#สังคมเดียวนี้มันอันตราย !! . . . สาวฉันทนาหอบหลักฐานโร่แจ้งความถูกโจร แฮ็กเฟสบุ๊คน้าสาวหลอกยืมเงิน(มีคลิป)

          เมื่อเวลา  15.00 น.  วันที่  31 ตุลาคม 2560  ในขณะที่ พ.ต.ท.สุศรันย์    ศรีบุญเจริญชัย  สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มี นางสาว อินทุอร  มีอิสระ  อายุ 22 ปี ได้นำหลักฐานต่างๆ ที่เป็นข้อความการแชทขอยืมเงินของมิจฉาชีพรายหนึ่ง พร้อมกับหลักฐานสลิปการโอนเงิน เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ขอให้ช่วยติดตามจับกุมมิจฉาชีพที่หลอกโอนเงินมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

          นางสาว อินทุอร  ได้เล่าว่า ตนเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านอำเภอบางพลี  ถูกแก๊งมิจฉาชีพแฮ็กข้อมูลเฟสบุ๊ค ของน้าสาวและส่งข้อความมาขอยืมเงินสดจำนวน 1 หมื่นบาท ตนหลงเชื่อและโอนเงินไปตามหมายเลขบัญชีที่ส่งมาทางเฟส เพราะตนคิดว่าน้าสาวตนกำลังเดือดร้อน แต่ไม่ทราบว่ามีแก๊งคนร้ายแฮ๊กข้อมูลเฟสบุ๊คของน้าสาวตน ก่อนจะมาทราบเรื่องภายหลังว่าถูกหลอกจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับทางตำรวจเพื่อขอให้ติดตามจับกุมตัวมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

          นางสาว อินทุอร ยังเล่าว่า มีข้อความในเฟสบุ๊คของน้าสาวซึ่งใช้ชื่อและรูปโปร์ไฟร์เดียวกับน้าสาวและเป็นเฟสบุ๊คเดียวกันที่เคยพูดคุยแชทกับทางน้าสาวก่อนหน้านี้ ได้ส่งข้อความทักมาหาตนและขอยืมเงินไปจ่ายค่าเครื่องสำอาง จำนวน 1 หมื่นบาท ตนเห็นว่าน้าสาวซึ่งมีอาชีพจำหน่ายเครื่องสำอางผ่านออนไลน์อยู่แล้ว  จึงไม่ได้เอะใจอะไรและโอนเงินจำนวนดังกล่าวให้ผ่านทางตู้เอทีเอ็ม จำนวน 2 ครั้ง ครั้งละ 5 พันบาท จนมาทราบภายหลังว่าบุคคลที่ทักข้อความมาหาตนเองนั้นไม่ใช่น้าสาวของตนเองแต่อย่างใด แต่กลายเป็นมิจฉาชีพที่แฮ๊กเฟสบุ๊คของน้าเข้ามาหลอกยืมเงิน จึงรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีตามก็หมาย

          ด้าน พ.ต.ท.สุศรันย์    ศรีบุญเจริญชัย  สารวัตรสบอสวน สภ.บางพลี  จึงได้รับแจ้งความและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพื่อออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ เพื่อมาสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่หรือเป็นเพียงรับจ้างเปิดบัญชีเพื่อใช้เป็นช่องทางของมิจฉาชีพ ทั้งนี้ก็ยังถือว่ามีความผิดทางอาญาด้วยเช่นกันหากเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้คดีนี้ตามตัวผู้ก่อเหตุไม่ยากเนื่องจากมีหลักฐานด้านการเงินที่ระบุชื่อและข้อมูลทะเบียนราษฎร์ไว้อย่างชัดเจนซึ่งหลังจากนี้จะได้ประสานไปยังธนาคารเจ้าของบัญชีเพื่อติดตามมาสอบปากคำ

 

          ทั้งนี้จึงอยากฝากเตือนไปยังชาวเนตโดยเฉพาะเฟสบุ๊ค ที่ปัจจุบันพบว่ามีผู้เสียหายในลักษณะเช่นนี้จำนวนมากที่เดินทางมาแจ้งความ หากประชาชนท่านใดที่พบว่ามีการส่งข้อความทักมาหาของบุคคลใกล้ชิดหรือรู้จักคุ้นเคยนั้นขอให้ตรวจสอบข้อมูลและสอบถามไปยังเจ้าตัวก่อนเพื่อยืนยันการยืมเงินว่าจริงหรือไม่อย่างไรจะได้เลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในโลกออนไลน์

ภาพ/ข่าว สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ    ผู้สื่อข่าวภูมิภาค    สำนักข่าวทีนิวส์    จ.สมุทรปราการ