ศาลเจ้าจุ้ยตุ้ย!! เต้าโบ้เก้งจัดงานแซยิดองค์พระเตี่ยนฮู้หง่วนโส่ยหรือเล่าเอี๋ยอย่างยิ่งใหญ่ อัญเชิญกิ้มซิ้นออกอิ้วเก้งแห่รอบเมืองม้าทรงทุกศา

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา 12 พ.ย. 2560 ที่ถนนหลายสายในตัวเมืองภูเก็ต ได้มีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนออกมาตั้งโต๊ะรับพระ และจุดประทัดใส่ขบวนแห่ ในพิธีอิ้วเก้งหรือ แห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย เต้าโบ้เก้ง ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของภูเก็ตที่ได้จัดพิธีอิ้วเก้งแห่พระรอบเมืองขึ้นในโอกาศ แซยิด หรือวันคล้ายวันเกิด องค์พระเตี่ยนฮู้หง่วนโส่ย หรือ เล่าเอี๋ย

โดยในขบวนแห่เต็มไปด้วยบรรดามาทรงองค์พระหรือเทพเจ้าที่ต่างใช้ศาตราวุธทั้งในและนอกตำนาน ทิ่มแทงทรมานร่างกายเพื่อแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์ และตามด้วยขบวนไท่เปี่ย หรือเสลี่ยงเล็ก จากหลายศาลเจ้าในจังหวัดภูเก็ตและรวมถึงบางศาลเจ้าจากจังหวัดใกล้เคียงที่มาร่วม เช่น ศาลเจ้าแสงธรรม อ.เมือง อัญเชิญองค์พระเล่าเอี๋ยร่วมพิธีอิ้วเก้ง   ศาลเจ้าไม้ขาวไห่เหยียนเก้ง  อ.ถลาง อัญเชิญพระองค์หยี่เต็กจุ่นอ๋องร่วมพิธีอิ้วเก้ง  

 ขณะที่ศาลเจ้าจากจังหวัดพังงาก็มาร่วม 3 ศาลเจ้าได้แก่ ศาลเจ้าม่าจ้อโป้ อ.เมือง ศาลเจ้าฮกเล่งเก้ง อ.โคกกลอย และศาลเจ้าเล่งสั้นเก้ง จ้อซู่ก้ง  อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งก็มีการอัญเชิญกิ้มซิ้นของพระเล่าเอี๋ย และ องค์พระประจำศาลเจ้า มาร่วมขบวน 

โดยขบวนออกจากศาลเจ้ามุ่งหน้าไปทาง ถ.ระนองเลี้ยวขวาเข้า ถ.วิชิตสงคราม เข้าถ.กระบี่ ต่อไปยังถ.ดีบุก วกกลับทางถ.เทพกระษัตรี เลี้ยงขวาเข้าถ.ถลาง เข้าถ.เยาวราช ถ.พังงา และเข้า ถ.มนตรี  ผ่านวงเวียนสุรินทร์ไปทาง ถ.ดิลกอุทิศ  ถึงหน้าโรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว ก่อนวกกลับศาลเจ้า

ทั้งนี้ทางคณะกรรมการศาลเจ้าได้มีมติอนุญาติให้ผู้ร่วมชมขบวนสามารถจุดประทัดใส่ขบวนแห่ได้ จทำให้ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยประทัด ขณะเดียวกันทางศาลเจ้าได้มีการแจกภาพโปสเตอร์รูปองค์พระเตี่ยนฮู้หง่วนโส่ย และเหรียญพระเล่าเอี๋ยทองเหลืองเม็ดแตงรุ่น 1 ให้กับผู้ที่ตั้งโต๊ะรับขบวนอีกด้วย

นายกิตติวงศ์ จันทร์สัทธรรม ประธานศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย เต้าโบ้เก้งกล่าวว่า การประกอบพิธีอิ้วเก้งหรือแห่พระรอบเมืองแซยิดพระเตี่ยนฮู้หง่วนโส่ย หรือ เล่าเอี๋ย ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ทางคณะกรรมการศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 13 พ.ย.60 โดยในวันที่ 11 พ.ย. 60 นั้น ได้มีพิธี ป้างเอี๋ย พิธี เชี้ยโห้ย และพิธีเชี้ยหยกอ๋องซ่งเต่  วันที่ 12 คือพิธีอิ้วเก้ง แห่พระรอบเมือง และ วันที่ 13 พ.ย.มีพิธี ป้ายหล่าวฉ่ายอิ้ว พิธีโข้กุ้น พิธีเจี่ยนสิ่นก้อง และพิธีส่งหยกอ๋องซ่งเต่   

