คดีไหนก็ไม่สะดุ้งเท่า 112!! "ทักษิณ" ไม่ยี่หระ หลังอัยการสั่งรื้อ 2 คดี ต่างจากเดือนก่อนที่ส่อโดนคดีหมิ่น รอบนั้นเต้น-พร้อมขู่ฟ้องคนขยายต่อ?

 

วัน 2 วันก่อนมีข่าวใหญ่ทางการเมืองอยู่ชิ้นหนึ่ง นั่นคือรายงานข่าวที่สำนักงานอัยการสูงสุด แจ้งว่า "นายเข็มชัย ชุติวงศ์" อัยการสูงสุดคนใหม่ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อพิจารณารื้อฟื้นคดีทุจริตของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมาตรี ที่ค้างอยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และถูกจำหน่ายคดีออกจากสารบบจำนวน 2 คดีที่อัยการสูงสุดเป็นผู้ยื่นฟ้อง นั่นคือ  คดีทุจริตปล่อยเงินกู้ธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร เเละคดีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือและดาวเทียมเป็นภาษีสรรพสามิต ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายมหาศาลแก่รัฐ ขณะที่กิจการของตนเองได้ประโยชน์ไปเต็มๆ แต่ดูท่าทักษิณจะไม่ยี่หระ ต่างจากเดิอนก่อนที่ส่อโดนคดีหมิ่นเบื้องสูง รอบนั้นดิ้นพล่าน-พร้อมขู่ฟ้องคนที่หยิบเรื่องนี้มาเล่น หรือขยายต่อ?

 

อย่างไรก็ตาม เหตุที่อัยการสูงสุดสั่งรื้อคดีดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย วิธีพิจารณาความคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฉบับใหม่บังคับใช้ และเปิดช่องไว้ให้ สามารถพิจารณาคดีลับหลังได้ นั่นเองจึงเป็นเหตุให้เรื่องที่คนไทยกำลังจะลืม ๆ นี้ กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง แล้วว่าไปแล้ว "นายเข็มชัย" เองก็ออกมาระบุเรื่องนี้ด้วยตนเอง เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งอัยการสูงสุดคนใหม่-คนที่ 14 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา

โดยในวันนั้น นายเข็มชัย ได้ระบุว่า คดีดังกล่าวเป็นการยื่นฟ้องคดีในกฎหมายเก่าปี พ.ศ.2542 (พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542) ที่เดิมไม่สามารถที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาคดีลับหลังโดยที่ไม่มีตัวจำเลยได้ แต่กฎหมายใหม่ที่เพิ่งออกมา พ.ศ.2560 มาตรา 28 ให้ศาลสามารถดำเนินกระบวนพิจารณาคดีโดยไม่มีตัวจำเลย หรือ พิจารณาคดีลับหลัง ดังนั้น จึงเป็นการคาบเกี่ยวกับการออกกฎหมายใหม่ แต่ในบทเฉพาะกาล มาตรา 69 ของกฎหมายใหม่ได้ระบุไว้ว่าการดำเนินการใดที่เกิดขึ้นมาโดยสมบูรณ์ตามกฎหมายเก่าแล้วนั้น จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ให้พิจารณาต่อไปตามกฎหมายใหม่ที่บังคับใช้ ดังนั้น ความเห็นส่วนตัวจึงเห็นว่าคดีดังกล่าวสามารถรื้อฟื้นกลับมาพิจารณาใหม่ได้ ซึ่งอัยการจะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เพื่อดำเนินการต่อไป

 

นั่นคือความเห็นของอัยการสูงสุดคนใหม่ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ต่อมาอีก 1 เดือนคือวันที่ 1 พฤศจิกายน ก็มารายงานข่าวว่า นายเข็มชัย ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อพิจารณารื้อฟื้นคดีดังกล่าวแล้ว...ตามที่เปรยไว้แต่แรก แต่ไม่ว่าจะอย่างไร จนถึงขณะนี้ซึ่งผ่านมา 3 - 4 วันเข้านี่แล้ว กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใด ๆ จากฝ่ายทักษิณ ไม่มีการส่งเสียงส่งสัญญาณใด ๆ จากเขา ต่างจากคดีหมิ่เบื้องสูงหรือความผิดมาตรา 112 ที่นายเข็มชัย ก็พูดถึงเรื่องนี้ในวันเข้ารับตำแหน่งใหม่ในวันนั้นเช่นกันว่า อาจต้องดำเนินการต่อ หลัง ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุดคนก่อน มีเห็นสมควรสั่งฟ้อง คดีที่นายทักษิณ หมิ่นสถาบันเบื้องสูง และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2558 ตามที่ตำรวจ ปอท. เคยรวบรวมหลักฐานไว้...ซึ่งเรื่องนี้สร้างความขุ่นเคืองให้ทักษิณอย่างหนัก 

