหนูใช่ไหม หนูอยากได้ชุดนักเรียนใหม่และเสื้อผ้าและทุนการศึกษาหนูไม่มีเงินเลย นางดารณี เล่าให้ฟังว่าน้องนาเดียร์เป็นลูกของน้องสาวตัวเองคือนางณชาดา สุขเสริม อายุ 44 ปีอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังดังกล่าว นางณชาดา ได้สามีเป็นชาวต่างชาติชื่อว่านาย วิลเลี่ยมส์ อายุ 65 ปีสัญชาติอังกฤษ ทำงานเกี่ยวกับธุรกิจก่อสร้างซึ่งได้อาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนั้นคือบ้านของพ่อตา ได้เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ บ้านแบบ ไปๆ มาๆ จนอยู่ด้วยกัน 2 ปีก็ได้มีบุตร 1 คนก็คือน้องนาเดียร์ ตอนแรกเมื่อมีลูก นายวิลเลี่ยมส์ จะรัก และห่วงลูกมากๆ แต่พอน้องนาเดียร์อายุได้เพียง 3 ปี

นายวิลเลี่ยมส์ ก็ได้เดินทางไปต่างประเทศและได้หายตัวไปทําให้นาง ณชาดา น้องสาวเป็นห่วงจึงออกติดตามหาเป็นปีก็ไม่พบการที่จะออกจากบ้านไปตามหาสามีแต่ละครั้งก็ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากจึงได้กู้หนี้ยืมสินเขาไปตามหาจนสุดท้ายก็ได้พบสามีคือนายวิลเลี่ยมส์  ได้ไปมีครอบครัวใหม่เช่าบ้านอยู่ที่กรุงเทพและก็ไม่เคยส่งเสียเงินทองให้ลูกเมียใช้เลยจึงได้ทะเลาะวิวาทกัน นางณชาดา จึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลขอให้นายวิลเลี่ยมส์ ผู้เป็นสามีให้ส่งเสียเลี้ยงดูตนเองและบุตรจนชนะคดีศาลได้ให้นาย วิลเลี่ยมส์ ส่งเสียงลูก

 

หมดหนทางแล้ว !! สาวน้อยลูกครึ่ง วอนขอช่วยเหลือ หลังพ่อชาวอังกฤษได้เมียใหม่ ทิ้งไม่ใยดี แม่ไปรับจ้างก็เงียบหาย อาศัยเบี้ยชราของตา

แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นแบบนั้นทราบว่าต่อมา นายวิลเลี่ยมส์ ได้ย้ายบ้านเช่าไปอยู่กับภรรยาใหม่และไม่เคยส่งเสียและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลยจึงปล่อยให้น้องนาเดียร์ลูกสาวซึ่งมีอายุตอนนั้นเพียง 3 ปีเท่านั้นต้องทนทุกข์ลำบากมีหนี้สินที่ไปกู้ยืมเขามาทั้งต้นทั้งดอกก็ไม่ได้ใช้เขาจนในที่สุดผู้เป็นแม่คือนางณชาดา ตัดสินใจเข้าไปทำงานที่กรุงเทพ แต่รายได้ก็ไม่เพียงพอนานๆจึงจะส่งเงินมาให้น้องนาเดียร์ลูกสาวจนต้องตกเป็นภาระของตาและป้าช่วยกันเลี้ยงดูน้องนาเดียร์มาถึงปัจจุบันอายุได้ 9 ปี ใช้ชีวิตแบบขัดสนเงินทองที่จะใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน มีเงินไปโรงเรียนบางครั้งวันละ 1 บาท เลี้ยงชีพทุกวันอาศัยเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินผู้พิการของนายส่วน สุขเสริม ซึ่งเป็นตาเพียงเดือนละ 1,500 บาท มาเลี้ยง ครอบครัว 3 ชีวิต

      นางดารณีเล่าต่อไปว่าตนเองก็ไม่ได้ทำงานอะไร รับจ้างทั่วไปถ้าวันไหนมีคนมาจ้างก็ไปรับจ้างไม่ว่าจะเป็นการตัดสับปะรดเมื่อมีคนมาจ้างก็ไปทุกงานแต่รายได้ก็ไม่เพียงพอ ส่วนตัวน้องนาเดียร์ ก็ไปรับผ้ามาปักพอได้เงินมาบ้างเพียงเล็กน้อยน้องนาเดียร์ ก็จะเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาอย่างประหยัดและได้นำเงินจากค่าจ้างในการปักเสื้อนำมาซื้อไก่มาเลี้ยงและจะดูแลไก่ของเธอทุกๆวัน บางวันเงินไปโรงเรียนแทบจะไม่มี แม้แต่เสื้อผ้าชุดนักเรียนก็ต้องใส่ชุดเก่าๆ ต่อมาน้องนาเดียร์ได้โพสต์เรื่องราวลงเฟสบุ๊คในนาม application facebook  ขอความช่วยเหลือจากโลกโชเชียล ผู้สื่อข่าวได้พบข้อความดังกล่าวได้ติดตามไปพบ และได้นำเรื่องราวชีวิตของน้องและครอบครัวมาเผยแพร่ ท่านใดต้องการช่วยเหลือสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์  0644758571

หมดหนทางแล้ว !! สาวน้อยลูกครึ่ง วอนขอช่วยเหลือ หลังพ่อชาวอังกฤษได้เมียใหม่ ทิ้งไม่ใยดี แม่ไปรับจ้างก็เงียบหาย อาศัยเบี้ยชราของตา

หมดหนทางแล้ว !! สาวน้อยลูกครึ่ง วอนขอช่วยเหลือ หลังพ่อชาวอังกฤษได้เมียใหม่ ทิ้งไม่ใยดี แม่ไปรับจ้างก็เงียบหาย อาศัยเบี้ยชราของตา

ชาติณรงค์ ปัญญาฟู  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดเชียงราย

ชัด ราชวงษ์ เรียบเรียง