โดยในส่วนของวันนี้ (12 พ.ย.) ซึ่งเป็นพิธีอิ้วเก้งแห่พระนั้นความพิเศษคือ ทางศาลเจ้าได้อัญเชิญกิ่มซิ้น พระเล่าเอี๋ยขนาด 59 นิ้ว ออกแห่อวยพร ให้สาธุชนผู้ศรัทธาได้สักการะขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งกิ่มซิ้นพระเล่าเอี๋ยองค์นี้ ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปี ที่ประดิษฐานอยู่ในอ๊ามจุ้ยตุ่ยนั้นไม่เคยมีการอัญเชิญหรือเคลื่อนย้ายออกจากศาลเจ้าเลยแต่อย่างใด ครั้งนี้คงเป็นครั้งเดียวในกรณีพิเศษ ที่ได้อัญเชิญกิ่มซิ้นองค์นี้ออกแห่ เพื่อเป็นบันทึกในความทรงจำอีกหน้าหนึ่งของชาวศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยและชาวภูเก็ต 

สำหรับประวัติขององค์พระเตี่ยนฮู้หง่วนโส่ย หรือ เตี่ยนโตวหง่วนโส่ย หรือ ส่วนมากจะเรียกท่านว่า “เล่าเอี๋ย“ตามตำนานระบุว่า เล่าเอี๋ยเกิดมาถูกทิ้งในทุ่งนา แต่อยู่รอดมาได้ด้วยปูบ้วนน้ำลายให้กินเป็นอาหาร จนกระทั่งมีชาวนามาพบและเก็บไปเลี้ยง วัยเด็กชอบเสียงดนตรีมาก ถึงกับสร้างขลุ่ยจากไม้ไผ่และเครื่องดนตรีอีกหลายชนิด จากนั้นก็เล่นดนตรีเรื่อยมาจนถูกเรียกตัวไปยังเมืองหลวงในตำแหน่งนักดนตรีประจำวัง จนกระทั่งถูกย้ายให้ไปคุมกองทหารฝ่ายเหนือตำแหน่งนายทหารฝ่ายบุ๋น ตรงนี้ประวัติเล่าว่าท่านได้พาสัตว์เลี้ยงตั้งแต่ท่านยังเล็กคือ สุนัข และไก่ ติดตามไปด้วย หลังจากนั้นได้เกิดสงครามขึ้น ด้วยความไม่รู้ในการศึกจึงถูกข้าศึกล้อมเมืองไว้ ขณะที่เมืองกำลังจะถูกตีแตก ท่านก็ได้เกิดแนวคิดโดยแบ่งทหารออกมาส่วนหนึ่ง ให้แต่งกายด้วยหนังสัตว์แล้วทำการแสดงที่เรียกว่า ละครเงาหุ่นกระบอกคนประกอบดนตรี ส่วนทหารที่เหลือซุ่มไว้ ข้าศึกเข้ามาเห็นต่างก็ตะลึงและหลงไหลเนื่องจากไม่เคยเห็น ทันใดนั้นเหล่าทหารที่ซุ่มไว้ต่างเข้าโจมตีสวนกลับจนกระทั่งข้าศึกแตกพ่ายหนีไป ฮ่องเต้ทราบความจึงแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพเตี่ยน หรือ เตี่ยนตูหง่วนโส่ย หลังสิ้นอายุขัย (วัยหนุ่ม) จึงถูกสรรเสริญให้เป็นเทพแห่งการแสดง และ การละเล่น ลักษณะกิมซิ้นจึงเป็นชายหนุ่มหน้าตายิ้มแย้ม มักเขียนรูป ปู ไว้บนหน้าผาก หรือ บริเวณปาก เนื่องจากระลึกถึงบุญคุณที่ปูช่วยชีวิตตอนเป็นทารก และมักมี สุนัข และ ไก่ อยู่ด้วย ซึ่งสัตว์ทั้งสองเป็นสัตว์เลี้ยงตั้งแต่เด็กนั่นเอง.

ลักษณะรูปเคารพ (กิมซิ้น) ของเล่าเอี๋ย คือ1. นิ้วท่านจะชี้ขึ้นและชี้ลง แปลว่า “สวรรค์ให้กำเนิด พสุธาให้คงอยู่” 2. มีรูปปูที่หน้าผากของรูป 3. มีไก่กับสุนัขข้างกาย เชื่อกันว่าทั้งไก่และสุนัขนี้เป็นเพื่อนสมัยเด็กของท่าน

//////////////////////////////

 

ข่าว/ภาพ อุทัย แสงสุวรรรณ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ภูเก็ต