- 23 ต.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 ต.ค.60 ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากแม่น้ำเจ้าพระยา ได้นำถุงยังชีพแจกช่วยเหลือ จำนวน 400 ถุง น้ำดื่ม 400 แพ็ค ยาทาแก้น้ำกัดเท้าจำนวน 400 หลอดและรับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำ พร้อมทั้งรับฟังปัญหาของประชาชน โดยมี ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นางพงศ์ศักดิ์ อรุณวิจิตรสกุล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 11 หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดปทุมธานี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ชุมชนบ้านท้องคุ้ง หมู่ 7 ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
ด้าน ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า หลังจากที่กรมชลประทานเพิ่มการระบายน้ำเป็น 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประชาชนได้รับผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา คือจังหวัดชัยนาท จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอ่างทองซึ่งน้ำจะขึ้นสูงสุดประมาณ 25 เซนติเมตรภายในวันพรุ่งนี้ ส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี มวลน้ำก้อนนี้จะมาถึงในวันที่ 25 ต่อเนื่องถึงวันที่ 26 โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอยู่ในปัจจุบันคือพื้นที่อยู่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา คือพื้นที่บริเวณ อำเภอเมืองชัยนาทและอำเภอมโนรมย์ ของจังหวัดชัยนาท จนถึงอำเภอเมืองอุทัยธานี อำเภอพยุหะคีรีในจังหวัดนครสวรรค์ อยู่ระหว่างช่วงที่น้ำเหนือไหลลงมาเพื่อให้พื้นที่สองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะพื้นที่ของจังหวัดชัยนาทและพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตกประมาณ 100 มิลลิเมตร ทำให้ต้องปล่อยน้ำลงมาในแม่น้ำสายหลัก คือแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้เกิดการยืดหยุ่นมากขึ้นในการบริการน้ำ
เพื่อให้พื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยาไม่ท่วมมาไปกว่านี้จึงต้องเร่งระบายน้ำออกมา ซึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธนานั้น พื้นที่ไหนที่ระดับน้ำในคันกั้นน้ำต่ำกว่าประมาณสัก 20-30 เซนติเมตร ก็ต้องยกระดับคันกั้นน้ำขึ้นมาประมาณ 30 เซนติเมตร ซึ่งอีก 1-2 วันข้างหน้า เพื่อที่จะให้ระดับน้ำที่อยู่ในวิสัยที่ปลอดภัยไม่กระทบกระเทือนกับพื้นที่มากนักโดยมีเวลาเตรียมตัวประมาณ 1 วันครึ่ง การแก้ไขการระบายน้ำของกรมชลประทานคือการผันน้ำไปทางซ้ายและขวา โดยฝั่งตะวันออก คือคลองระพีพัฒน์ และขอความร่มมือกับกองทัพเรือในการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ทั้งในแม่น้ำท่าจีน และคลองลัดโพธิ์ จังหวัดสมุทรปราการ ในส่วนคลองระพีพัฒน์ ทางชลประทานพยายามระบายลงสู่คลองรังสิต เพื่อผันน้ำไปยังแม่น้ำนครนายกและแม่น้ำบางปะกงโดยติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อจะให้ระบายน้ำเข้าไปฝั่งตะวันออกเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ไว้ว่าหลังจากนี้ไป วันที่ 24 ต.ค. และวันที่ 25 ต.ค. จะมีฝนตกประปรายแต่จะตกหนักเป็นบางแห่ง และวันที่ 26 ฝนจะตกเบาลง หากฝนตกมากเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทางกรมชลประทานจะปรับแผน 3 อย่างคือ อย่างแรกจะระบายน้ำในฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกให้มากขึ้น โดยจะต้องมีการระบายน้ำไปยังพื้นที่ที่เก็บเกี่ยวแล้วเพิ่มมากกว่าเดิม ส่วนที่สองต้องระบายน้ำออกทางแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ต้องประเมินวันต่อวัน สุดท้ายคือการเร่งผลักดันน้ำออกมายังแม่น้ำท่าจีน และคลองที่เชื่อมต่อกับอ่าวไทย หรือคลองชายทะเลโดยการเดินเครื่องสูบน้ำ และผลักดันน้ำไปทางแม่น้ำบางปะกง ทางกรมชลประทานได้พยายามระบายน้ำให้มาที่สุดเท่าที่จะมากได้ ก็ต้องดูที่ความแปลปรานของสภาพภูมิอากาศ หลังจากวันที่ 26 ต.ค. หากฝนไม่ตกแล้ว ทุกอย่างก็จะคลี่คลาย ฝากประชาชนเฝ้าระวังระดับน้ำที่จะยกระดับในช่วงนี้โดยการเตรียมความพร้อมอย่างที่กล่าวมาแล้ว และติดตามการแจ้งเตือนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด.
ภาพ/ข่าว : ธัชนนท์ พิริยะกุลชัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ปทุมธานี