- 11 พ.ย. 2560
ติดตามรายละเอียด : FB. Deeps News
คลิกเพื่อชมคลิป...
จากกรณีเหตุการณ์ที่ช็อกความรู้สึกบรรดาแฟนคลับ เมื่อ นายธนัท ฉิมท้วม หรือ โจ บอย สเก๊าท์ ได้เสียชีวิต ขณะไปร้องเพลงที่ คัลเลอร์บาร์ ย่านทาวน์อินทาวน์ โดยจู่ๆ โจ ก็ล้มลงไปที่พื้นและพบว่าตาเหลือก กัดกราม น้ำลายฟูมปาก และหายใจเบาและตัวเย็น ก่อนที่แพทย์จะช่วยปั๊มหัวใจนานกว่า 30นาที แต่ก็ไม่เป็นผล โดยแพทย์ตรวจเลือดพบว่าน้ำตาลสูงถึง 300 ระบุสาเหตุการเสียชีวิตคือกล้ามเนื้อหัวใจไม่ทำงาน
โดยในเวลาต่อมา เฟซบุ๊ก "สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669" ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า...เช้านี้ตื่นมาด้วยข่าวร้าย ของพี่โจ บอยสเก๊าท์ ที่เสียชีวิตขณะร้องเพลง ซึ่งแอดมินได้ยินจากในคลิปมีคนพูดว่า "ยังหายใจ" วันนี้แอดเลยขอพูดถึงอาการ #หายใจเฮือก ซึ่งเกิดขึ้นในคนหัวใจหยุดเต้น แต่มักจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดจนการช่วยเหลือนั้นล่าช้าค่ะ ในผู้ที่หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันบางราย แม้ว่าหัวใจจะหยุดเต้นไปแล้ว แต่สมองยังคงสั่งการให้ร่างกายพยายามหายใจ ที่เรียกว่า agonal breathing (Gasping) หรือการหายใจเฮือก ผู้ป่วยจะหายใจแบบอ้าปากพะงาบ ทำให้คนรอบข้างเข้าใจผิดว่ายังหายใจเป็นปกติ และทำให้การตัดสินใจช่วยเหลือด้วยการกดหน้าอก CPR นั้นช้าลง ซึ่งจากการวิจัยทางการแพทย์นั้นผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการกดหน้าอกช่วยภายในเวลา 4 นาทีหลังจากที่หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
แนะนำว่าขั้นตอนของการช่วยชีวิตสำหรับประชาชนทั่วไป เมื่อพบผู้หมดสติให้ปลุกเรียก ถ้าไม่ตอบสนอง ให้สังเกตการหายใจ หากไม่หายใจ หรือหายใจเป็นเฮือก หรือสงสัยว่าไม่หายใจ
1.ให้โทร 1669 เพื่อเรียกหน่วยกู้ชีพ
2.จากนั้นให้เริ่มทำการกดหน้าอก CPR โดยประสานมือตรงกี่งกลางหน้าอกระหว่างหัวนมสองข้าง กดลึก 5-6 เซนติเมตร กดต่อเนื่องด้วยจังหวะ 100-120 ครั้งต่อหน้าที จนกว่าหน่วยกู้ชีพมาถึง หรือจนกว่าผู้ป่วยจะมีการตอบสนอง
3.หากสถานที่นั้นมีเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติหรือ AED ให้ร้องขอเพื่อนำมาใช้โดยทำตามคำแนะนำของเครื่อง AED
**** คลิปแสดงตัวอย่างอาการหายใจเฮือกในผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน***
ขณะเดียวกัน ทางด้าน ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสพฉ. ยังได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวและเพื่อนๆ ของโจ บอยสเก๊าท์ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมย้ำกว่าความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจถือเป็นภัยเงียบที่อาจนำมาสู่อาการภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา "ทั้งนี้ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการกดหน้าอกช่วยภายในเวลา 4 นาที หลังจากที่หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จึงจะสามารถเพิ่มโอกาสรอดชีวิต"
ขอบคุณที่มา : สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669