"ไก่อู" เผย "บิ๊กตู่" ยันปรับ ครม. ไม่กระทบเศรษฐกิจแน่

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

โฆษกรัฐบาลผย "บิ๊กตู่" ขอประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาล ยันปรับ ครม. ไม่กระทบเศรษฐกิจแน่


วันนี้ (11 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า เวลานี้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางด้านเศรษฐกิจ ขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจของ ม.หอการค้าไทย เดือน ต.ค.60 พบว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 6 มีระดับความเชื่อมั่นอยู่ที่ 64.1 ส่วนความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในอนาคตปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 3 อยู่ที่ระดับ 80.8 ซึ่งตัวเลขความเชื่อมั่นเกือบทั้งหมดเป็นไปทิศทางที่ดี ทั้งเรื่องการใช้จ่ายของผู้บริโภค โอกาสการหางานทำ การใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว และการลงทุน ซึ่งสะท้อนว่าประชาชนเริ่มเกิดความเชื่อมั่นในการจับจ่าย รวมทั้งมีปัจจัยด้านบวกอื่น ๆ เช่น ตัวเลขการส่งออกที่ดีขึ้น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดัชนีหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 20 ปี ราคาน้ำมันขายปลีกที่ลดลง 

 

โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ส่งข้อความมาเพื่อให้สร้างความมั่นใจกับประชาชนว่า รัฐบาลจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น และลดปัญหาปากท้อง โดยย้ำว่าเศรษฐกิจไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้น จากปี 2557 ที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.8 เพิ่มเป็นร้อยละ 3.2 ในปี 2559 และร้อยละ 3.7 ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยคาดว่าตลอดทั้งปีน่าจะขยายตัวมากกว่าร้อยละ 3.8 ส่วนในปี 2561 รัฐบาลจะมุ่งเน้นสร้างความเข้มแข็งของประชาชนระดับฐานราก ส่งเสริม SMEs และสร้างอุตสาหกรรมใหม่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมดิจิทัล เพื่อยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค รวมทั้งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งอย่างเต็มที่ เช่น รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ สนามบิน และโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซี 

 

"นายกฯ ยืนยันว่า แม้จะมีการปรับ ครม. แต่นโยบายเศรษฐกิจจะไม่เปลี่ยนแปลง เพราะรัฐบาลมีความชัดเจนต่อเป้าหมายในวันข้างหน้า โดยไม่หวั่นไหวต่อการวิพากษ์วิจารณ์ใด ๆ จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาล"


นอกจากนี้ จะมีการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาทั้งจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง และสิงคโปร์ เสริมด้วยรายได้จากการท่องเที่ยว ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 4


"วันนี้เป็นวันแรกของมาตรการช้อปช่วยชาติ ซึ่งรัฐบาลมั่นใจว่ามาตรการช้อปช่วยชาติ จะก่อให้เกิดผลดีสำหรับทุกฝ่าย ทั้งส่วนของผู้จำหน่ายสินค้าและบริการที่จะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลออกมาตรการ คือ ระหว่างวันที่ 11 พ.ย.- 3 ธ.ค.60 ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีประจำปีได้ ในวงเงินไม่เกิน 15,000 บาท  รวมทั้งมาตรการนี้ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ ส่งผลบวกตั้งแต่ผู้ผลิตต้นทางไปจนถึงผู้บริโภคปลายทาง" โฆษกรัฐบาล ระบุ