เคลียร์คัต เป้าประสงค์ !?!? กรณี 9 รมต.ขาดคุณสมบัติ... เกมทิ้งทวนของกกต.

ปมประเด็น เซ็ตซีโร่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เหมือนจะเป็นจุดแตกหัก ระหว่างรัฐบาลและกกต.ชุดนี้

ทำให้สภาพที่มีในตอนนี้  ....ไม่ต่างกับการเป็นหอกข้างแคร่  ของรัฐบาล

ในระหว่างที่รอให้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีผลบังคับใช้.. ซึ่งจะทำให้กกต.ชุดสิ้นสภาพไป

การเดินหน้าสะสางเรื่องที่คั่งค้าง ในเวลาที่เหลืออยู่ ...จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตามอง

ล่าสุด  มีกระแสข่าววงใน  แจ้งว่า กกต.กำลังดำเนินการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องไปชี้แจง กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นขอให้ กกต.ตรวจสอบความเป็นรัฐมนตรี 9 คน ที่อาจเข้าข่ายขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี เพราะถือหุ้นสัมปทานรัฐ

ประกอบด้วยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวฯ/ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ /นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง/ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลฯ /นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม/ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ /พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน /ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมช.ศึกษาธิการ /และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ซึ่งส่วนใหญ่ รัฐมนตรีหลักๆของรัฐบาล

โดยหลายฝ่ายมองว่า เป็นการเดินเกม เพื่อเอาคืนกับ“เซ็ตซีโร่” กกต. 

เพราะเรื่องนี้กกต.รับคำร้องและตั้งกรรมการ 9 คน เมื่อช่วงต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา และคาดว่า 2-3 เดือนจะรู้ผลว่า กกต.จะลงมติและส่งศาลรัฐธรรมนูญถอดถอน 9 รมต.หรือไม่

ซึ่งหากเป็นไปตามนั้น  กรณีดังกล่าวจะแล้วเสร็จ รู้ผล ในช่วงคาบเกี่ยว..รอยต่อ ระหว่างกกต.ชุดนี้กับชุดใหม่

 

ทั้งนี้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.เองก็ยอมรับว่า ทุกอย่างจึงเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ได้มีการเร่งรัดแต่เป็นไปตามระบบ แต่จะจบภายใน กกต.ชุดนี้หรือไม่นั้น ยังบอกไม่ได้ ต้องให้คณะกรรมการพิจารณาจากข้อเท็จจริง ถึงแม้จะร็ว่า กรณีไหนน่าจะเข้าข่าย แต่ไม่สามารถพูดล่วงหน้าได้

 

 

 

ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหนึ่งใน 9 รมต.ที่ถูกร้องว่าขาดคุณสมบัติ กล่าวถึงเรื่องนี้ ยื่นยันว่า กรณีของตน ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการถือหุ้น แต่ถูกทักท้วงในเรื่องอื่น ซึ่งผู้ที่ทักท้วง ก็ไม่ใช่กกต. แต่เป็นบุคคลอื่นที่ไปยื่นร้อง แต่กรณีของตนถูกนำไปพูดปนกับของคนอื่น

 

คงเป็นอีกประเด็นที่ต้องจับตา .... เพราะงานนี้ เคลียร์คัต  เป้าประสงค์ชัดเจน อยู่แล้ว