 

เขาถึงกับโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว "Thaksin Shinawatra @ThaksinLive" เพื่อปกป้องตนเอง โดยอ้างว่าตนเองถูกแอบอ้างชื่อไปโยงใยเรื่องนี้ว่า 

ผมได้ทราบข่าวเรื่องข้อความจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง โดยมีการกล่าวอ้างถึงชื่อผม ด้วยความไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง (1)

ผมขอยืนยันว่าไม่เคยรู้จักบุคคลดังกล่าว และไม่เคยแม้แต่จะคิด ที่จะล่วงเกินสถาบันฯ เลยแม้แต่น้อย (2)

ผมขอประณามในวิธีการดังกล่าว และยืนยันที่จะเอาเรื่องจนถึงที่สุด ในการที่นำชื่อผมเข้าไปเกี่ยวข้อง (3)

ผมขอประกาศให้ทราบไว้ ณ ที่นี้ว่า ไม่ว่าใครที่ผมจะรู้จักหรือไม่ก็ตาม (4)

หากมีการแอบอ้างหรือพาดพิงถึงตัวผม โดยมีการก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูงอีก ผมจะให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีกับทุกคน (5)

 

 

 

ว่าไปแล้วอาการพลุ่งพล่านของทักษิณ กรณีที่ส่อว่าจะถูกฟ้องคดีหมิ่นเบื้องสูงกับ 2 คดีทุจริตที่อัยการสูงสุดจ่อรื้อฟื้นนั้น...ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว คล้ายกับจะเผยให้เห็นความกังวลในเบื้องลึกว่า สำหรับทักษิณแล้วโดนคดีอะไรก็คงจะไม่สู้กระไรนัก เพราะคดีอื่น ๆ ทำนองนี้ ก็มีอีกยาวเป็นหางว่าว แต่สำหรับคดี ม.112 เรื่องนี้...เขายอมไม่ได้...จึงรีบออกมาตอบโต้กรณีดังกล่าวทันที

 

แม้แต่ "เอม พิณทองทา" ลูกสาว ยังได้ออกมาปกป้องพ่อตนเองทำนอง พ่อของเธอมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย และรู้สึกเห็นใจ และเหนื่อยใจแทนที่พ่อของเธอโดนใส่ร้ายเรื่องนี้...ขณะที่หากเป็นคดีทุจริตอื่น ๆ ที่มีอยู่เป็นหางว่าว และก็ส่อโดนรื้อฟื้นเช่นกัน...ก็ไม่เห็นปฏิกิริยาเช่นนี้จากเธอ...นั่นยิ่งสะท้อนว่า...คดีหมิ่นเบื้องสูง หรือ คดี ม.112 ถือว่าเป็นของแสลงสำหรับทักษิณทีเดียว และเขาคงยอมไม่ได้...หากมีใครพาดพิงโยงใยตนเองกับการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง...แม้ภาพถ่ายหลักฐานจะมีให้เห็นอยู่ทนโท่ว่า...รอบกายของเขาในบางครั้ง...จะแวดล้อมสรวลเสเฮฮาไปด้วยแดงล้มเจ้าทั้งหลาย ทั้งเจ๊ดา-ดารณี ,จักรภพ เพ็ญแข หงอก-สุนัย จารุพงษ์ เรืองสุวรรณ และอื่น ๆ อีกมากมายเกินสาธยายก็ตาม

 

 

...ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ เรื่องการรื้อฟื้นคดีทุจริตของนายทักษิณ ชินวัตร ของอัยการสูงสุด รวมทั้งสั่งฟ้องคดี ม.112 ด้วยหรือไม่นั้น อยู่ในขั้นพิจารณารายละเอียดอีกรอบ เราคงต้องจับตาดูว่า...จากนี้คดีจะเดินหน้าไปทางไหน...และทักษิณจะถูกพ่วง 112 อีกคดีหรือไม่...อย่ากะพริบตา